“จากผลสำรวจและวิจัยพฤติกรรมการรับประทานอาหารเช้าของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-4 ในกรุงเทพมหานครรอบล่าสุด พบว่า เด็กนักเรียนกว่าร้อยละ 40 ไม่กินอาหารเช้าเป็นประจำทุกวัน โดยสาเหตุหลักส่วนใหญ่เกิดจากเด็กไม่รู้สึกหิว รองลงไป คือ ไม่มีเวลา และครอบครัวไม่ทำอาหารเช้าที่บ้าน ทำให้เด็กๆ งดอาหารเช้า แต่ที่น่าเป็นห่วงยิ่งไปกว่านั้น คือ เด็กมากกว่าร้อยละ 30 เข้าใจว่าการรับประทานอาหารเช้าทำให้อ้วน ซึ่งจากผลวิจัยนี้ทำให้เราทราบว่า ต้องมีแผนรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของการบริโภคอาหารเช้าในกลุ่มเด็กที่กำลังเจริญเติบโต โดยเฉพาะในเด็กนักเรียนและผู้ปกครอง เนื่องจากเหตุผลสำคัญที่เด็กไม่ได้รับประทานอาหารเช้าคือ การไม่มีการเตรียมอาหารเช้าที่บ้าน” รศ.ดร. ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล เผยตัวเลขสำรวจ พร้อมกล่าวถึงสิ่งที่อยากให้ผู้ปกครองทุกคนตระหนักว่าอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวันสำหรับเด็กวัยเรียน เป็นพลังในของการเริ่มต้นวันใหม่ที่ให้สารอาหารแก่ร่างกายหลังจากการตื่นจากการพักผ่อน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และทำกิจกรรมประจำวันได้อย่างเต็มที่!!!
ด้วยเหตุนี้ คนอร์ คัพโจ๊ก โดย นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร ธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน อาหาร และไอศกรีม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการโดย นายแสงไทย มีสุนทร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน เปิดโครงการ “มื้อเช้า เราพร้อมกับคนอร์ คัพโจ๊ก” พร้อมประกาศ “สัปดาห์อาหารเช้าแห่งชาติ” เพื่อส่งเสริมเด็กไทยรับประทานอาหารเช้าทุกวัน โดยมีเซเลบริตี้ร่วมงานมากมาย ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีเซเลบริตี้และคู่แม่ลูก มล.อรดิศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา/ ปณิธี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา/ คริสติน่า เศรษฐบุตร/ ปวิตา โตทับเที่ยง และวิภาวี คอมันตร์ ร่วมงาน
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ กล่าวว่า “คนอร์ โจ๊กมุ่งมั่นสนับสนุนพัฒนาการที่สมบูรณ์แก่เยาวชน โดยดำเนินโครงการส่งเสริมอาหารเช้าให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษามาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2551 รวมกว่า 4 ปีโดยในปีนี้ เราได้เดินหน้าต่อยอดด้วยการผนึกพันธมิตรกับ ส.พ.ฐ. ในการจัด “สัปดาห์อาหารเช้าแห่งชาติ” ขึ้นเป็นปีแรกเพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยรับประทานอาหารเช้าทุกวัน ซึ่งประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ดังนี้ 1) แต่งตั้ง น้องอันดา หรือเด็กหญิงกุลฑีรา ยอดช่าง เป็นยุวทูตโครงการมื้อเช้า เราพร้อมกับคนอร์ คัพโจ๊ก 2) ประกาศสัปดาห์อาหารเช้าแห่งชาติ เพื่อเตือนใจให้ผู้ปกครองและนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของอาหารเช้า 3) จัดการแข่งขันรณรงค์อาหารเช้าภายในโรงเรียนระดับประเทศ ด้วยการออกกำลังกายภายใต้แนวคิด “EAT PLAY LOVE” ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ และทุนการศึกษารวมกว่า 1 ล้านบาท โดยตั้งเป้าส่งเสริมจำนวนเยาวชนที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำทุกวันเพิ่มขึ้น 3 ล้านคนภายในปี 2558”
ด้านการให้สัมภาษณ์ ปณิธี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เปิดเผยถึงเทคนิคเล็กน้อยเพื่อให้คุณลูกยอมรับมื้อเช้าแต่โดยดี ว่า “ปกติตอนเช้านิกกี้จะเตรียมอาหารอ่อนๆ เคี้ยวง่ายให้น้องกินอย่างโจ๊กเนี่ยน้องจะชอบกินมากเป็นพิเศษ เพราะทานง่าย นิกกี้จะสอนลูกเสมอว่าอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่ลูกต้องทานเพราะการไม่ทานอาหารเช้าทำให้ไม่มีพลังในการเรียนหรือการทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากการเรียนแล้ว นิกกี้ยังส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกายเป็นการส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย และเมื่อเขาได้ออกกำลังกาย เขาจะทานง่ายขึ้นเอง เหมือนเป็นการกดสตาร์ทให้ร่างกายแข็งแรง บางคนเติมเข้าไป แล้วไม่ได้ส่งเสริมให้เขาได้ใช้พลังงานเผาผลาญ ปัญหาตามมามีสองอย่าง คือ เด็กจะทานอยู่นั่น กับเด็กจะห่วงเล่นไม่ทานเลย ซึ่งไม่ดี ต้องดูแลให้ครบถ้วน”
คริสติน่า เศรษฐบุตร กล่าวว่า “โดยส่วนตัวแล้วให้ความสำคัญกับมื้อเช้ามากที่สุด เป็นมื้อที่ลูกขาดไม่ได้ต้องให้กินทุกวันเพราะเป็นมื้อที่เพิ่มพลังให้ลูกมีแรงและสมองแล่นให้มีสมาธิในการตั้งใจเรียน และทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน จะให้ความสำคัญกับสมองมาก เพราะช่วงเด็ก สมองเติบโตเต็มที่ เขาต้องได้รับสารอาหารทีมีคุณภาพ โดยเฉพาะมื้อเช้า เป็นจุดเริ่มต้น เป็นแหล่งอาหารที่ร่างกายจะดึงไปใช้ตลอดทั้งวัน เหมือนเป็นคลัง ใส่ไปเต็มที่ แต่บางทีเด็กไม่ให้ความร่วมมือ ก็ต้องมีทุกวิธีค่ะ อย่างเรามีปัญหาบ้างที่น้องตื่นเช้ามาแล้วงอแง ไม่อยากกินอาหารเช้า
เราก็จะค่อยๆ คุยกับน้อง ดูสิ เขาต้องการอะไร อยากให้เราทำอะไร คุยกันไปเพลินๆ ก่อน จนเข้ารู้สึกดี อารมณ์ดี ยิ้มแย้ม แล้วค่อยขอให้น้องทาน เริ่มต้นจากใส่อะไรอ่อนๆ ลงไปก่อน ถ้าเขาต้องการเพิ่มค่อยจัดไป หรือถ้ายังไม่ ก็ปล่อยให้เขาพัก แต่อย่างน้อยได้วางใจแล้ว ให้มีอะไรในท้องบ้างค่ะ”
โดยกิจกรรมนี้จะเปิดให้โรงเรียนต่างๆ มีส่วนร่วมด้วย โดยส่งคลิปการออกกำลังกายภายใต้แนวคิด “EAT PLAY LOVE” ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศ และทุนการศึกษารวมกว่า 1 ล้านบาท สำหรับโรงเรียนเยาวชนในระดับประถมศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/knorrthailand มาช่วยกันรณรงค์เยอะๆ นะจ๊ะ
บันทึกภาพ: บริษัท อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ จำกัด