เรื่องย่อ รักปาฏิหาริย์

แชร์ข่าวนี้

 

บทประพันธ์  วลัย  นวาระ

ความรักคือปาฏิหาริย์ที่วิเศษณ์ที่สุด และปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นได้ด้วยการกระทำของตัวเอง

 

คืนนั้น ณิชมน  ชุติมันต์ ได้พบกับชายคนหนึ่งที่แม้เธอพยายามจะมองเขาแต่กลับเห็นหน้าไม่ชัด  อาจเป็นเพราะหมอกที่หนาจัดในฤดูหนาวตอนกลางคืน  ยามที่ณิชมนกำลังตกต่ำสุดๆแบบนี้  การได้กำลังใจจากใครสักคนมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น  แต่การขอแต่งงานหลังจากคำให้กำลังใจทำให้ณิชมนต้องคิดหนัก  เพราะถึงแม้เขาจะดูหน้าตาดีและการันตีด้วยทรัพย์สินเงินทองจนถือได้ว่าเป็นชายในฝันที่เธอรอคอยมาตลอด  แต่เธอจะตกปากรับคำขอแต่งงานจากคนที่เธอไม่รู้แม้แต่ชื่อมันจะเป็นไปได้อย่างไร

ขณะกำลังครุ่นคิดอย่างหนักนั้น  ร่างของณิชมนก็เซไปเหมือนมีใครมาศอกเข้าที่ไหล่อย่างแรง  ณิชมนตื่นขึ้นและพบว่าเธอฝันไป  และศอกที่ว่าก็มาจากฝรั่งร่างใหญ่ที่นอนกินที่บนเครื่องชั้นประหยัดของเที่ยวบินจากอังกฤษสู่ประเทศไทย

ก้าวแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ  ณิชมนรู้สึกว่าประเทศไทยที่เธอจากมากว่าสิบปีเปลี่ยนแปลงไปมาก  เธอหวังว่าญาติที่พ่อเธอสั่งให้มาตามหาก่อนเขาตาย  คงจะยินดีต้อนรับเธอและอภัยในสิ่งที่พ่อและแม่ของเธอเคยทำผิดไว้  ขณะที่ณิชมนลากกระเป๋าใบใหญ่และเป้เก่าๆมาที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ  เธอก็ถูกรถเข็นของชายชาวต่างชาติชนเข้าโครมใหญ่  ชายคนนั้นเข้ามาขอโทษขอโพยและช่วยพยุ่งเธอลุกขึ้น  ณิชมนคิดว่าเธอไม่เป็นอะไรมากจึงให้อภัยเขา  ชายคนนั้นจึงเข็นรถจากไป  แต่ภารกิจของณิชมนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเธอพยายามค้นหากระเป๋าสตางค์ในเป้  แต่พบว่าเป้ถูกรีดขาดไปแล้ว  ทั้งเงิน  พาสปอร์ต  เอกสารสำคัญพร้อมใจกันหายไปหมด  ที่สำคัญเบอร์โทรศัพท์ตามหาญาติในเมืองไทย  ซึ่งก็คือ นวลแข  สุธาสินผู้เป็นยาย  และ  นันทนา  คุณป้าแท้ๆของเธอก็หายไปด้วย  ที่อยู่กับตัวของเธอตอนนี้ก็คือ  บัตรนักศึกษาและเงินไทยที่เพิ่งแลกมาแต่ก็แค่พันกว่าบาท  ณิชมนแทบกรี๊ดกับชะตาชีวิตที่ตกต่ำแล้วตกต่ำอีกของตัวเอง  แต่ไม่เป็นไร  พ่อบอกแล้วลมหายใจยังมีก็ต้องใช้มันประคองร่างกายสู้ต่อ

หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือแบบช่วยอะไรไม่ได้ของเจ้าหน้าที่สนามบิน  เพราะกล้องวงจรปิดไม่อาจจับคนร้ายที่ฉลาดพอจะพรางตัวหายไปในฝูงทัวร์กลุ่มใหญ่แล้วถอดเครื่องอำพรางตัวออก  แต่ณิชมนยังไม่หมดหวังเพราะอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าญาติของเธออยู่ที่ อ.เภอเทพสุธาในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ  แต่หลังจากที่จ่ายค่าแท๊กซี่จากสนามบินมาถึงท่ารถ  ณิชมนก็มีเงินเหลือไม่พอจะเดินทางไปถึงเทพสุธา  เธอจึงซื้อตั๋วที่ไปได้แค่ครึ่งทางแล้วค่อยไปหามุขมั่วนิ่มไปลงที่ปลายทางแล้วกัน  แต่แผนแกล้งนอนหลับบนรถก็ไม่ได้ผล  เมื่อตั๋วของเธอหมดระยะและดันมีคนซื้อตั๋วที่นั่งของเธอต่อ  ณิชมนถูกเด็กรถไล่ลงกลางทางในขณะที่พายุฝนโหมกระหน่ำ

ณิชมนนั่งเศร้าอยู่ที่ศาลาริมทางของท่ารถเล็กๆ  ยามนี้เธอเริ่มท้อแท้เป็นอย่างมาก  เพราะถ้าที่นี่เป็นอังกฤษหรือประเทศไหนสักแห่งในยุโรป  เธอคงยังจะพอเอาตัวรอดได้  แต่ประเทศไทยที่เธอจากไปตั้งแต่วัยไม่ถึงสิบขวบ  เธอควรจะทำยังไงดี  คิดแล้วก็ขอตายตามพ่อกับแม่ไปเลยดีกว่า  ณิชมนตัดสินใจเดินฝ่าฝนออกไปยืนกลางถนน  หวังจะให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วพาร่างของเธอไปสวรรค์หรือนรกตามแต่ฟ้าจะลิขิต  และเป็นจริงสมใจ  ไฟหน้ารถกระบะคันหนึ่งพุ่งตรงมาหาเธอ  ณิชมนยืนหลับตารอรับความตายท่ามกลางเสียงเบรกดังอย่างแรง  ณิชมนลืมตาขึ้นเพราะคิดว่าเธอคงตายแล้ว  ที่ไหนได้ตรงหน้าเธอเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา (พระเอก)  แต่สายตาของเขาโมโหอย่างรุนแรง  ชายหนุ่มเปิดฉากต่อว่าณิชมนเสียๆหายๆ  เพราะชีวิตของเขาก็ต้องพังหากต้องกลายเป็นฆาตกร  ณิชมนเองพอเถียงสู้ไม่ได้ก็หัวหมอบอกให้เขาชดใช้เงินค่าที่ทำเธอตกใจ  ทั้งสองเถียงกันท่ามกลางสายฝน  สุดท้ายชายหนุ่มจะลากณิชมนส่งตำรวจเพราะสงสัยว่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎ  ณิชมนจึงยอมรามือด้วยความเจ็บใจปล่อยให้ชายหนุ่มออกรถไป

