ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยบทประพันธ์ระดับตำนานของฝรั่งเศสเรื่อง  “THE MAN WHO LAUGHS” จะถูกหยิบยกมาทำเป็นละครและภาพยนตร์อยู่เสมอ  โดยเริ่มต้นจากนักเขียนชื่อดังชาวฝรั่งเศส  วิคเตอร์ อูโก้  ได้เริ่มเขียนนิยาย “THE MAN WHO LAUGHS”  ในช่วงปี 1866 – 1869 ซึ่งเป็นช่วงที่เขาอยู่ในการลี้ภัยทางการเมืองไปที่เกาะแห่งหนึ่ง นิยายเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเข้าฉายถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งที่ได้รับการตอบรับดีที่สุดนั้นคือในฉบับภาพยนตร์ของ พอล เลนีย์ (Paul Leni) ในปี 1928   ซึ่งเป็นช่วงยุคของภาพยนตร์เงียบและมีภาพยนตร์อันโด่งดังมากมายไม่ว่าจะเป็น  A TRIP TO THE MOON 1902 (อะ ทริป ทู เดอะ มูน 1902) หรือ “THE CABINET OF DR.CALIGALI” (เดอะ คาบิเน็ท ออฟ ด็อกเตอร์ คาลิกาลี่)  ในปี 1920  ซึ่งแน่นอนว่าภาพยนตร์ได้รับแรงบัลดาลใจหรือแนวทางเดียวกับสองภาพยนตร์อมตะที่ว่านี้ จะพบว่าภาพยนตร์ที่นำออกฉายจะเป็นภาพยนตร์เงียบ คือ ไม่สามารถใส่ไดอาล็อก(Dialogue) ลงไปในภาพยนตร์ได้เลย หรือถ้ามีก็มีเพียงแค่ตัวหนังสือวิ่งออกมาขั้นฉาก และเล่าเรื่องการแสดงผ่านสีหน้าและดนตรีประกอบเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถเล่าเรื่องที่ผู้เขียนอย่างวิคเตอร์ อูโก้เขียนไว้ได้ทั้งหมด

ผู้กำกับและผู้เขียนบท  ฌอง ปิแอร์ อเมรีส์  กล่าวว่า “ผมจะทำ THE MAN WHO LAUGHS ไม่ให้ดูเหมือนกับเป็นการย้อนยุคเกินไป  ผมมักจะไม่ชอบเสมอเมื่อภาพยนตร์ในแนวนี้ นักแสดงจะต้องมาตะโกนหรือพูดเสียงดังๆ ใส่กัน จนบางครั้งมันกลายเป็นว่าการแสดงนั้นล้นจนเกินไป ผมจะทำให้นักแสดงเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด”

จากนั้น  ฌอง ปิแอร์ อเมรีส์  กล่าวถึงพระเอก  “กวินเปลน” ว่า  “เขาเปรียบเสมือนศูนย์กลางของเหล่าคนผิดแปลก  ที่ถูกคนอื่นมองว่าเป็นตัวประหลาด ความไร้เดียวสาของเขาทำให้เขาไม่รู้เลยว่าจะเข้ากับสังคมได้อย่างไร ผมเชื่อว่ามาร์ค อองเดรย์ กรองแดง ทำได้ เพราะเขามีทุกอย่างตามบทประพันธ์ที่บรรยายไว้และดวงตาที่กวินเปลนมีด้วย” เลยทำให้บทเด่นนี้เป็นของ  “มาร์ค อองเดรย์ กรองแดง” (GOON, CHE) เด็กหนุ่มที่มีหน้าตาหล่อเหลาและดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ที่ต้องพบเจอกับโลกแห่งความจริงและโลกละครช่างต่างกัน และไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดสุดท้ายมันอาจทำร้ายเราได้ทุกเมื่อ “มาร์ค อองเดรย์ กรองแดง” เผย “ผมไม่เคยคิดว่าจะได้บทนี้  เพราะก่อนหน้านี้เคยอ่านและดูคนอื่นแสดงมาหลายครั้งแล้ว พอมาถึงตัวเองที่ต้องแสดงมันกดดันมาก เพราะเราต้องทิ้งการเป็นตัวเอง เพื่อเป็นกวินเปลนให้ได้ทั้งท่าทางและความคิด ถือเป็นสิ่งที่ยากและท้าท้ายมากสำหรับผม”  ครั้งนี้คนไทยจะไม่ผิดหวังกับ  “THE MAN WHO LAUGHS  ปาฏิหาริย์รักจากโจ๊กเกอร์” (เดอะ แมน ฮู ลาฟส์ ปาฏิหาริย์รักจากโจ๊กเกอร์) ที่ค่ายโมโนฟิล์มนำเข้ามาฉายในเมืองไทย พบกันทุกโรงภาพยนตร์ 5 กันยายนนี้!!!