มีข่าวค(ร)าวมากมายมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ สำหรับนักร้องเพศที่ 3 ผู้โด่งดัง “เจินเจิน บุญสูงเนิน” เจ้าของเพลง “ต้องสู้ถึงจะชนะ” ที่ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศนานนับ 10 ปี พบกับมรสุมข่าวเป็นเอดส์ โดนฆ่า ฯลฯ มาวันนี้เจ้าตัวกลับมาอยู่เมืองไทย พร้อมเปิดใจทุกเรื่องกลางรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง “สตาร์แม็กซ์” แซ่บทั้งช่อง แบบไม่มีกั๊กทั้งเรื่องรัก 7 หน ผู้ชาย 7 คนที่ทำให้ช้ำใจ อาการป่วยจนร้องเพลงไม่ได้ รวมถึงข่าวลือต่างๆ
ไปอยู่อเมริกา 14 ปี ?
“มันเป็นชีวิตที่ไม่ลำบากมากเพราะเรามีพี่สาวอยู่ที่ลาสเวกัส เวลาไปร้องเพลงเราก็จะบินจากเวกัสไปรัฐโน้นรัฐนี้ ก็ร้องเพลงหลายภาษา จีนก็ได้ เวียดนามก็ได้ ตอนที่ร้องเวียดนามเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะร้อง แต่บังเอิญไปงานของคนเวียดนาม แล้วก็เกิดถูกชตะเราเป็นเพื่อนผู้หญิง มีงานที่ไหนเขาก็จะลากเราไปด้วย แล้วก็จะส่งเพลงมา นี่เจินเจินเธอร้องเพลงนี้นะ(ยิ้ม) เขาก็จดเนื้อภาษาอังกฤษให้ คำนี้ออกเสียงยังไง เราก็ฟังจากเทปแล้วก็ดูเนื้อภาษาอังกฤษเอา”
ทำงานได้เงินมาก็ต้องรักษาตัว ?
“ตั้งแต่เด็กมาแล้ว เป็นคนขี้โรคมาก เป็นโน้นเป็นนี่ เป็นมาตลอด แล้วก็เป็นภูมิแพ้ ตอนที่อยู่อเมริกาเนี่ยภูมิแพ้กำเริบหนักเนื่องจากว่าเวกัสเป็นเมืองแอ่งกระทะ แล้วฝุ่นก็จะวนเวียนอยู่ในนั้น เป็นทะเลทรายด้วย แล้วหมอก็เตือนไว้แล้วว่าถ้าใครมาอยู่เวกัสเกิน 5 ปี จะต้องเป็นภูมิแพ้ พอเราเป็นอยู่แล้ว แล้วไปเจอตรงนั้นมันก็สะสม จนวันหนึ่งต้องไปร้องเพลงที่ชิคาโก้ เพื่อนรับงานร้องเพลงในคาซิโน ควันบุหรี่เยอะเพราะคาซิโนเป็นที่เดียวที่กฎหมายอนาญาติให้สูบบุหรี่ได้”
แพ้ถึงขั้นพูดไม่ได้ ?
“เวลาเราร้องเพลงเราก็จะสูดอากาศมากกว่าปกติ จบคอนเสิร์ต 3 วันก็ไอ ไอ 7 วัน ไอ 24 ชั่วโมง จนวันที่ 8 หยุด แต่พูดไม่ได้ เสียงไอไม่มี เสียงพูดก็ไม่มี ไม่มีเสียงอะไรเลย จะกินจะเอาอะไรก็ต้องเขียน”
ไม่ไปหาหมอ ?
“ ไปค่ะ แต่หมอที่อเมริกาเขาไม่เหมือนหมอบ้านเราการจ่ายยา เขาจะจ่ายยาทีละนิด จ่ายยาอ่อนๆ เขาตรวจแล้ว เขาเห็นว่ามันไม่มีอะไร ตรวจหลอดลมไม่มีตุ่มไม่มีอะไร แต่ทำไมไม่มีเสียง”
แล้วเกิดจากอะไร ?
“มันคือวิบากกรรม เพราะเราแพ้ควัน มันก็ไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้น 1 ปี แล้วงานในปีนั้นเยอะมาก ต้องให้พี่สาวโทยกเลิกหมดเลย จนมีงานหนึ่งที่ยกเลิกไม่ได้เป็นงานคนจีน นักธุรกิจคนจีนทั่วโลกเขาจะมารวมกันในงานนี้ เขาบอกว่าถ้าเรายกเลิก เขาเสียหายมาก ตอนนั้น 4-5 เดือนแล้วที่ป่วย ก็บอกเขาว่าคุณก็ฟังเสียงฉันแล้วกัน พูดได้แต่เสียงแตกมาก ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เขาก็บอกว่าอีก 3 เดือนถึงจะมีงานผมคิดว่าคุณหายทันถึงวันงานเราก็ยังใจชื่น เพราะงานต่างชาติทุกครั้งที่เราไปก็จะมีนักร้องชาติของเรามาด้วยอยู่แล้ว คิดว่าเราไม่ร้องก็ไม่มีปัญหา แต่เราต้องไปปรากฏตัว ไปยืนยันว่าเราป่วยจริง แต่พอไปถึงงาน มีเราคนเดียว”
ก็ต้องร้อง ?
“เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกว่าฉันต้องตายแน่ๆ เลย ไม่มีความเชื่อมั่นเหลืออยู่เลย เพราะว่าเสีงพูดก็ยังไม่ออก ก็บอกทางเจ้าภาพงานว่าทำยังำง เขาก็บอกผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เราเลยตัดสินใจเดินออกไปนอกงาน ตอนนั้นหิมะตก ออกไปอธิฐานจิตขอบุญทั้งหลายที่ทำมาตั้งแต่ปฐมชาติบุญทุกอย่างมารวมกันในวันนี้ ช่วยเหลือลูกให้ลูกได้ทำงานวันนี้ได้สำเร็จ หลังจากนั้นเราก็เดินเข้าไปในงาน พอพิธีกรเห็นเขาก็ประกาศเชิญเราขึ้นเวทีเลย เราก็จับไมค์พูดสวัสดีค่ะ ดิฉันไม่สบาย ทุกคนเงียบสนิท เพราะคงได้ยินเสียงเราแล้วเสียงมันแตกมาก และเหมือนมีอะไรมาดลใจให้เปลี่ยนเพลง เพราะเพลงที่เตรียมไปเป็นเพลงจีน 10 เพลง เราก็เปลี่ยนเพลงเป็นเพลงที่ใช้สำครับวอร์มเสียง นักร้องที่เสียงหายจะใช้เพลงนี้ เชื่อหรือเปล่าพี่สามารถร้องได้จบทั้งหมด 12 เพลง”
ณ วันนี้ กลับมาไทยได้ 4 ปี ภูมิแพ้หายแล้ว ?
“มันไม่หายไปโดยสิ้นเชิง แค่มีฝนตก หรืออากาศเปลี่ยนก็เริ่มจาม แต่ว่าเรื่องเสียงหายเป็นปลิดทิ้ง”
ความรักผิดหวังมาเยอะ ?
“จริงๆ แล้วกะเทยเนี่ยไม่ควรมีคู่ควรจะอยู่เป็นโสด ไม่ใครมีความรัก ถึงครั้งนี้เราจะมองว่ามันเป็นรักที่สมบูรณ์ที่สุดที่เราเคยมีแต่มันก็ยังเป็นวิบากกรรมอยู่ดี”
หันมาพึ่งธรรมะ หลายคมองกะเทยทำให้ศาสนาแปดเปื้อนคิดยังไง ?
“เป็นคำพูดที่ไม่ คือถ้าตัวเองไม่นับถือแล้วยังไปว่าคนอื่นแบบนี้ ตัวเขาเองจะเจอวิบากกรรมหนัก ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่อิสรเสรี เราไม่ได้ว่าศาสนาอื่นนะคะ ศาสนาพุทธเปิดโอกาสให้เราได้ศึกษาสิ่งที่เป็นจริงของชีวิต คุณต้องเรียนรู้และสัมผัสด้วยตัวเองว่ามันจริงอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสท่านสอนไว้ไหม”
ติดตามบทสัมภาษณ์เต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางช่อง “สตาร์แม็กซ์” แซ่บทั้งช่อง ได้ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 07.00/10.00/16.00/20.00/23.00น.(ออนแอร์ 28 ต.ค 56)
บันทึกภาพ: สตาร์แม็กซ์