 

ระหว่างที่เธอกำลังเซ็งอยู่นั้น  ก็มีรถกระบะอีกคันแล่นมาจอด  ชายวัยกลางคนที่เป็นคนขับวิ่งฝ่าฝนลงมาหาเธอแล้วถามว่าเธอคือ ประนอม บุญเสิรม ใช่ไหม  เขาขอโทษที่มารับช้าเพราะติดฝนอยู่ในไร่  และรีบขยั้นขยอให้ณิชมนรีบไปเพราะคุณผู้หญิงรออยู่  ณิชมนคิดว่าในช่วงวิกฤติอย่างนี้เธอขอที่พักที่กินสักคืน  แล้ววันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน

ที่ห้องรับแขกของบ้านในไร่ สรณาลัย ณิชมนได้พบกับ  พรรณอร  นวพรรษ  ประมุขของบ้าน  พรรณอรรู้สึกแปลกใจมากที่ ประนอม  บุญเสิรม ที่ส่งจดหมายมาสมัครบอกจบ ม.6 อายุ 25 ปี  แต่คนที่เธอเห็นไม่น่าจะเกิน 20 ปี  ณิชมนจึงโกหกไปว่าอายุเธอถึงแล้วแต่หน้าดูเด็กเอง  เมื่อพรรณอรของดูหลักฐาน  ณิชมนจึงเพียงแต่ให้ดูว่าเป้ถูกกรีดขาดและทุกอย่างหายหมด  พรรณอร ลองเชื่อใจณิชมนดูเพราะเวลานี้เธอต้องดูแลธุรกิจหลายอย่างในไร่ทำให้ไม่มีเวลาดูแลบ้าน

หลังจากนั้น  พรรณอรก็แนะนำสมาชิกในบ้านประกอบด้วย  พรพรรณ  ทัศนายุ  น้องสาวขอเธอที่ไม่ได้แต่งงานและมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยของพรรณอร  ม.ล.พิมพ์นฤมล  นวพรรษ  หรือ  นมล  ลูกสาวคนโตวัย 18 ปี  ที่สวย  เก่ง  แต่ไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ  จึงเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อจะได้อยู่ที่ไร่  ม.ล.พันธ์นฤสรร์  หรือ พันสร  ลูกชายคนเล็กวัย 5 ขวบที่กำลังเข้าเรียนประถมหนึ่ง  ชัยวัฒน์  ครูหนุ่มที่มาคอยดูแลพันสร  รวมถึงบริวารทั้งลุงดำเกิง คนขับรถแลคนสวน  ป้ารำไพแม่ครัว  กันยา  สายใจ  สองสาวใช้คู่ซี้ และด.ช.สมเจตน์  น้องของสายใจที่พรรณอรส่งให้เรียน

ณิชมนได้รู้ว่าสาเหตุที่พรรณอรต้องการแม่บ้านก็เพราะหลังจากที่  ม.ร.ว.นฤสรณ์  สามีของเธอเสียชีวิตลง  งานทุกอย่างก็ตกมาอยู่ที่พรรณอร  แม้จะตามน้องสาวคือพรพรรณมาช่วย  แต่เธอก็ยังไม่มีเวลาดูแลบ้านและลูกๆเท่าไหร่  ทำให้ต้องลงประกาศทางอินเตอร์เน็ท  แต่ไม่มีใครสมัครมาคงมีแต่ประนอม  บุญเสิรมคนเดียว  ณิชมนพอรู้เรื่องราวก็คิดได้ว่าประนอมคงจะสละงานนี้แล้ว  และเธอก็กำลังต้องการงานและเงิน  อีกทั้งจะได้สืบหาญาติของเธอด้วย  จึงคิดจะสวมรอยไปสักพัก

เย็นวันนั้น  นมล อาสาพาณิชมนขี่ม้าชมไร่  จนมาถึงท้ายไร่ณิชมนออกอุบายทำเป็นเหนื่อยและให้ณิชมนเดินเล่น  เมื่อสบโอกาส นมล ก็แอบเดินแยกไป  ณิชมนเดินไปเรื่อยๆก็เกิดหลงทาง  ยิ่งตามก็ยิ่งไม่เจอ  จนเธอเดินไปพบน้ำตกแสนสวย  ใจคิดจะนั่งเล่นสักพัก  แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาเดินเธอก็พบงูเห่าตัวหนึ่ง  ณิชมนคิดจะค่อยๆถอยหนีแต่เกิดพลาดเสียหลักล้ม  งูจึงเลื้อยเข้ามาระหว่างนั้นก็มีเสียงปืนดึงขึ้นแล้วเจ้างูโชคร้ายก็ตายสนิท  ณิชมน หันไปก็เจอชายหนุ่มที่พบกันครั้งอยู่ศาลา  เธออยากจะขอบคุณแต่ชายหนุ่มกลับต่อว่าและหาว่าเธอบุกรุก  ณิชมนจึงเปลี่ยใจเป็นต่อว่าๆเขาใจร้ายฆ่าสัตว์ที่อาจจะไม่ทำร้ายเธอก็ได้  ทั้งสองเถียงกันเพราะณิชมนเข้าใจว่าเขาเป็นคนงาน  จึงบอกจะฟ้องพรรณอร  ชายหนุ่มพอได้ยินก็ยิ่งโกรธและไล่ณิชมน  ณิชมนไม่ไปเพราะถือว่าอยู่ในไร่ของเจ้านาย  เถียงกันไปมาจน นมลวิ่งหน้าตื่นมาพร้อมกับ ม.ล.รวิภาส  บุริศร์  หรือ  ภาส  สองหนุ่มสาวตกใจมากที่เจอกับ คุณชายบุรธัช  หรือ  ม.ร.ว.บุรธัช  บุริศร์

