รัฐบาลหนุน OTOP IN THE CITY โมเดลต้นแบบศูนย์กระจายสินค้าโอทอป ระดับพรีเมี่ยมใต้ทางด่วน ชูนโยบายสร้างรายได้กลับคืนชุมชน

แชร์ข่าวนี้

เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ AEC อย่างต่อเนื่องสำหรับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวง  มหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังส่งเสริมการพัฒนาระบบกลไกและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  ล่าสุดได้รับมอบหมายจากรัฐบาลภายใต้การบริหารของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้มีการดำเนินการจัดตั้ง “โครงการศูนย์แสดง จำหน่ายและกระจายสินค้า OTOP บริเวณใต้ทางด่วนในกรุงเทพมหานคร เพลินจิต-สีลม-รามอินทรา ”  ซึ่งถือเป็นโครงการต่อเนื่องของรัฐบาลในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและขยายตลาดสินค้า OTOP ให้กว้างขวางมากขึ้น มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 6 เดือน  โดยมีเป้าหมายหลักของการจัดทำโครงการนี้ คือ การสร้างวิสัยทัศน์และแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ เพื่อผลในด้านการตลาดและยอดจำหน่ายในอนาคต

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  เผยว่า “สำหรับความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคม ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้เราได้ใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สีลม – เพลินจิต – รามอินทรา เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายและกระจายสินค้า OTOP เป็นการสนับสนุนให้ชาวบ้านผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ คนไทยมีฝีมือละเอียดมากในการเอาเสน่ห์ใส่ลงไป ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความแตกต่างจากสินค้าที่ผลิตจากโรงงาน และสินค้าของเราก็ต้องสร้างเรื่องราวที่มีรากลึกของสังคมใส่ลงไป จะทำให้ชาวต่างชาติที่ซื้อสินค้า OTOP ของเราไป เกิดความจดจำและอยากกลับมาซื้อสินค้าที่ผสมผสาน วัฒนธรรมของไทยลงไปอีกด้วย ทั้ง 3 จุดจะเปิดให้บริการแตกต่างกันตามลักษณะของพื้นที่และชุมชนในแต่ละแห่ง   สิ่งที่อยากจะฝากกับผู้ผลิตก็คือ ผลิตด้วยใจ ผลิตจากทรัพยากรท้องถิ่นจริงๆ ใส่ภูมิปัญญา และเรื่องราวลงไปจะก่อให้เกิดเอกลักษณ์และความพิเศษ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา และนั่นคือการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า OTOP ไปในตัวเอง ต้องขอขอบคุณ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม มา ณ ที่นี้ ในการเข้ามาสนับสนุนพื้นที่ในการจัดแสดงครั้งนี้ด้วย ”

ทางด้านเจ้าของแนวคิด OTOP IN THE CITY นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์     เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เผยว่า “เราได้รับแนวทางนโยบายจากท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์    ชินวัตร ที่เล็งเห็นความสำคัญของสินค้า OTOP และท่านก็ได้สั่งการให้ทางกระทรวงมหาดไทย จัดหาพื้นที่แสดงสินค้าในเขตพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อจะได้ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ระหว่างการหาสถานที่อยู่นั้น เรามีโอกาสเดินทางผ่านบริเวณใต้ทางด่วน จึงเกิดแนวความคิดว่าถ้าเรานำพื้นที่ตรงนี้ มาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยการนำเอาสินค้า OTOP มาจำหน่าย ก็จะยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย  และหลังจากที่เราเล็งเห็นพื้นที่ที่ต้องการแล้ว จึงได้เข้าไปประชุมร่วมมือกับการทางพิเศษฯ ทันที และลงทำการสำรวจพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร นั่นก็คือ 3 จุดหลักที่เราได้สรุปแล้วว่าเหมาะสมกับการดำเนินการก่อสร้าง คือ สีลม เป็นจุดตัดสุรวงศ์กับสีลม และยังเป็นชุมทางตอนปลายของถนนสีลมกับบางรัก และเป็นที่ตั้งของโรงแรมใหญ่ๆ และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เยอะมาก มีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เราจึงประชุมสรุปกันว่าจะจัดตั้งให้เป็น ไนท์บาซาร์ มีสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว จุดเพลินจิต 200 ตารางวา จะนำเอาสินค้าเกรดพรีเมี่ยม มาตั้งโชว์จะจัดเป็นโชว์รูมสินค้า จุดที่ 3 บริเวณใต้ทางด่วนรามอินทรา พื้นที่ 8 ไร่ มีที่จอดรถ ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เรามีการสนับสนุน เทคนิค และช่องทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น และเราก็เล็งเห็นถึงการต้อนรับเข้าสู่ความเป็น AEC ด้วย จึงต้องการเพิ่มมูลค่าของสินค้า OTOP ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อาทิ การทำผักตบชวา บางประเทศก็ทำคล้ายกับประเทศไทย แต่จะแตกต่างตรงที่ฝีมือ แพคเกจจิ้ง และคุณภาพความคงทนถาวร ดีไซน์ รวมไปถึงเรื่องราคาอีกด้วย เราจึงต้องเร่งให้ชาวต่างชาติรู้จักสินค้าของเราให้เร็วที่สุด โครงการใต้ทางด่วนนี้ก็เปรียบเสมือนว่า กรุงเทพนั้นเป็นศูนย์กลางของประเทศอยู่แล้ว เพียงแค่เพิ่มเติมเอาสินค้า OTOP เข้ามาจำหน่ายที่ศูนย์กลางจุดนี้ก็จะทำให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด และชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ก็มักจะมาที่กรุงเทพฯก่อนเป็นอันดับแรก และถ้าที่กรุงเทพฯมีสินค้า OTOP จากทั่วทุกภาคมารวมอยู่ที่นี่แล้ว ก็น่าจะทำให้ชาวต่างชาติ มีกำลังในการซื้อทันที โดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงแหล่งผลิตตามจังหวัดนั้นๆ”

ในขณะที่ นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยว่า “สำหรับโครงการจัดตั้งศูนย์การแสดง จำหน่าย และกระจายสินค้า OTOP ใต้ทางด่วนกรุงเทพมหานครฯ ในครั้งนี้ เรามีความคาดหวังอยากให้สินค้า OTOP เป็นสินค้าที่ใครๆ นึกถึงสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่าในอดีตแทนที่จะต้องเดินทางไปซื้อตามแหล่งชุมชนที่ผลิตขึ้นเท่านั้น  โดยเราจะจัดสรรให้มีการหมุนเวียนผู้ประกอบการเข้ามาจำหน่ายสินค้าทุกๆ 15 วัน หรือ 30 วัน เพื่อให้สินค้า OTOP ของทุกจังหวัดได้มีโอกาสอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ตามเทศกาลและความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญสามารถสั่งสินค้าได้ ณ จุดจำหน่าย เป็นการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสินค้าได้อย่างดีทีเดียวครับ  สำหรับโครงการนี้เราได้รับการอนุเคราะห์จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้ใช้พื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนทั้ง 3 แห่งเป็นระยะเวลา 5 ปีครับ

จุดแรก คือบริเวณใต้ทางด่วนสีลม เราจะทำเหมือนกับช้อปปิ้งสตรีท ไนท์บาซาร์ หรือตลาดถนนคนเดิน ตรงนี้เราจะมีศิลปวัฒนธรรม การท่องเที่ยวกับการแสดงต่างๆ มาประกอบกับสินค้าที่เป็นระดับ Souvenir เนื่องจากย่านสีลมจะมีนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติมาก มีสินค้า OTOP ระดับ 3-5 ดาว และก็มีการแสดงอีเว้นท์ ประกอบทุกคืน มีโชว์ศิลปะไทย ชกมวย ฟันดาบ และรำไทย ส่วนที่เพลินจิต จะเป็นย่านโรงแรม ย่านช้อปปิ้งใหญ่ๆ จะทำเหมือนกับเป็นโชว์รูม Display สินค้า OTOP สามารถสั่งซื้อจากภายในร้านหรือทำการสั่งซื้อแล้วจัดส่งให้ถึงที่ก็ได้ สำหรับรามอินทรา จะจัดในรูปแบบของ Avenue เนื่องจากย่านนั้น ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน ลักษณะจึงเป็นแบบไลฟ์สไตล์ ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง พากันมากินข้าวเย็น มาซื้อของใช้ อาหารการกินต่างๆ เน้นสินค้าประเภท อาหาร ผัก ผลไม้ตามหน้าฤดูกาล รวมถึงพืชผลทางการเกษตรที่ล้นตลาด เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีที่ระบายสินค้า จะเอาผู้ปลูก มาพบกับผู้บริโภคโดยตรง

ปัจจุบันสินค้า OTOP มีอยู่มากกว่า 70,000 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเยอะมากและโครงการนี้ฯ เหมาะสำหรับที่จะช่วยเพิ่มช่องทางในการจำหน่าย และกระจายสินค้าได้อย่างดีแน่นอนครับ

ที่มา:  ประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง