ครีเอทีน พลัส น้องใหม่ผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง เดินหน้าส่งแคมเปญ “Fat becomes Fit” ลุยตลาดเต็มรูปแบบ ชูจุดขายลดน้ำหนักแบบผ่อนคลาย หวังครองใจสาวอยากผอมแต่ไม่อยากเสี่ยง  ไตรมาสแรกโกยรายได้กว่า 100 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 56 ยอดขายโต 200%

นายวโรดม โง้วศิริ ประธานกรรมการ บริษัท วิวรรณคอสเมติก (ประเทศไทย) เผยว่า บริษัท วิวรรณคอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและรูปร่าง ที่ได้ดำเนินกิจการมาครบ 1 ปีเต็ม โดยผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเกรด B+   ผู้มีกำลังซื้อในราคาระดับปานกลาง ซึ่งความโดดเด่นที่เหนือคู่แข่งคือการมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงามโดยเฉพาะ ดูแลตั้งแต่กระบวนการคิดค้นสูตร ทดสอบผลภายใต้วิธีการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน จนถึงกระบวนการผลิต มีการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง มาใช้ในการผลิต ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสูง แต่ด้วยจุดมุ่งหมายที่นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภค ทางบริษัทจึงเชื่อมั่นว่าสินค้าคุณภาพดีจะทำให้ลูกค้ามองข้ามราคาและยินดีที่จะซื้อซ้ำ

ทั้งนี้นายวโรดมกล่าวเพิ่มเติมว่า ครีเอทีน พลัส เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสลิ่มมิ่งของบริษัท ซึ่งเป็นอาหารเสริมลดน้ำหนักที่ผ่านการคิดค้นวิจัยจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจนมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่โดดเด่นและแตกต่างคือ “การลดน้ำหนักแบบผ่อนคลาย” โดยมี “พิ้งกี้ – สาวิกา ไชยเดช” เป็นพรีเซ็นเตอร์ที่มาช่วยการันตีถึงการมีหุ่นสวยเพรียว เป๊ะ เฟิร์ม แบบไม่ต้องใช้ความพยายาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนอยากผอมแต่ไม่อยากเสี่ยง ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคาที่ไม่สูงนัก

ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้คนทั่วประเทศรู้จักผลิตภัณฑ์ครีเอทีน พลัส มากขึ้นในปีนี้จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ภายใต้แคมเปญ “Fat becomes Fit เฟิร์มกระชับรับทองกิโลละบาท” ขึ้น โดยเล็งเห็นว่าจากพฤติกรรมฉลาดเลือกของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีการศึกษาผลิตภัณฑ์ก่อนการตัดสินใจซื้อ และการที่โลกออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนทุกวัย การจัดกิจกรรมให้ทุกคนได้เห็นการรับประทานอาหารเสริมลดน้ำหนักจริงๆ ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมในการดูแลตัวเองส่งผลลัพธ์ที่ดีได้อย่างไร อาหารเสริมลดน้ำหนักที่ดีจริงแตกต่างจากยาลดความอ้วนและอาหารเสริมทั่วไปอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคคนที่มีปัญหาเรื่องของน้ำหนักส่วนเกินและกำลังมองหาทางเลือกสำหรับการแก้ปัญหาโดยไม่ยุ่งยากแต่มั่นใจได้ในผลลัพธ์และความปลอดภัย

โดยเปิดให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโพสต์รูปถ่ายของตนเองในลักษณะภาพถ่ายเต็มตัว พร้อมบรรยายถึงความรู้ สึกว่าทําไมจึงอยากลดน้ำหนักในช่องข้อความของแอพพลิเคชั่น ผ่านทางเพจ Smart Beauty by Wiwan Cosmetic หลังจากนั้นทางบริษัทจะทำการคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ 9 คนสุดท้าย และให้ผู้เข้าแข่งขันทั้ 9 คน ทําการโพสต์รูปของตนเองสัปดาห์ละครั้งตลอด 7 สัปดาห์ผ่านทางเพจ Smart Beauty by Wiwan Cosmetic ผู้ที่จะชนะการแข่งขันจะมาจากผู้ที่ลดน้ำหนักได้สูงที่สุดร่วมกับคะแนนของกรรมการกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้ยังมีรางวัลPopular Vote ซึ่งเป็นผลโหวตผ่าน 2 ช่องทาง คือ จากทางเพจและจากการโหวตผ่านฝากล่องครีเอทีนพลัส ส่งทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รางวัลชนะเลิศจากการตัดสินจะได้รับทองคำแท้ตามน้ำหนักตัวที่ลดได้ โดยคิดเป็น 1 กิโลกรัม รับทองคำ 1 บาท โดยมั่นใจว่าการจัดแคมเปญลดน้ำหนักนี้จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ครีเอทีนพลัส และจะสามารถเพิ่มยอดขายให้ขยับสูงขึ้นอย่างแน่นอน

การตลาดในปีที่ผ่านมาทางบริษัทใช้งบไปกว่า 10 ล้านบาท โดยเน้นการตลาด above the line คือ ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ ,นิตยสารชั้นนำ และผ่านสื่อโทรทัศน์ช่องเคเบิ้ล เป็นหลัก เพื่อการเข้าถึงผู้บริโภค สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในวงกว้างอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นก็ได้เลือกใช้พรีเซนเตอร์สินค้าที่มีชื่อเสียงซึ่งมั่นใจในผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยเสริมภาพลักษณ์และการจดจำ ปัจจุบันครีเอทีน พลัส จึงมักจะถูกเรียกชื่อในท้องตลาดว่า อาหารเสริมพิ้งกี้ สำหรับปีนี้ จะยังคงเน้นการตลาด above the line โดยเพิ่มการจัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้ามากขึ้น ผ่านสื่อออนไลน์ เป็นหลัก เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของโลกไซเบอร์ที่มีอิทธิพลมากในปัจจุบัน สำหรับการตลาด below the line วางแผนจะทำมากขึ้นในไตรมาสที่ 3 ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทจะเป็นที่รู้จักในตลาดเพิ่มมากขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ตลาดโดยรวมของอาหารเสริมเพื่อการดูแลความงามและรูปร่างในปัจจุบันมีมูลค่าทางการตลาดรวมกว่า  3,000 ล้านบาทต่อปี และมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ตลอดทุกปี ซึ่งเกิดจากกระแสความตื่นตัวด้านการดูแลสุขภาพและบุคลิกภาพ ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดรุนแรงมากเช่นกัน อาหารเสริมในตลาดมีหลากหลายและแข่งขันด้านการโฆษณากันอย่างเกินพอดี ผู้บริโภคต้องระมัดระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดี มีความปลอดภัย และได้ผลจริง ซึ่งทีมแพทย์ของวิวรรณคอสเมติก ได้สร้างความมั่นใจในจุดนี้ให้กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง ผ่านปณิธานที่แน่วแน่ในการสร้างนวัตกรรมความงามเพื่อคุณภาพชิวิตที่ดีขึ้น ภายใต้ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และข้อมูลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้

สำหรับแผนในอนาคตจะมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 ทุ่มงบการตลาดกว่า 40 ล้านบาทเพื่อตอกย้ำแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มต่างๆ ของบริษัทฯ พร้อมทั้งจะทยอยออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเวชภัณฑ์เครื่องสำอาง ออกมาให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภค ด้วยเพราะกระแสเรื่อง heath & wellness ตลอดจนการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำ และจำนวนชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพมาแรงแซงธุรกิจอื่น จัดเป็นธรุกิจเด่นอันดับ 1 ของปีนี้ โดยเฉพาะในด้าน preventive healthcare, aesthetics, และการแพทย์สมัยใหม่ ทางบริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการทำตลาดสินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์เครื่องสำอางในไทย เนื่องจากตลาดรวมเติบโตดีเป็นตัวเลขสองหลักมาตลอด ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ดังนั้นในกลางๆปีนี้เราจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมาให้ได้ใช้กัน

ทั้งนี้ในปี 2556 บริษัทได้วางเป้าส่วนแบ่งการตลาดของครีเอทีนไว้ที่ 10% ซึ่งผลประกอบการในไตรแรกของปี 2556 มีอัตราการเติบโตจากไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วกว่า 50% แล้ว และหลังจบแคมเปญคาดว่าจะมียอดรายได้เติบโตขึ้น  200%” นายวโรดมกล่าวทิ้งท้าย