คุณชายธัชไม่พอใจมากจึงลากตัวภาสกลับไป  นมล บอกให้ณิชมนรู้ว่าชายทั้งสองคือคุณชายธัชมีศักดิ์เป็น อา แท้ๆของ ภาส  ซึ่งภาสเป็นรุ่นพี่ของเธอที่โรงเรียนเก่า  ณิชมนเห็นอาการของนมลเล่าด้วยความเศร้าก็รู้ทันทีว่าหนุ่มสาวสองคนรักกัน  แต่เมื่อถาม นมล ก็ไม่ยอมรับ  แต่ที่ณิชมนไม่เข้าใจก็คือทำไม นมล ปล่อยให้คนอื่นมาวางก้ามในไร่  นมล บอกว่าณิชมนกับเธอต่างหากที่บุกรุก  เพราะณิชมนหลุดเข้ามาตรงช่วงที่ ภาศกับนมลแอบตัดรั้วรวดหนามไว้นั่นเอง  นมล เล่าอีกว่า  เมื่อก่อนสองบ้านก็เป็นเพื่อนกัน  เพราะพ่อของเธอและพี่ชายกับพี่สะใภ้ของ คุณชายธัช  ซึ่งก็คือพ่อกับแม่ของภาสเคยเป็นเพื่อนรักกัน  เพราะเป็นคนชวนกันมาซื้อไร่ที่นี่  แต่วันหนึ่งที่พ่อของเธอและพ่อแม่ของภาสต้องไปเจรจาธุรกิจในตัวจังหวัด  ขากลับปรากฎว่าพ่อแม่ของภาสรถคว่ำเสียชีวิต  คุณชายธัชต้องถูกเรียกตัวกลับมาจากเมืองนอก  และแถมว่าไร่ของภาสก็จะถูกยึดคุณชายธัชจึงต้องมาช่วยแก้ไขสถานการณ์และรับซื้อไร่คืนจากนายทุน  ถัดมาอีกสองปีพ่อของเธอก็เสียด้วยโรคมะเร็ง  พรรณอรต้องดูแลกิจการเอง  ซึ่งกลับโตวันโตคืน  ธุรกิจหลายอย่างที่พ่อแม่ของภาสเคยชวนลงทุนกลับมาอยู่ในมือพรรณอร  ทั้งโรงสี  โรงน้ำแข็ง  โรงบ่มยา  ฟาร์มแกะ  ตั้งแต่นั้นคุณชายธัชก็ไม่ชอบครอบครัวเธอ  เพราะคิดว่าพ่อของเธอทำให้พี่ของคุณชายเสียและฮุบกิจการไป  ไม่ว่าครอบครัวเธอจะพยายามผูกมิตรอย่างไรตั้งแต่สมัยพ่อเธอยังมีชีวิตจนพ่อเธอไม่อยู่  คุณชายก็ไม่เคยญาติดีด้วย  ณิชมนพอได้ฟังเรื่องราวจบก็คิดทันทีว่าคุณชายบุรธัชเป็นคนที่เย่อหยิ่ง ฐิทิและใจแคบจนไม่น่าคบ  นมล ขอร้องณิชมนไม่ให้บอกเรื่องกับแม่ของเธอ  เพราะไม่อยากให้แม่เสียใจ

วันรุ่งขึ้น ณิชมน  ต้องเข้าไปซื้อกับข้าวและของใช้ในบ้านที่ตลาดในเมือง  นมล ขอตามไปด้วยณิชมนก็ไม่ว่าอะไร  แต่เมื่อไปถึงตลาดก็ได้เจอ ภาส รออยู่ณิชมนหลังจากได้คุยกับภาสก็คิดว่าน่าไว้ใจได้จึงปล่อยให้ทั้งสองนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟระหว่างเธอไปซื้อของ  เมื่อกลับมาก็พบว่า คุณชายธัชกับสาวสวยคนหนึ่งได้แอบตามภาสมา  คุณชายไม่พอใจที่เด็กทั้งสองไม่เชื่อคำสั่ง  ณิชมนเห็นว่าคุณชายนั่นแหล่ะที่พูดไม่รู้เรื่อง  ไม่ควรจะห้ามเด็กทั้งสองคบกันเพียงเพราะโมหะที่ขาดเหตุผลของผู้ใหญ่  คุณชายธัชจึงพูดจาดูถูกณิชมนว่าเป็นเรื่องของเจ้านาย  ลูกจ้างอย่างเธอไม่เกี่ยว  ณิชมนสวนกลับเรื่องสิทธิมนุษยชนจนคุณชายอึ้งว่าคนใช้ทำไมคิดเรื่องแบบนี้ได้  ณิชมนจึงรีบหุบปากทันที  เมื่อคุณชายและภาสกลับไปแล้วณิชมนจึงได้รู้ว่าสาวสวยที่มากับคุณชายชื่อ วนิดา  น่าจะเป็นแฟนคุณชายเพราะทุกคนก็เพิ่งรู้จักได้ไม่กี่ครั้ง  ณิชมนยิ่งเห็นความเป็นเผด็จการของคุณชายเพราะทีตัวเองมีแฟนได้  แต่กับหลานบังคับควบคุมทุกอย่าง  ณิชมนจึงได้แต่ปลอบนมล ว่าถ้ามีโอกาสเธอจะช่วยนมลอย่างแน่นอนทำให้นมลรู้สึกดีขึ้น ทางด้านคุณชายกับภาสหลังจากที่ส่งวนิดาแล้วคุณชายกับภาสก็มีปากเสียงกัน  เพราะคุณขู่ว่าถ้าภาสยังดื้อกับเขาอีกเขาจะส่งภาสไปอยู่เมืองนอก  ภาสโมโหจึงทวงมรดกที่พ่อกับแม่เขาเตรียมไว้ให้และคิดว่าคุณชายธัชคิดจะฮุบ  แต่คุณชายธัชยังไม่ให้  ภาสจึงประกาศว่าเขารัก นมล เขาจะหาทางคบกับ นมลให้ได้  ทำให้คุณชายธัชยิ่งกลุ้มใจ  คุณชายธัชตัดสินใจบุกไปหาพรรณอรที่ไร่  ณิชมนกับนมลแอบฟังทั้งสองคุยกันแล้วรู้สึกสงสารพรรณอรที่ถูกคุณชายพูดจาหมิ่นเกียรติต่างๆนานา  คุณชายขอให้พรรณอรเลิกความคิดที่จะส่งลูกสาวมาจับหลานชายของเขาโดยใช้ณิชมนมาบังหน้า  เพราะสิ่งที่พรรณอรโกงพ่อแม่ของภาสไปก็มากเพียงพอแล้ว  พรรณเสียใจที่คุณชายไม่ยอมเข้าใจเธอจึงรับปากว่าจะไม่ให้ นมล ยุ่งกับ ภาสอีก

เมื่อคุณชายกลับไปพรรณอรจึงเรียกณิชมนและนมลไปพบ  ณิชมนถูกสั่งห้ามยุ่งเรื่องนี้อีก  ส่วน นมล ถูกสั่งห้ามพบกับภาส  ส่วนภาสติดต่อกับนมลไม่ได้  เขาจึงใช้วิธีของความช่วยเหลือจากณิชมน  ณิชมนพอได้คุยกับภาสแล้วเธอก็ได้รู้ว่าจริงๆแล้วภาสรักนมลมากอย่างจริงใจมาตั้งแต่สมัยเรียน  และเมื่อเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯได้ก่อน  แต่ นมล เลือกที่จะอยู่ที่ไร่เป็นเพื่อนแม่กับน้าที่เป็นผู้หญิง  ภาสจึงลาออกและกลับมาอยู่ที่ไร่  ทำให้คุณชายยิ่งโทษว่านมลจะทำให้หลานชายคนเดียวเสียอนาคต  และตอนนี้ภาสตัดสินใจแล้วว่าเขาจะพานมลหนีไปอยู่ด้วยกัน  ณิชมนรีบค้านทันทีเพราะการแก้ปัญหาของภาสมีแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง  ทางด้านพรรณอรกับพรพรรณก็กลุ้มใจกับเรื่องที่ได้รู้ว่า  นมล กับ ภาส แอบคบกัน  แม้จะไมได้รังเกียจภาส  แต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าอนาคตของหนุ่มสาวคู่นี้ไปไม่รอดแน่  เพราะคุณชายธัชคงต้องขัดขวางทุกวิธีทาง  ทั้งสองพี่น้องจึงแก้ปัญหาด้วยการเชิญเพื่อนเก่าที่เป็นคู่ค้าด้วยคือ  ครอบครัวของ  พาณี – สุเทพ  ประภานิช มาพักที่ไร่โดยให้ทั้งคู่พาลูกชายคือ  พงษ์เทพ  ประภานิช  มาด้วย  เพราะคิดว่าการที่ นมล ได้เจอคนอื่นบ้างอาจจะทำให้ นมล คิดได้และหันมาชอบคนที่แม่กับน้าสนับสนุน

แต่เมื่อครอบครัวประภานิชมาพักที่ไร่  กลับกลายเป็นว่าพงษ์เทพรู้สึกประทับใจการเอาการเอางานและความเก่งของณิชมน  ชัยวัฒน์ที่หมายตาณิชมนมาก่อนจึงไม่ค่อยชอบพงษ์เทพ  และคอยขวางเวลาพงษ์เทพอยู่ใกล้กับณิชมน  ส่วนนมลเองก็รู้เท่าทันความคิดของแม่และน้าจึงพูดตรงๆกับพงษ์เทพว่าเธอนับถือเขาเหมือนพี่ชาย  ซึ่งพงษ์เทพเองก็สารภาพว่าเขาเองชอบณิชมน  นมลจึงอาสาจะเป็นแม่สื่อให้  โดยเปิดโอกาสให้พงษ์เทพกับณิชมนต้องทำงานด้วยกันบ่อยๆ  และหลายครั้งที่คุณชายธัชเองได้เจอกับณิชมนและนมลพร้อมด้วยพงษเทพตามสถานที่ต่างๆ  ทำให้คุณชายธัชยิ่งคิดว่าณิชมนเป็นผู้หญิงที่ชอบจับคนรวย  เมื่อมีโอกาสได้คุยกันคุณชายก็จะคอยกระแนะกระแหนปะทะฝีปากกับณิชมนไปทุกครั้ง  จนณิชมนตั้งปณิธานว่าจะไม่มีวันญาติดีกับผู้ชายจอมเผด็จการคนนี้เป็นอันขาด  วันเวลาผ่านไปณิชมนเริ่มรักครอบครัวพรรณอรทุกคน  ยกเว้นก็เพียงชัยวัฒน์เพราะหลายครั้งชัยวัฒน์มักให้ความรู้แบบที่ไม่ค่อยถูกต้องและชอบอู้งานชวนพันสรกินกับนอนทั้งวัน  รวมทั้งชัยวัฒน์เองก็ชอบทำทีเป็นจีบณิชมนอยู่บ่อยๆจนเธอรำคาญ  จนวันหนึ่งณิชมนทนไม่ไหวกับการสอนของชัยวัฒน์จึงให้ความรู้ที่ถูกต้อง  ชัยวัฒน์โกรธที่ถูกหักหน้าต่อหน้าเด็กแต่ก็ทำให้เขาสงสัยว่า  ประนอม  คนนี้อาจจะไม่ได้จบ ม.6 อย่างที่อ้าง  ชัยวัฒน์ขู่จะกระชากหน้ากากของณิชมน  ณิชมนจึงสวนกลับว่าเธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชัยวัฒน์จบครูจริงหรือเปล่า  ชัยวัฒน์จึงได้แต่เก็บความไม่พอใจไว้ในใจไม่กล้าหือกับณิชมนอีก  วันหนึ่งทางหอการค้าจังหวัดจัดงานเลี้ยงต้อนรับหอการค้ายุโรปที่มาดูตลาดสินค้าเกษตร  พรรณอรได้รับการขอร้องให้ช่วยเหลืองานร่วมกับทางไร่ของคุณชายบุรธัช  แต่พรรณอรอยากปฎิเสธเพราะรู้ว่าคุณชายธัชต้องไม่ร่วมงานกับเธอแน่  แต่ทางจังหวัดก็ขอร้องเพราะถ้าพรรณอรไม่รับงานนี้จะเสียมารยาทและอาจจะมีผลเสียถึงเกษตรกรคนอื่นๆที่จะต้องทำการค้าร่วม  พรรณอรจึงมอบหมายให้ณิชมนช่วยเป็นตัวแทนเธอไปทำงานนี้  ณิชมนพอรู้ว่าต้องทำงานกับคุณชายธัชจึงอยากปฎิเสธแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเจ้านายบังคับ  ในใจก็นึกแต่ว่ายิ่งเกลียดผู้ชายคนนี้แต่กลับยิ่งเจอ  เมื่อไหร่ปาฎิหาริย์ชายในฝันจะเกิดขึ้นกับเธอเสียที

วันประชุมงาน  คุณชายบุรธัชพูดจาเยาะเย้ยดูถูกณิชมนที่กล้ามาเป็นตัวแทนของพรรณอร  ณิชมนบอกว่าเธอจะพิสูจน์ให้คุณชายเห็นเองว่าแม่บ้านอย่างเธอก็ทำงานใหญ่ๆได้  ณิชมนเสนอว่าการที่จังหวัดจะเสนออาหารไทยจากผลผลิตท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ดี  แต่น่าจะนำเสนอวัตถุดิบอื่นที่ทางจังหวัดผลิตได้เพื่อขยายตลาด  เช่น เอาหวายที่สานตะกร้าไปทำเสื่อรองจานอาหาร  เอากกที่ทอเสื่อไปทำชุดว่ายน้ำ  โดยจัดมุมแสดงสินค้ากันให้เต็มที่  ที่ประชุมเห็นดีด้วย  และมอบหมายให้ไร่ของพรรณอรและไร่ของคุณชายธัชช่วยประสานงานร่วมกัน  ณิชมน ขอทำอย่างอื่นคนเดียวแต่คุณชายรีบรับปากมัดมือชกทันที  เพราะคุณบุรธัชเริ่มสงสัยว่าประนอมคนนี้จบ ม.6 แม้จะมีนิสัยเด็กๆชอบเถียงชอบเอาชนะ  แต่มุมมองความคิดกว้างไกลเกินที่จะเป็นคนท้องถิ่นมาจากสังคมแคบๆ  หลังจากที่ประชุมคุณชายจึงเข้ามาคุยกับณิชมนและท้าว่าณิชมนไม่ควรเก่งแต่ปาก  น่าจะลงมือทำให้ดู  ณิชมนรับคำท้า

และเมื่อต้องมาร่วมมือกัน  คุณชายธัชก็คอยแต่จะแกล้งเตะถ่วงณิชมนต่างๆนานา  จนสุดท้ายพงษ์เทพจึงอาสามาช่วยแทน  คุณชายธัชยิ่งเห็นสองคนทำงานเขาขาก็ยิ่งหมั่นไส้  พูดจาเหน็บแนมแกล้งณิชมนต่างๆนานา  จนวันหนึ่งณิชมนทนไม่ไหว้จึงใช้นิสัยฝรั่งขอคุยเปิดอกกับคุณชาย  ด้วยความถือทิฐิของคุณชายจึงพูดไปว่าเขารังเกียจผู้หญิงที่ไล่จับผู้ชาย  ณิชมนโมโหตบหน้าคุณชายทันทีและบอกให้คุณชายรู้ว่าไม่ว่าจะคนที่อยู่ฐานะไหน  ต่างกันอย่างไร  ความเจ็บปวดมีเสมอกัน  ถ้าคุณชายถือตัวว่ามีการศึกษาชาตระกูลจะเข้าใจสิ่งที่เธอพูด  คุณชายถึงกับอึ้งที่ถูกณิชมนต่อว่าอย่างผู้ดี  เพราะไม่คิดว่าสาวบ้านนอกจะพูดจาได้คมคายขนาดนี้  คุณจึงเริ่มคิดว่าจะต้องสืบเรื่องราวของณิชมนให้ได้

ทางด้านวนิดาที่อยู่กรุงเทพฯแล้วรู้สึกคิดถึงคุณชายเป็นอย่างมาก  จึงขออนุญาตแม่ซึ่งก็คือนันทนา (ณิชมนยังไม่รู้ว่าวนิดาเป็นญาติเพราะคนละนามสกุลกับยาย)  ไปทำงานที่ไร่ของคุณชายบุรธัช  ซึ่งนันทนาก็เห็นดีด้วยเพราะรู้ว่าลูกสาวไม่ชอบชีวิตที่กรุงเทพฯ  เมื่อวนิดามาถึงก็อาสาช่วยงานคุณชายและต้องร่วมงานกับณิชมน  วนิดารู้สึกถูกชะตากับณิชมนกับนมลเป็นอย่างมากจนคุณชายเริ่มหมั่นไส้ณิชมน  เพราะไม่ว่าใครทั้งหญิงทั้งชายดูจะหลงเสน่ห์แม่บ้านความรู้น้อยคนนี้กันหมด  ณิชมนพยายามขอร้องให้วนิดาช่วยพูดกับคุณชายเรื่องภาสกับนมลแอบชอบกัน  เพราะเธอคิดว่าการที่ผู้ใหญ่ไปขัดขวางจะยิ่งทำให้เด็กๆจะเตลิดไปกันใหญ่  ทั้งๆที่ นมลและภาส ก็เป็นคนดีเข้าตามตรอกออกตามประตู  ไม่เคยคิดเกินเลยต่อกัน  วนิดาเข้าใจทั้งหมดและรับปากจะช่วยให้  ดังนั้นก่อนถึงวันงาน  วนิดาจึงหาโอกาสพาภาสมาเจอกับนมล  และให้ร่วมทำงานกันโดยพยายามไม่ให้คุณชายรู้เรื่อง  ภาสกับนมลค่อยรู้สึกสบายใจที่มีผู้ใหญ่อยู่ข้างพวกเขา  และรู้สึกรักและขอบคุณณิชมนที่คอยช่วยเหลือ  จนทั้งคู่รู้สึกว่าณิชมนในคราบประนอมเป็นเหมือนพี่สาวจริงๆ  จนวันงาน  ก็มีการแสดงบนเวที  คุณชายธัชโกรธมากที่เห็นว่าภาสกับนมลได้เป็นตัวแทนจังหวัดนำเสนอสินค้าโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง  คุณชายคิดว่าเรื่องนี้พรรณอรกับพรพรรณต้องมีส่วนรู้เห็น  จึงไปเอาเรื่องสองพี่น้อง  และประกาศว่าถ้าพวกไร่ สรณาลัย ทำแบบนี้ได้เขาก็จะทำมาตราการรุนแรงบ้างด้วยการส่งภาสไปเมืองนอกในเดือนหน้า  ภาสกับนมลแอบได้ยินเรื่องนี้  ทั้งคู่จึงตัดสินใจหนีไปด้วยกันในคืนนั้น รุ่งเช้า คุณชายธัชมาตามหาหลานที่บ้านพรรณอรพร้อมด้วยวนิดา  จึงได้รู้ว่านมลก็หายไปด้วย  คุณชายโกรธมากจะเอาเรื่องแต่ณิชมนเป็นคนห้ามไว้  เพราะถ้าเรื่องบานปลายใหญ่โตจะยิ่งทำให้เด็กทั้งสองพากันหนีไปไกลแน่  ณิชมนขอเวลาจัดการเรื่องนี้เอง  เธอสืบเรื่องนี้จนได้เบาะแสว่า  ภาสขับรถหนีเข้าป่าไป  ณิชมนจะไปตามโดยจะเอาพงษ์เทพไปเป็นเพื่อน  แต่คุณชายธัชยืนยันจะไปด้วยเถียงกันไปเถียงกันมา  คุณชายโมโหลากณิชมนขึ้นรถแล้วขับออกไป  ทิ้งให้พงษ์เทพกับวนิดาอยู่เฝ้าบ้านด้วยความเป็นห่วง

 

ระหว่างเดินทาง ณิชมน พาคุณชายไปพงกับ ครูมงคล ที่เป็นครูเก่าของภาสและนมล  จึงได้รู้ว่าทั้งสองไปหลบอยู่ที่ไร่ของญาติของครูซึ่งอยู่ในภูเขากันดารมาก  ณิชมนและคุณชายต้องเดินทางไปกันจนน้ำมันรถไปหมดกลางทาง  คุณชายบุรธัชที่ภายนอกดูเข้มแข็งแต่เอาเข้าจริงกลับไม่สมบุกสมบันต้องป่วยเป็นไข้ป่า  ณิชมนกลายเป็นคนที่ดูแลและพาไปส่งอนามัย  เมื่อคุณชายฟื้นขึ้นก็แปลกใจที่พบว่าณิชมนยังดูแลเขาอยู่  ณิชมนบอกว่าเธอทำไปเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยชีวิตเธอไว้จากงูเห่า  คุณชายเถียงว่าแต่ตอนนั้นณิชมนว่าเขาใจร้าย  ณิชมนสารภาพว่าจริงๆเธอตั้งใจจะขอบคุณ  แต่เห็นความไม่เป็นมิตรของคุณชายก็เลยตะแบงเรื่องซะงั้น  เมื่อไข้หายคุณชายกับณิชมนก็เดินทางไปต่อจนพบกับ ภาสและนมล  เด็กทั้งสองกลัวคุณชายและคิดจะหนีอีก  แต่ณิชมนเตือนสติเด็กทั้งสองว่าทำแบบนี้ก็จะไม่มีความสุขไปอีกนาน  และเมื่อมีลูกๆที่เกิดมาก็จะมีปมด้อย  เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี  ทางที่ดีทั้งสองคนต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีความรักความจริงใจต่อกันจนคุณชายและพรรณอรยอมรับ  คุณชายบุรธัชแอบมาฟังสิ่งที่ณิชมนเตือนเด็กๆ  จึงใจอ่อนและยอมให้ทั้งสองคบกัน  ขอแค่กลับไปบ้านและตั้งใจเรียนให้จบทั้งคู่

ก่อนจะกลับคุณชายธัชถามณิชมนว่าเธอเป็นใครกันแน่  เพราะเธอดูไม่น่าจะชื่อประนอม  บุญเสิรม  และเรื่องที่ปลอบภาสกับนมลเธอช่างพูดได้ราวกับประสบกับตัวเอง  ณิชมนบอกได้แต่เพียงว่า  พ่อกับแม่ของเธอก็เคยทำผิดแบบนี้และหนีไปอยู่ที่อื่น  เธอจึงรู้ดีกว่าพ่อกับแม่ของเธอไม่เคยมีความสุข  ชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย  และเมื่อวันหนึ่งพ่อกับแม่ของเธอไม่อยู่  เธอจึงรู้สึกว่าเป็นคนเดียวบนโลก  คุณชายธัชได้ฟังก็สงสารเข้ากอดณิชมนทันที  ณิชมนแม้จะรู้ว่าไม่สมควรแต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นจากการกอดของคุณชายธัช  เมื่อนำนมลกลับมาบ้าน  พรรณอรที่ดีใจเป็นอย่างมากจึงบอกคุณชายว่าเธอจะส่งนมลไปเรียนกรุงเทพฯ  แต่คุณชายค้านว่าไม่จำเป็น  ถ้าพรรณอรอยากดีกับครอบครัวเขาก็เอาทรัพย์สินส่วนที่โกงไปมาคืนภาสก็พอ  เพราะคุณชายคงรับไม่ได้ถ้าภาสจะแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อแม่เคยโกงสมบัติของภาสไป  พรรณอรจึงพาคุณชายไปที่ห้องทำงาน  และเอาเอกสารให้คุณชายดูทุกอย่าง  เพราะแท้จริงแล้ว  พ่อแม่ของภาสต่างหากที่บริหารไร่ผิดพลาดจนเป็นหนี้เป็นสิน  แต่ด้วยความละอายใจไม่อยากรบกวนทรัพย์สินส่วนของคุณชายบุรธัช  จึงมาขอยืมเงินสามีเธอเพื่อไปลงทุน  แต่ก็ขาดทุนทุกครั้ง  แต่ด้วยความที่สองครอบครัวรักกันมาก  พรรณอรจึงรับซื้อกิจการต่างๆไว้  และวันที่พ่อแม่ของภาสประสบอุบัติเหตุ  ก็เป็นวันที่ทั้งสองจะไปเจรจาผ่อนผันหนี้กับหุ้นส่วน  ซึ่งสุดท้ายก็เป็นครอบครัวเธออีกนั่นแหล่ะที่ต้องไปรับช่วงซื้อไว้  คุณชายบุรธัชหลังจากที่ได้รู้ความจริงก็ทั้งอึ้งและเสียใจกับการกระทำในอดีตของตน  รวมทั้งที่เคยหมิ่นเกียรติของพรรณอรว่าเป็นเพียงลูกพ่อค้าที่หวังจะแต่งกับคนมีเกียรติด้วย หลังจากวันนั้นครอบครัวทั้งสองก็กลับมาเป็นมิตรกันดังเดิม  คุณชายธัชมาขอบคุณณิชมนที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น  พงษ์เทพเองเห็นณิชมนกับคุณชายเข้ากันได้ดี  จึงมาปรึกษาคุณชายเรื่องที่เขาชอบณิชมน  แต่พ่อแม่ไม่เห็นด้วยจึงอยากให้คุณชายช่วยคุยกับพ่อแม่ของเขา  เพราะเขาอยากจะขอหมั้นกับณิชมน  คุณชายทำอะไรไม่ถูกได้แต่รับปากไป  ส่วนวินดาเองก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของคุณชายธัช  เพราะวันๆคุณชายเอาแต่สนใจที่จะพาตัวไปอยู่ใกล้ณิชมน ซึ่งณิชมนเองก็พยายามพาตัวออกห่างเพราะเกรงใจวนิดา  จนวันหนึ่งประนอม  บุญเสิรม ตัวจริงก็โผล่มาที่ไร่  ประนอมสารภาพผิดกับพรรณอรว่าเธอทิ้งงานเพราะอยากไปอยู่กรุงเทพฯมากกว่า  แต่สุดท้ายโรงงานที่เธอทำงานก็ปลดพนักงานออก  เธอจึงอยากขอมาทำงานที่ไร่  พรรณอรเรียกณิชมนมาพบ  เมื่อรู้ว่าณิชมนปลอมตัวมาแม้จะสารภาพความจริงทั้งหมดว่าฉวยเอางานประนอมเพราะไม่มีเงินและไม่มีที่ไป  แต่พรพรรณและชัยวัฒน์ก็ยุให้ไล่ณิชมนออก  ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูกน้องคนอื่น  ณิชมนรู้ว่าทำให้ทุกคนลำบากใจเธอจึงขอลาออกเอง  แต่เธอขออนุญาตไม่ลาใครเพราะไม่อยากเสียใจที่ต้องลากทุกคนที่เหมือนเป็นครอบครัวของเธอไปแล้ว

เมื่อภาส  นมลรู้เรื่องก็รีบไปบอกคุณชายธัช  ทั้งคุณชาย  วนิดา  พงษ์เทพต่างเป็นห่วงพยายามออกตามหาณิชมน  จนวันเวลาผ่านไปสามเดือน  วนิดาก็เริ่มทำใจได้กับการที่คุณชายธัชมีแต่ความเศร้าซึม  วนิดาถามคุณชายตรงๆว่ารัก ณิชมนใช่ไหม  คุณชายยอมรับและขอโทษวนิดา  วนิดาเข้าใจทุกอย่างและเธอก็ไม่อยากบังคับใจคุณชาย  แต่เธอก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะอยู่กับความเจ็บปวดที่เห็นคนที่เธอรักไปรักคนอื่น  วนิดาขอออกจากงานที่ช่วยคุณชาย  ตอนแรกวนิดาตั้งใจว่าจะกลับกรุงเทพฯ  แต่ในยามนี้เธออยากกลับไปหาบรรยากาศเก่าที่เคยเติบโตมา  จึงเดินทางไปเทพสุธาเพื่อไปดูบ้านเก่าและโรงเรียนเก่าของเธอ  ครูดาวเรืองพาเธอเยี่ยมชมโรงเรียนและเล่าว่า ตอนนี้มีครูมาใหม่ภาษาอังกฤษเก่งมาก  ฝรั่งเศษก็ได้  แต่เนื่องจากไม่มีหลักฐานอะไรเลยจึงให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กไปก่อน  วนิดาตั้งใจจะบริจาคเงินช่วยเหลือแล้วกลับแต่ครูดาวเรืองบอกว่าครูคนใหม่คนนี้นามสกุลเดียวกับยายของวนิดาด้วย  วนิดาสงสัยจึงขอพบตัว  และเธอก็ต้องตกใจที่กลายเป็นณิชมน  เมื่อได้ดูบัตรนักศึกษาและรายละเอียดเกี่ยวกับ น้าของเธอที่ชื่อณัชชาแล้ว  วนิดาก็แน่ใจว่าณิชมนคือน้องสาวของเธอ  ณิชชมนเล่าว่า ณ ห้องใต้ดินเก่าๆชานกรุงลอนดอน  ณิชมนกลับมาจากทำงานพิเศษเพื่อมาฉลองอายุครบ 20 ปีกับพ่อคือ  ชยทัต  ชุติมันต์  แต่ภาพที่เธอได้เห็นเป็นของขวัญวันเกิดคือชยทัตนอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น  ณิชมนรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที  แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลอาการของชยทัตก็หนักมาก  ชยทัตบอกให้ณิชมนหนีไปเมืองไทยโดยให้นาฬิกาโรเล็กซ์ ของแม่ณิชมนที่เขาเคยขโมยไปเพื่อเอาไปขาย  แต่มาสำนึกผิดว่านี่เป็นของที่ยายณิชมนให้แม่ติดตัวมาและมันก็เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของเธอ  แต่ยังที่ไม่ทันจะเอาไปคืนแม่ณิชมนก็สิ้นใจไปก่อนจากการป่วยและไม่มีเงินไปหาหมอ  ชยทัตรู้สึกผิดจึงเก็บนาฬิกาและเรื่องนี้ไว้  แต่ตอนนี้เขาอยากให้ณิชมนเอาไปขายเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทยไปหาญาติ  ชยทัตหยิบกระดาษเก่าๆที่แม่เคยเขียนเบอร์ของยายไว้ให้ณิชมน  และกล่าวขอโทษที่ทำให้ทุกคนลำบาก  แล้วเขาก็สิ้นใจ ณิชมนเสียใจมากแต่ก็ต้องใจแข็งมาติดต่อเคาน์เตอร์เรื่องศพพ่อ  แต่ยังไม่ทันได้ติดต่อ  เธอก็ถูกพวกเจ้าหนี้ที่เป็นแก๊งคนจีนในลอนดอนตามจับตัว  เพื่อจะเอาไปขายใช้หนี้  ณิชมนหนีมาได้หวุดหวิด  และตัดสินใจขายนาฬิกาเอาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินมาไทย  แต่ระหว่างที่ถึงเมืองไทยก็โดนกรีดกระเป๋าและกลายมาเป็นประนอม  บุญเสิรมอย่างที่วนิดาเห็น

วนิดาพอรู้เรื่องต่างๆก็เสียใจกับชะตาชีวิตของน้องสาว  วนิดาบอกว่าต่อไปนี้ณิชมนจะไม่อยู่ตัวคนเดียวแล้ว  เธอจะมีทั้งพี่สาวและคุณชายบุรธัช  ณิชมนงงง่าคุณชายมาเกี่ยวอะไรหรือหมายถึงเป็นพี่เขย  เมื่อคิดได้ว่าวนิดาเป็นแฟนคุณชาย  ณิชมนก็รีบแสดงความดีใจทั้งๆที่เศร้า  แต่วนิดาบอกให้ไปกับเธอแล้วจะรู้เอง  และที่สำคัญณิชมนก็ยังมีญาติอีกคนคือ คุณปู่โชติ  ชุติมันต์  ที่เป็นเจ้าของที่ดินในอำเภอ ชุติมาศ  วนิดาพาณิชมนไปพบกับคุณปู่ๆดีใจมาก  เพราะชยทัตคือลูกคนเดียวที่คุณปู่เลี้ยงดูตามใจจนเสียคน  เมื่อโตขึ้นก็เกเรจนทะเลาะกันจนคุณปู่รับพฤติกรรมไม่ไหว้ประกาศตัดพ่อตัดลูก  และนี่คงเป็นสาเหตุที่ชยทัตไม่ยอมเล่าเรื่องของปู่ให้ณิชมนฟัง คืนนั้นณิชมนกับวนิดานอนหลับอย่างเป็นสุขที่บ้านชุติมันต์  และณิชมนก็ฝันถึงชายหนุ่มที่เคยฝันอีก  แต่คราวนี้เธอเห็นหน้าเขาชัดๆว่าเป็นคุณ่ชาย บุรธัช  ณิชมนตกใจตื่นขึ้นมาและรู้สึกผิดคิดอยากเขกหัวตัวเองที่ไปฝันถึงผู้ชายของพี่สาว  ณิชมนพยายามข่มตาให้หลับแต่สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเองที่คิดถึงคุณชายธัช  เช้าวันรุ่งขึ้น  ที่ไร่บุริศราวัณ  คุณชายธัชดีใจมากที่ได้เจอณิชมนอีก  และเขาก็ยิ่งดีใจที่รู้ว่าเป็นน้องสาววนิดาๆ  บอกให้คุณชายดูแลน้องสาวให้ดี  ณิชมนปฎิเสธที่จะคบกับคุณชายเพื่อพี่สาว  แต่วนิดาบอกว่าเธอดูออกว่าอะไรเป็นอะไร  พงษ์เทพที่แม้จะผิดหวังกับณิชมนแต่เขาก็มีความสุขที่คนที่เขารักได้สมหวังเจอกับชายในฝัน  ส่วนชัยวัฒน์ก็ต้องอึ้งไปเมื่อรู้ว่าณิชมนกลายเป็นคนที่มีทุกอย่าง  แม้จะทำดีอย่างไรแต่ณิชมนก็ขอให้สารภาพว่าชัยวัฒน์จบอะไรมาแน่  จนเขาสารภาพว่าใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาสมัครงานเพราะไม่อยากทำนา  ตัวเขาเองนั้นจบแค่ม.6  พรรณอร และพรพรรณโมโหมากที่บังอาจมาหลอกพวกเธอ  จึงคิดจะไล่ออกแต่ณิชมนขอร้องไว้และให้ทำงานในส่วนที่เหมาะสม  ส่วนณิชมนตัดสินใจจะเรียนต่อให้จบที่เมืองไทย  ซึ่งคุณชายบุรธัชไม่ขัดข้องขอแค่แต่งงานกับเขาเท่านั้น

งานแต่งงานของคุณชายบุรธัชกับณิชมนถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่  มีพงษ์เทพและวนิดาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวร่วมกับภาสและนมล  ทุกคนต่างยินดีกับณิชมนที่ผ่านความลำบากมาถึงวันนี้ด้วยความดีของตัวเธอ  โดยเฉพาะคุณชายบุรธัช  เขารู้สึกว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ที่เขาได้เจอกับผู้หญิงที่แสนดีคนนี้

——————-จบบริบูรณ์——————-

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง