“วันคุมกำเนิดโลก 54” รณรงค์หญิงไทยให้ “กล้า” และ “มั่นใจ” ในการ “คุม” ชีวิตตนเอง

แชร์ข่าวนี้

APCOC จับมือ 3 องค์กรชั้นนำจัด “วันคุมกำเนิดโลก 54” รณรงค์หญิงไทยให้ “กล้า” และ “มั่นใจ” ในการ “คุม” ชีวิตตนเอง มุ่งสร้างสังคมปราศจากภาวะท้องไม่พึงประสงค์อย่างยั่งยืน

– ผลสำรวจหญิงไทยกว่าร้อยละ 52 ไม่เคยพบสูตินรีแพทย์ และกว่าร้อยละ 77 ไม่ป้องกันและคุมกำเนิดเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนใหม่

– เปิดตัวละคร “สงครามดอกรัก…รักนี้คุมได้้” ละครเวทีรณรงค์การคุมกำเนิดในวันคุมกำเนิดโลก 54 สะท้อนภาพหญิงยุคใหม่ที่ต่อสู้เพื่อความรักและความสำเร็จผ่านทางเลือกที่แตกต่างกัน นำแสดงโดย 3 ดาราสุดฮ็อต เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา , เมย์ พิชญ์นาฎ สาขากร และ จิ๊บ-ปกฉัตร เทียมชัย ร่วมด้วยอีกหนึ่งดาราหนุ่ม บอย-พิษณุ นิ่มสกุล

สภาวิชาการคุมกำเนิดแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปเออร์ เฮลธ์แคร์ แผนกเวชภัณฑ์ จัดกิจกรรมรณรงค์วันคุมกำเนิดโลกปี 2554 (World Contraception Day 2011) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 26 กันยายนของทุกปี โดยปีนี้มีพันธกิจที่จะสร้างสรรค์สังคมที่ปราศจากการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้สิทธิ เรียนรู้การคุมกำเนิด” (Live your life. Know your rights Learn about contraception) ผ่านกิจกรรมเสวนา “สอนหญิงมั่น คุมรักอย่างชาญฉลาด” เพื่อเปิดเผยผลการสำรวจล่าสุดใน 9 ประเทศเอเชีย-แปซิฟิคเกี่ยวกับ “ความรู้และเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านการคุมกำเนิด” พร้อมกิจกรรมละครเวที “สงครามดอกรัก…รักนี้คุมได้” เพื่อผู้หญิงยุคใหม่จะสามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องกังวลกับการตั้งครรภ์และแท้งในวัยเรียน

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล คณบดีวิทยาลัยสาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในฐานะผู้แทนสภาวิชาการคุมกำเนิดแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคประจำประเทศไทย (APCOC) เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน ผู้หญิงมีความกล้าคิดกล้าแสดงออก และกล้าที่จะต่อสู้เพื่อความต้องการของตัวเองมากขึ้น ทั้งในด้านการทำงาน และเรื่อชีวิตส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องความรักที่ผู้หญิงไม่ได้รอเพื่อเเป็นฝ่ายถูกเลือกอีกต่อไป แต่มีผู้หญิงจำนวนอีกไม่น้อยที่พลาดในเกมความรัก ทำให้ชีวิตพัง เนื่องจากไม่คุมกำเนิด สิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างมากจากผลสำรวจอีกอย่างหนึ่งพบว่าร้อยละ 77 ของหญิงไทยเคยไม่ป้องกันและคุมกำเนิดเมื่อมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนใหม่ โดยร้อยละ 23 ของหญิงไทยให้เหตุผลว่าตนไม่มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์และคู่นอนไม่ต้องการใช้อุปกรณ์ป้องกัน อีกร้อยละ 10 ตอบว่าขณะนั้นไม่มีความพร้อมในเรื่องอุปกรณ์ป้องกัน และตนไม่ชอบใช้อุปกรณ์ป้องกัน จากแบบสอบถามยังพบเรื่องที่น่าประหลาดใจว่า ร้อยละ 49 ของกลุ่มตัวอย่างชาวไทยตอบว่าตนสบายใจที่จะปรึกษาเรื่องการคุมกำเนิดกับเพื่อน ซึ่งขัดแย้งกับผลสำรวจที่พบว่ากลุ่มตัวอย่างเดียวกันนี้ร้อยละ 48 คิดว่าเพื่อนคือแหล่งข้อมูลที่ให้ข้อมูลผิดพลาด และไม่ถูกต้องมากที่สุด โดยสาเหตุมาจากความอาย และกลัวพ่อแม่รวมถึงคนใกล้ชิดจะรู้ เมื่อสอบถามวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพ หญิงไทยร้อยละ 56 เลือกยาเม็ดคุมกำเนิด และร้อยละ 54 เลือกยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ซึ่งนั่นหมายความว่าหญิงไทยในปัจจุบันยังไม่มีความรู้ ความเข้าใจถึงอันตรายของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเพียงพอ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลข้างเคียงคือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีเลือดออกกระปริดกระปรอย หรือมีเลือดออกมากระหว่างมีประจำเดือน และหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดภาวะระดับฮอร์โมนสูงในร่างกาย ส่งผลให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูก และมะเร็งปากมดลูกด้วย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 ครั้งต่อเดือน

นายแพทย์กิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ผู้อำนวยการสำนักอนามัยเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า “ในปัจจุบันผู้หญิงไทยจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับภาวะการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ รวมถึงสถานการณ์ที่บังคับให้ต้องทำแท้ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กรมอนามัยต้องการรณรงค์ให้ผู้หญิงไทยรู้จักวิธีป้องกันการคุมกำเนิดอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ เพื่อการใชชีวิตอย่างมีคุณภาพ นอกจากการให้ความรู้ที่ถูกต้องแล้ว การสร้างทัศนคติและคำนิยมที่ถูกต้องเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธุ์ และการคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน เพราสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้ผู้หญิงสามารถควบคุมชีวิตตัวเองให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้การคุมกำเนิดยังเป็นส่วนสำคัญในการลดอัตราการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์และอัตรการทำแท้งอีกทางหนึ่งด้วย

ดังนั้น “วันคุมกำเนิดโลก 54” จึงเป็นกิจกรรมเพื่อรณรงค์การคุมกำเนิดที่สามารถกระตุ้นความสนใจให้คนในสังคมมาเห็นถึงความจำเป็นในการคุมกำเนิด แม้ว่าผู้หญิงในปัจจุบันจะมีความกล้า และมั่นใจในการควบคุมชีวิตของตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านหน้าที่การงานในอาชีพต่างๆ ก็จะมีผู้หญิงเก่งประดับวงการอยู่เสมอผู้หญิงในปัจจุบันมีความกล้ามากขึ้นที่จะใช้ชีวิตตามความปรารถนาของตนเอง แต่ก็มีหลายคนที่พลาดในเรื่องการคุมกำเนิด ทำให้ชีวิตต้องหักเหไปจากเส้นทางชีวิตที่วางแผนไว้ ร่วมเรียนรู้วิถีการต่อสู้เพื่อความรักของลูกผู้หญิงอย่างชาญฉลาดผ่านละครเวที “สงครามดอกรัก…รักนี้คุมได้” โดย 3 ดาราสาวตัวแทนผู้หญิงแกร่งยุคใหม่ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา , เมย์ พิชญ์นาฎ สาขากร และ จิ๊บ-ปกฉัตร เทียมชัย ที่จะมาเป็นภาพสะท้อนของผู้หญิง 3 สไตล์ที่มีวิธีการต่อสู้เพื่อความรักในรูปแบบต่างๆ กันเพื่อมัดใจชายหนุ่ม ซึ่งได้ บอย-พิษณุ นิ่มสกุลมาร่วมแสดง ในผู้หญิง 3 คนนี้ คนหนึ่งมีเพศสัมพันธุ์โดยไม่ป้องกัน อีกคนเลือกที่จะใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง และอีกคนหนึ่งนั้นเลือกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ชาญฉลาดและปลอดภัยที่สุด และแน่นอนว่าทั้งสามคนย่อมเผชิญชะตากรรมชีวิตที่ต่างกันไปตามทางที่ตัวเองเลือก บางคนอาจต้องลาจากคนที่ตัวเองรัก บางคนต้องเผิญหน้ากับโรคร้ายและบางคนต้องแลกทั้งหมดด้วยชีวิตของตนเอง

นายกิตติณัฐ ศรภิญญา หัวหน้าหน่วยธุรกิจเวชภัณฑ์สตรี ไบเออร์ เฮลธ์แคร์ แผนกเวชภัณฑ์ กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้นเวชภัณฑ์เพื่อสุขภาพผู้หญิงระดับโลก ได้ให้ความสำคัญกับการคุมกำเนิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของสตรีทั่วโลกมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ผลักดันให้เกิดโครงการรณรงค์เพื่อการคุมกำเนิดเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง โดยงาน “วันคุมกำเนิดโลก 54” นี้นับเป็นกิจกรรมล่าสุดที่ไบเออร์ เฮลธ์แคร์ แผนกเวชภัณฑ์ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ผ่านสถานการณ์จำลอง ซึ่งจะเป็นอีกสื่อหนึ่งที่ให้ความรู้ด้านการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง ภายใต้คำขวัญ “เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้สิทธิ เรียนกรู้การคุมกำเนิด” (Live your life. Know your rights Learn about contraception) เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้หญิงทั่วโลก และเพื่อให้พันธกิจที่ต้องการสร้างสรรค์สังคมที่ปราศจากการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ให้ประสบความสำเร็จ วันคุมกำเนิดโลกนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อรณรงค์ให้ผู้หญิงมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเพื่อผลักดันให้ผู้หญิงตระหนักถึงความสำคัญของการคุมกำเนิด และรู้จักประโยชน์ของยาเม็ดคุมกำเนิดเพิ่มมากขึ้น โดยหน่วยงานที่ร่วมกันจัดงานนั้นต่างพร้อมใจกันเดินหน้าเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิดและยาเม็ดคุมกำเนิดที่ถูกต้องให้แก่ผู้หญิงไทย เพื่อให้ผู้หญิงไทยสามารถจัดการควบคุมชีวิตได้ดั่งใจ และสร้างสรรค์สังคมที่ปราศจากการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์อย่างยั่งยืน”

 

 

 

ที่มา:  World Contraception Day 2011
บันทึกภาพ:  Starupdate
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง