บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ กองประกวด Miss Grand International จัดการประกวด Miss Grand International 2013 ภายใต้แคมเปญ STOP THE WAR หยุดความรุนแรงทุกรูปแบบ ถือลิขสิทธิ์โดยคนไทย นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานและผู้ก่อตั้ง Miss Grand International รับหน้าที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการ ขึ้นที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ตั้งแต่เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป และถ่ายทอดไปอีกกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ผ่านช่องทางต่างๆ โดยมีสาวงามนานาชาติ 75 ประเทศ ร่วมประชันโฉม ท่ามกลางกองเชียร์แน่นขนัด อัษฎา พานิชกุล และ ซอนย่า คูลลิ่ง รับหน้าที่พิธีกร เปิดตัวคณะผู้เข้าประกวด 75 ประเทศ ใน ชุดราตรีสั้น ชุดว่ายน้ำ จากนั้นคัดเหลือเพียง 20 คนสุดท้าย เพื่อโชว์โฉมในชุดราตรียาว พร้อมโชว์จากศิลปิน ไทเทเนียม ก่อนประกาศผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ เปอร์โตริโก โดมินิกัน รีพับบลิค ออสเตรเลีย สโลวัค รีพับบลิค และ ฟิลิปปินส์ เพื่อตอบคำถามจากคณะกรรมการที่ว่า “คุณจะมีวิธียุติสงครามและความขัดแย้งได้อย่างไร?” ซึ่งสาวงามแต่ละคนก็ใช้ไหวพริบในการตอบคำถามได้อย่างฉะฉาน สร้างความหนักใจให้กับคณะกรรมการเป็นอย่างยิ่ง
โดย มิส เปอร์โตริโก ตอบว่า “ต้องเข้าใจว่าทุกคนมีความแตกต่าง ย่อมไม่เข้าใจกันได้ ดิฉันว่าการให้ความรักกับทุกคน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะความรักจะทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข” มิส โดมิกัน รีพับบลิค ตอบว่า “เราทุกคนเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ย่อมมีสิทธิทำความผิดพลาดได้ทั้งนั้น แต่จากประสบการณ์ที่ได้อยู่ร่วมกันกับเพื่อนนางงามอีก 74 ประเทศ ทำให้รู้ว่าถ้ามีความขัดแย้งกัน เราจะเปิดใจพูดคุยกัน เพื่อประณีประนอม ทุกคนก็น่าจะทำในสิ่งเดียวกันได้” มิส ออสเตรเลีย ตอบว่า “ในฐานะที่ดิฉันเป็นผู้สื่อข่าว คำว่าสงครามเป็นผลกระทบที่หนักและเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าเราคิดให้มันเล็กลงและเป็นเรื่องใกล้ตัว เราก็ลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อโลกได้ ไม่ว่าเราทุกคนบนเวทีนี้จะเป็นใครที่ได้รับตำแหน่ง มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ก็จะเป็นทูตสันติภาพให้เกิดขึ้น เราจะเป็นตัวอย่างให้ทุกคนในโลกช่วยกัน” มิส สโลวัค รีพับลิค ตอบว่า “แค่คนๆเดียวคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่ไม่สายที่คิดจะเริ่ม และทุกคนควรจะช่วยกัน การประกวดนี้เป็นตัวอย่างที่ช่วยกัน STOP THE WAR และสร้างสิ่งสวยงามให้กับโลกของเรา “ มิส ฟิลิปปินส์ ตอบว่า “ในยุคของโลกโซเชียล เราก็ใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ เช่นการประกวดครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างในการรณรงค์ให้ยุติสงครามและความขัดแย้งได้ดี เช่นเดียวกับเหตุพายุในฟิลิปปินส์ สื่อช่วยได้มาก โดยเฉพาะสื่อในเมืองไทยและประเทศไทย ฉันรักประเทศไทยค่ะ”
แล้วเวลาแห่งความระทึกใจก็มาถึง เมื่อพิธีกรประกาศ รองอันดับ 4 ได้แก่ น.ส. เคลลี่ หลุยส์ แมคไกวร์ ประเทศ ออสเตรเลีย รองอันดับ 3 ได้แก่ น.ส. อลี ฟอร์บส์ ประเทศฟิลิปปินส์ รองอันดับ 2 น.ส. เดนิซา ปรัสเซซิอาโคว่า ประเทศ สโลวัครีพับบลิค เหลือเพียงสองสาวงามจาก เปอร์โตริโก และ โดมินิกัน รีพับบลิค ท่ามกลางการลุ้นระทึก พิธีกรประกาศ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2013 คนแรกของโลก ได้แก่ น.ส.เจนลี ซาปาโร ประเทศ เปอร์โตริโก้ โดนใจคณะกรรมการทั้งความสวย ไหวพริบ และรองอันดับหนึ่งได้แก่ น.ส. แชนเทล มาร์ติเนซ ประเทศ โดมินิกัน รีพับบลิค นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีรางวัล ชุดประจำชาติยอดเยี่ยม ได้แก่ น.ส. ปันเจียะ (Miss Pan Jie) ประเทศจีน , รางวัลชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม (Best Swimsuit) ได้แก่ น.ส. คริสติน รานซาน จากประเทศ ลัทเวีย , รางวัลชุดราตรียอดเยี่ยม Best Evening Gown ได้แก่ น.ส. แชนเทล มาร์ติเนซ จากประเทศ โดมินิกัน รีพับบลิค และรางวัล มิสป๊อบปูล่าโหวต ได้แก่ น.ส. ฮทาร์ ฮเท็ด ฮเท็ด ประเทศเมียนม่าร์
สำหรับผู้ที่ได้รับตำแหน่ง Miss Grand International 2013 (มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2013) ได้ครองมงกุฎเพชร และเงินรางวัลมูลค่ารวมทั้งสิ้น 30,000 USD และสิทธิในการครอบครองที่พักคอนโดมีเนียม ตลอดการปฏิบัติภารกิจ 1 ปี
สำหรับคอนเซ็ปต์ของเวทีการประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล คือ Stop The War ยุติความขัดแย้ง ความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงระดับชาติ หรือความรุนแรงในครอบครัว ความขัดแย้งภายในประเทศต่างๆ ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งจะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจร่วมรณรงค์และยุติความขัดแย้ง ความรุนแรง กับองค์กรต่างๆทั่วโลก ตลอดเวลา 1 ปี
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ facebook.com/missgrandinternational หรือ www.missgrandinternational.com
บันทึกภาพ: มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล