บทประพันธ์ ดวงตะวัน
บทโทรทัศน์ กษิดินทร์ แสงวงศ์
กำกับการแสดง ผิน เกรียงไกรสกุล
ผลิตโดย บริษัท ที.วี.ซีน จำกัด
ออกอากาศ ศุกร์,เสาร์,อาทิตย์ เวลา 20.15-22.45 น. เริ่ม 5 มกราคม 2557
“เป็ดปุ๊ก-บัวบูชา” (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) กับ “เชียร” (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ผู้เป็นบิดาขับรถมุ่งหน้าสู่ย่านชานเมืองเพื่อไปซื้อบ้านหลังใหม่ด้วยกัน แต่การเลือกซื้อบ้านของทั้งคู่นั้นมีสาเหตุมาจากความต้องการที่จะหนีให้พ้นเรื่อง “ร้อน” ในครอบครัว และตั้งใจจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ที่ห่างไกลจากปัญหาและความวุ่นวายต่างๆ นานา เมื่อมาถึง “หมู่บ้านเสริมขวัญ” ทั้งคู่ก็ได้พบกับ “หทัย” (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี)สาวใหญ่เจ้าของโครงการ และ “พิกุล” (ดีใจ ดีดีดี) พนักงานขายของโครงการ หทัยเสนอบ้านหลังท้ายสุดของโครงการให้กับเป็ดปุ๊ก เป็ดปุ๊กกลัวว่าจะเกินงบที่ตั้งไว้..แต่เมื่อได้เห็นหมู่บ้านอันร่มรื่นเขียวขจีและบ้านหลังสุดท้ายนั้นแล้ว หญิงสาวและผู้เป็นบิดาก็ตกลงเซ็นสัญญาซื้อบ้านหลังนี้ไว้และตัดสินใจจะย้ายเข้ามาอยู่ทันที
เมื่อรู้การตัดสินใจของน้องสามีและพ่อสามีแล้ว “เก็จ-เก็จเกยูร” (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) พี่สะใภ้ของเป็ดปุ๊กก็สั่งให้ “แมวเมี้ยว” (พัทรเศรษฐ์ คุณเจริญ) กับ “นกจิ๊บ” (นภัสธนันท์ นิมจิรวัฒน์) หลานทั้งสองคนของเป็ดปุ๊กมาขอข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เอาไว้ใช้ พร้อมทั้งเสียงด่าทอเหน็บแนมลอยตามลมมาให้สองพ่อลูกได้ยิน เป็ดปุ๊กกับเชียรได้แต่อดทนและอดกลั้นไว้ เพราะเห็นว่าอีกไม่นานก็จะออกไปจากบ้านหลังนี้แล้ว จึงไม่อยากมีเรื่องมีราวกัน “แก้ว-แก้วกรพินธุ์” (ภัทรินทร์ เจียรสุข) เพื่อนที่ทำงานของเป็ดปุ๊กและยังเป็นน้องสาวของเก็จเกยูร เข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่แท้ที่จริงเพื่อนสนิทคนนี้กำลังสวมหน้ากากคนดี ขณะที่วางแผนร้ายอยู่ลึกๆ ในใจ
สาเหตุที่สองพ่อลูกต้องระเห็จออกจากบ้านหลังที่เคยอยู่มานับสิบปีนั้น เริ่มต้นมาตั้งแต่ที่ “ไก่กุ๊ก-ไทรงาม” (ดนัย จารุจินดา) พี่ชายคนเดียวของเป็ดปุ๊กแต่งงานกับเก็จเกยูร ไก่กุ๊กเป็นคนที่ติดเพื่อน วันหยุดทีไรก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้า เพราะมักจะไปสังสรรค์กับเพื่อนเสมอ ทำให้เก็จเกยูรไม่พอใจมาก นอกจากนั้นสองสามีภรรยาก็ยังมารบกวนเป็ดปุ๊กและเชียรเรื่องเงินๆ ทองๆ อยู่เสมอ โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายของแมวเมี้ยวกับนกจิ๊บ แต่ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สองพ่อลูกทนไม่ได้ ก็คือ เวลา ไก่กุ๊กกับเก็จเกยูรทะเลาะกัน เก็จเกยูรก็มักจะด่าทอไก่กุ๊กเสียๆ หายๆ ให้เป็ดปุ๊กและเชียรได้ยิน เท่านั้นไม่พอ เก็จเกยูรยังด่ากราดมาถึงเชียรว่าเป็นพ่อแม่ไม่รู้จักสั่งสอนลูกตัวเอง เป็ดปุ๊กทนไม่ไหว ก็มีเถียงกลับไปบ้าง ไก่กุ๊กเองก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ดีขึ้นเลย เป็ดปุ๊กกับเชียรจึงตัดสินใจว่าจะย้ายออกเพื่อความสงบของทุกคน แต่กระนั้นไก่กุ๊กกับเก็จก็ยังไม่วายหาเรื่องเป็ดปุ๊ก ว่าเอาพ่อไปอยู่ด้วย เพราะหวังจะได้ใช้เงินบำนาญและเงินมรดกของพ่อ
ในวันที่เป็ดปุ๊กขนของไปยังบ้านใหม่นั้น เธอก็ได้เจอกับ “ไข่มุก” (จรรยา ธนาสว่างกุล) เพื่อนบ้านช่างเม้าท์ ไข่มุกเตือนหญิงสาวให้ระวัง “คนโรคจิตนอกกำแพง” เป็ดปุ๊กเริ่มระแวงว่าข้างบ้านของเธอที่เป็นที่สวน รกเรื้อนั้นเป็นที่อยู่ของใคร พิกุลยืนกรานเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าพื้นที่สวนด้านหลังและข้างบ้าน เป็ดปุ๊กนั้นเป็นญาติของหทัยเอง รับรองว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นแน่นอน เป็ดปุ๊กชื่นชมต้นไม้ใบหญ้าที่โครงการนำมาลงให้ พิกุลบอกว่าเป็นฝีมือของคนสวนมือเย็นแต่ใจร้อนของโครงการ “โอม-อลังการ” (เปรมมณัช สุวรรณานนท์) ลูกชายของหทัย เข้ามาต้อนรับหญิงสาวเข้าสู่หมู่บ้านเสริมขวัญแห่งนี้ เป็ดปุ๊กหวังลึกๆ ว่าบ้านใหม่แห่งนี้จะเป็นที่พักพิงใจให้กับเธอและพ่อได้
รุ่งขึ้น เป็ดปุ๊กกลับมาที่บ้านใหม่อีกครั้ง และได้พบกับ “ไม้-ตฤณ” (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) คนสวนของหมู่บ้านเสริมขวัญ ที่เอาต้นไม้มาลงให้เพิ่มเติมที่บ้าน เป็ดปุ๊กเข้าไปถามเรื่องต้นไม้ที่นำมาลงใหม่ แต่กลับเจอคำตอบแบบกวนประสาทกลับมา เป็ดปุ๊กสังเกตเห็นว่าไข่มุกมีท่าทางกลัวๆ คนสวนหนุ่มคนนี้ชอบกล เมื่อกลับเข้าบ้าน หญิงสาวก็ถูกเหล่าช่างที่มาติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รุมล้อมจะเอาเปรียบ ไม้อดรนทนไม่ได้ ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือก่อนที่หญิงสาวจะตกเป็นเหยื่อของการเอาเปรียบนั้น
และแล้วก็ถึงวันที่ต้องย้ายบ้าน แต่เก็จเกยูรก็ไม่วายกระแนะกระแหนไล่หลังมา ส่วนไก่กุ๊กก็โทษว่าเป็นการตัดสินใจของเป็ดปุ๊กและเชียรเอง เชียรบอกให้เป็ดปุ๊กไปนิมนต์พระพุทธรูปในห้องพระไปที่บ้านหลังใหม่ด้วย เป็ดปุ๊กอึ้งไป เพราะพี่ชายและพี่สะใภ้นั้นใส่กุญแจล็อกห้องพระไว้ สองพ่อลูกจากบ้านหลังเก่าที่มีความทรงจำอัดแน่นอยู่มาอย่างอาลัยอาวรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียรนั้นถึงกับซึมไปเลย
ชีวิตใหม่ในบ้านหลังใหม่นั้นช่างเงียบเหงาและหดหู่ และไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้มาอยู่อาศัยใหม่ เชียรนั้นเงียบเหงาเศร้าซึมอย่างหนักเพราะคิดถึงบ้านเก่า เป็ดปุ๊กเป็นห่วงเป็นใยผู้เป็นพ่อมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ ความเหนื่อย ความเครียด และสารพันปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา ทำให้หญิงสาวนั่งร้องไห้เพียงคนเดียวในห้องนอนในบ้านหลังใหม่โดยที่คิดว่าไม่มีใครเห็น แต่หญิงสาวหารู้ไม่ว่า ทุกอิริยาบถของเธอนั้นมีผู้จับตามองอยู่ … ใกล้เกินกว่าที่เธอคิด
แม้จะเศร้าโศกเพียงใด แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป เป็ดปุ๊กต้องไปทำงาน แต่ก็เป็นห่วงพ่อไม่น้อย พิกุลพาไม้มาหาเชียรเพื่อปรึกษาเรื่องทำสวน ไม้รู้ว่าเชียรอยู่บ้านคนเดียวก็รู้สึกสงสาร จึงพูดคุยให้ความเป็นกันเองกับชายชรา ทำให้เชียรอุ่นใจว่ายังมีเพื่อน ไม้รู้สึกสงสารสองพ่อลูกที่ดูท่าทางมีความทุกข์ไม่น้อย
ไม้ไม่ใช่เป็นแค่คนสวนของหมู่บ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของร้านขายต้นไม้ชื่อ “สวนขวัญ” ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ หมู่บ้านเสริมขวัญนั่นเอง ที่ดินรกเรื้อข้างบ้านเป็ดปุ๊กก็เป็นสวนของไม้ทั้งหมด และที่เป็ดปุ๊กยังไม่รู้ก็คือ เลยแนวต้นไม้ร่มครึ้มถัดจากบ้านของเธอไป ไม้ได้สร้างบ้านบนต้นไม้หลังหนึ่งไว้ใช้เป็นห้องนอน และไม้ก็เห็นเป็ดปุ๊กร้องไห้อยู่ตามลำพังในห้องนอนจากบ้านบนต้นไม้หลังนี้นี่เอง ส่วนที่ดินทางด้านหลังของหมู่บ้านเสริมขวัญ ก็เป็นทีดินของ “ย่าขวัญ” (พิสมัย วิไลศักดิ์) ย่าแท้ๆ ที่เลี้ยงดูไม้มาตั้งแต่เด็ก ย่าขวัญอาศัยอยู่กับ
“ตั๊กแตน” (อนุธิดา อิ่มทรัพย์) เด็กสาวกำพร้าที่ย่าขวัญรับมาเลี้ยงไว้ และเอ๋ง สุนัขพันทางหนึ่งตัว ย่าขวัญอยู่ในสวนแห่งนี้มาทั้งชีวิต จึงรักและผูกพันกับที่ดินผืนนี้มาก เมื่อย่าขวัญรับไม้มาเลี้ยงดู ก็ปลูกฝังให้ไม้เป็นคนที่รักต้นไม้ไปด้วย เมื่อย่าขวัญบอกกับไม้ว่าหทัยจะมากินข้าวที่บ้านด้วย จากที่อารมณ์ดีๆ อยู่ ไม้ก็อารมณ์เสีย หงุดหงิด รีบขอตัวกลับบ้านไปก่อนที่หทัยจะมา ย่าขวัญได้แต่มองตามหลานชายคนเดียวไปอย่างสงสาร
ระหว่างวันขณะทำงาน เป็ดปุ๊กก็ไม่ค่อยมีสมาธินัก เพราะเป็นห่วงเชียรที่อยู่บ้านคนเดียว แก้วกรพินธุ์เข้ามาบอกว่าทำงานที่เป็ดปุ๊กฝากให้ทำเรียบร้อยแล้ว เพื่อนร่วมงานแซวว่าแก้วมีกำลังใจดี เพราะมีแฟนเป็นลูกเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร เป็ดปุ๊กนึกถึงตัวเองว่าเมื่อไหร่จะมีใครก้าวเข้ามาในชีวิตบ้าง เมื่อถึงเวลากลับบ้าน เป็ดปุ๊กก็ไม่ได้อยู่ทำงานล่วงเวลาเหมือนอย่างเคย เพราะต้องการรีบกลับไปหาเชียรเร็วๆ เป็ดปุ๊กเห็นเศษก๋วยเตี๋ยวอยู่ในถังขยะก็แปลกใจ เชียรสารภาพว่าคนสวนของหมู่บ้านซื้อมาให้ เป็ดปุ๊กเตือนเชียรให้ระวังตัว อย่าไปสนิทสนมกับคนแปลกหน้ามากเกินไปนัก
เป็ดปุ๊กไปถามหาคนงานชื่อไม้กับ “ฝ้ายคำ” (เพ็ญศรี ปิ่นทอง) และบรรดาคนสวนในหมู่บ้าน โอมได้ยินเข้า ก็มาเตือนเป็ดปุ๊กว่าอย่าไปยุ่งกับไม้ เพราะไม้นิสัยไม่ดี เกกมะเหรกเกเร จึงทำให้เป็ดปุ๊กไม่ค่อยไว้ใจไม้นัก เวลาทำงานก็คิดห่วงว่าเชียรจะอยู่จะกินอย่างไร ไม้จะมาตีสนิทอีกหรือไม่ จนมีผลกระทบกับการทำงาน “พิมพา” (แวร์ โซว) หัวหน้าของเป็ดปุ๊ก จึงเรียกหญิงสาวเข้าไปตักเตือนว่าให้แยกเรื่องส่วนตัวกับงานออกจากกันให้ได้ เป็ดปุ๊กเครียดจากงานไม่พอ เมื่อกลับมาถึงบ้าน ไข่มุกก็ยังมาฟ้องอีกว่าไม้ปีนกำแพงมาหาเชียรเพื่อเอาปลาเค็มมาฝาก เป็ดปุ๊กเห็นเชียรกินปลาเค็มอย่างเอร็ดอร่อยโดยที่ไม่แตะอาหารของเธอเลย ก็ยิ่งรู้สึกโกรธนายคนสวนคนนี้มากขึ้น ตรงกันข้าม เชียรรู้สึกสนิทสนมกับไม้มากขึ้นเรื่อยๆ จนยอมเอ่ยปากเล่าเรื่องปัญหาในครอบครัวให้ฟัง แม้แต่คุณเชียรก็ยังแปลกใจที่รู้สึกไว้ใจชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันมากขนาดนี้ เชียรอยากรู้เรื่องของไม้บ้าง ไม้ก็เล่าแค่ว่าอาศัยอยู่กับย่า เพราะแม่มีสามีใหม่ แล้วก็ปิดปากสนิท ไม่ยอมพูดอะไรอีก
หลังจากมาคุยธุระกับลูกค้านอกบริษัทเสร็จแล้ว แก้วก็ชวนเป็ดปุ๊กโดดงานที่บริษัท เป็ดปุ๊กถือโอกาสกลับไปดูหน้านายไม้ให้เห็นจะๆ เสียที หลังจากที่เขาหลบหน้าเธอมาหลายครั้งแล้ว เมื่อกลับไปถึงบ้าน หญิงสาวก็เห็นนายคนสวนกำลังง่วนอยู่ในห้องครัวที่บ้าน เป็ดปุ๊กเข้าไปต่อว่าไม้ที่เข้ามาในบ้านเธอโดยพลการ เชียรเข้ามาแนะนำให้สองหนุ่มสาวรู้จักกัน แต่ไม้บอกว่าเขาแนะนำตัวกับเป็ดปุ๊กไปแล้วตั้งแต่วันที่เอาต้นไม้มาลงให้ เป็ดปุ๊กไม่ค่อยชอบนิสัยยียวนกวนประสาทของนายคนสวนคนนี้ จึงคิดจะหลีกหนีให้ไกลเท่าที่จะทำได้แม้จะหลีกหนีมาไกลถึงที่นี่ แต่เรื่องร้อนใจของไก่กุ๊กกับเก็จก็ตามมาถึงจนได้ เพราะแมวเมี้ยวโทรมาฟ้องปู่และอาว่าแม่สั่งไม่ให้พูดคุยกับทั้งคู่ ทั้งเป็ดปุ๊กและเชียรรู้สึกจุกจนเจ็บ เป็ดปุ๊กหาทางให้เชียรหายเศร้าด้วยการพาไปซื้อต้นไม้มาประดับบ้านที่ร้านสวนขวัญ และเพิ่งได้รู้ว่าไม้ขายต้นไม้อยู่ที่ร้านนี้ เป็ดปุ๊กมองภาพเชียรกับไม้สนิทสนมกันด้วยความหนักใจ เป็ดปุ๊กอยากซื้อต้นลั่นทม แต่กลัวว่าชื่อจะไม่เป็นมงคล ไม้
บอกว่าชื่อของต้นไม้ทำอะไรใครไม่ได้ บางคนยังไม่ปลูกลั่นทม แต่พอเข้าห้องตัวเองได้ก็ร้องไห้ขี้มูกโป่ง เป็ดปุ๊กแปลกใจที่ไม้พูดราวกับว่าเห็นเธอร้องไห้เมื่อคืนก่อน
แมวเมี้ยวโทรมาร้องห่มร้องไห้กับเป็ดปุ๊กและเชียร บอกว่าเก็จเกยูรไม่ยอมให้เลี้ยงเจ้ายักษ์เบิ้ม สุนัขพันธุ์ปั๊กแล้ว ร้อนถึงสองพ่อลูกต้องไปรับเจ้ายักษ์เบิ้มมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ด้วยกัน เมื่อทั้งคู่กลับไปถึงบ้านเก่า ก็พบ “กะรัต” (สุปราณี เจริญผล) แม่ของเก็จเกยูรที่มาช่วยดูแลแมวเมี้ยวให้ กะรัตเป็นแม่ประเภทที่ถือคติในการเลี้ยงลูกว่า ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องไขว่คว้าเอามาให้ได้เอง ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ถูกหรือผิดก็ตาม จึงทำให้ทั้งเก็จเกยูรและแก้วกรพินธุ์เป็นคนที่เห็นแก่ตัว ถือเอาความต้องการของตนเป็นใหญ่ กะรัตอยากรู้ว่าที่ดินที่บ้านหลังเก่าถ้าขายไป จะได้ราคาเท่าไหร่ แต่เชียรไม่อยากขาย เพราะถ้าทำอย่างนั้นหลานๆ จะไปอยู่ที่ไหนกัน กะรัตได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ว่าที่ดินผืนนี้เป็นชื่อของใครกันแน่
ไข่มุกมาฟ้องเป็ดปุ๊ก พลางชี้ให้ดูรั้วสังกะสีสูงเท่าหน้าต่างชั้นสองที่ถูกสร้างขึ้นข้างบ้านเธอ ไข่มุกโทษว่าต้องเป็นเพราะไอ้คนสวนบ้านั่นแน่ๆ และจะไปฟ้องหทัยให้รื้อรั้วลงมาให้ได้ ไม้มาถึงพอดี เลยสวนกลับว่าเป็นเพราะไข่มุกนั่นแหละที่โยนขยะข้ามไปในเขตสวนคนอื่นก่อน ไข่มุกอึ้งไปด้วยยอมจำนนต่อหลักฐาน ไม้เอาต้นลั่นทมมาลงให้ที่บ้านเป็ดปุ๊ก พอรู้ว่าหทัยมา ไม้ก็รีบชิ่งหนีไปเพราะไม่อยากเจอหน้าหทัย ไข่มุกเห็นหทัยมาถึง ก็รีบมาฟ้องเรื่องกำแพงสังกะสีทันที หทัยรับปากจะจัดการให้
หลังจากย้ายบ้านใหม่ได้เดือนเศษๆ สองพ่อลูกก็เริ่มปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ได้ แต่ในค่ำคืนหนึ่งที่ฝนตกหนัก การจราจรติดขัดถึงขั้นเป็นอัมพาต เป็ดปุ๊กเป็นห่วงพ่อที่อยู่บ้านคนเดียว แต่ไม่ว่าจะเพียรโทรเข้าบ้านเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครรับสาย หญิงสาวคิดไปต่างๆ นานา กลัวว่าจะมีเหตุร้ายขึ้นกับพ่อ ทว่าถนนด้านหน้ารถติดเป็นแพจนเข้าหมู่บ้านไม่ได้ เป็ดปุ๊กจึงขับอ้อมไปที่ร้านสวนขวัญเพื่อขอข้ามรั้วไปยังบ้านของเธอ ไม้เห็นภาพเป็ดปุ๊กเป็นห่วงพ่อจนน้ำตาคลอหน่วยแล้วใจอ่อนยวบ ยอมพาหญิงสาวไปที่รั้วกันระหว่างสวนของเขากับบ้านของเธอ เชียรออกมารับเป็ดปุ๊กที่กำแพงข้างบ้านด้วยความงุนงง สาเหตุที่เชียรไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็เพราะเจ้ายักษ์เบิ้มทำสายโทรศัพท์หลุดนั่นเอง เป็ดปุ๊กเห็นความมีน้ำใจของไม้ที่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง จนเริ่มจะเปิดใจมองเขาด้วยมุมมองใหม่ขึ้นมาบ้าง
แก้วกรพินธุ์มาปรึกษาเป็ดปุ๊กว่าอยากออกจากที่ทำงานก่อนเวลา เพราะมีนัดกับแฟน จึงอยากให้เป็ดปุ๊กเลื่อนนัดลูกค้ามาเป็นบ่ายนี้ แต่พอถึงเวลานัดลูกค้าจริงๆ แก้วกลับลืมเอาเอกสารของลูกค้ามาด้วย เป็ดปุ๊กไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องโทรไปขอโทษลูกค้า ในขณะที่แก้วหนีไปหาแฟน เป็ดปุ๊กจะกลับที่ทำงานก็ไม่ได้ จึงเลือกที่จะกลับบ้าน แต่ก่อนกลับ ก็แวะที่ร้านสวนขวัญเพื่อเอาขนมไปฝากฝ้ายคำกับไม้ แล้วจะไปตลาดต่อ ไม้อาสาทำหน้าที่เป็นไกด์จำเป็น พาเป็ดปุ๊กทัวร์ตลาดสดเพื่อหาซื้อกับข้าวที่เชียรชอบ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ระหว่างทางกลับบ้าน เป็ดปุ๊กก็พบกับแก้วและโอม จึงได้รู้ว่าแฟนแก้วที่เป็นลูกเจ้าของหมู่บ้านจัดสรร ก็คือโอมนี่เอง เป็ดปุ๊กเริ่มรู้สึกอยากมีใครสักคนคอยอยู่เคียงข้างขึ้นมา เมื่อกลับถึงบ้าน เป็ดปุ๊กก็ชวนไม้อยู่กินข้าวด้วยกัน และเอ่ยขอโทษไม้ที่เคยเข้าใจไม้ผิดไป แต่ไม้ไม่ถือสา
เป็ดปุ๊กได้เจอกันคนแถวบ้านเก่ามาบอกว่าเก็จกับไก่กุ๊กตัดต้นไม้ที่อยู่รอบๆ บ้านเก่าหมดแล้ว รวมทั้งต้นกรรณิการ์แห่งความหลังของเชียร ซึ่งเป็นต้นไม้ชื่อเดียวกับแม่ของเป็ดปุ๊ก เป็ดปุ๊กร้อนใจ รีบโทรไปถามพี่ชาย แต่ไก่กุ๊กไม่ยอมพูดจาดีๆ ด้วย เป็ดปุ๊กไปปรึกษากับไม้ว่าจะไปล้อมต้นกรรณิการ์มาปลูกใหม่ที่บ้านใหม่ ไม้ตกลงรับปากช่วยเหลือเป็ดปุ๊กด้วยความเต็มใจ ทว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านหลังเก่า ทั้งคู่ก็พบว่าเก็จเกยูรตัดต้นไม้ทิ้งไปหมดแล้ว เก็จกับเป็ดปุ๊กมีปากเสียงกัน เก็จดูถูกเป็ดปุ๊กว่าหาแฟนเป็นแค่คนสวน แต่ก็รู้สึกคุ้นๆ หน้าไม้อยู่ ไม้เห็นใจเป็ดปุ๊กมากที่ต้องมาเจอเรื่องราวร้ายๆ และเริ่มมีความรู้สึกลึกซึ้งกับหญิงสาวขึ้นมา
เชียรเศร้ามากเมื่อรู้ว่าต้นกรรณิการ์ถูกตัดไปแล้ว แต่เป็ดปุ๊กสัญญาว่าจะให้ไม้หาต้นกรรณิการ์ต้นใหม่มาให้ แม้จะรู้ดีว่าไม่มีต้นไหนเหมือนต้นไม้ต้นนั้นอีกแล้วก็ตาม ไม้รู้เรื่องนั้นดี จึงแอบเก็บเมล็ดกรรณิการ์จากต้นเก่ามาให้ เชียรรับไว้ด้วยความตื้นตันใจ
เป็ดปุ๊กสั่งซื้อกระถางและต้นไม้ไปปลูกในห้องน้ำ เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องน้ำ ไม้รู้สึกได้ถึงหัวใจของตัวเองที่เริ่มหวั่นไหวแปลกๆ เชียรมาบอกข่าวว่าไก่กุ๊กกับเก็จจะปรับปรุงบ้านเก่าเป็นบ้านเช่า เป็ดปุ๊กไม่ยอมให้พี่ชายและพี่สะใภ้ทำอะไรไปโดยพลการเป็นอันขาด จึงไปลุยกับทั้งคู่ สองพี่น้องทะเลาะกันเรื่องบ้านจนลุกลามไปกันใหญ่ ไก่กุ๊กเสนอให้ขายบ้านซะ แล้วเอาเงินมาแบ่งกัน เชียรช้ำใจมากที่ลูกๆ ทั้งสองมาทะเลาะกันเพื่อแย่งสมบัติ จึงบอกกับทุกคนว่าบ้านหลังนี้ถูกโอนเป็นชื่อเป็ดปุ๊กตั้งนานแล้ว ไก่กุ๊กกับเก็จแค้นใจมากที่ทำอะไรกับที่ดินไม่ได้ เก็จเกยูรโทรไปปรึกษากะรัต กะรัตจึงแนะนำวิธีที่จะเอาบ้านมาเป็นของตัวเอง
ย่าขวัญถามไม้เรื่องที่มีคนเห็นไม้ถือกระเป๋าให้ผู้หญิงอยู่ที่ตลาด ไม้ได้แต่ตอบอย่างไม่เต็มเสียงเพราะกลัวย่าขวัญจะจับพิรุธได้ ย่าขวัญถามถึงต้นกรรณิการ์ที่ให้ไป ไม้จึงเล่าให้ย่าฟังเรื่องของเชียรกับเป็ดปุ๊กที่เจอกับปัญหาครอบครัว แล้วก็ให้นึกถึงตนเองที่ก็มีปัญหาครอบครัวเช่นกัน “ศักดิ์” (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ลูกชายคนเล็กของย่าขวัญก็มักจะแวะเวียนมาหาเพื่อตื๊อให้ย่าขวัญยกที่ดินผืนนี้ให้เสมอ แต่ย่าขวัญไม่ยอมให้ เพราะต้องการจะอยู่ที่สวนแห่งนี้ไปจนตาย สองย่าหลานต่างเป็นกำลังใจให้กันและกันอย่างอบอุ่น
ไก่กุ๊กมาหาเชียรที่บ้าน ทำทีมาเป็นขอโทษที่ทำผิดไป แล้วค่อยๆ มาหว่านล้อมให้เชียรกลับไปที่บ้านหลังเก่าโดยอ้างว่าแมวเมี้ยวกับนกจิ๊บคิดถึง เชียรสงสารลูกหลานจับใจ จึงตกลงไปค้างแค่ชั่วคราวเท่านั้น ไก่กุ๊กดีใจที่ทำสำเร็จ เพราะมีแผนจะทำให้เชียรยอมยกที่ดินบ้านหลังเก่าให้ตนเอง เชียรเพียรโทรไปหาเป็ดปุ๊ก แต่ก็ไม่มีใครรับสาย จึงได้แต่แปะกระดาษโน้ตบอกไว้หน้าบ้าน ขณะเดียวกันเป็ดปุ๊กก็ถูกพิมพาเรียกเข้าไปพบเพื่อต่อว่าเรื่องที่โดดงานไปชอปปิ้ง เป็ดปุ๊กอึ้งไป เมื่อรู้ว่าคนที่ใส่ร้ายเธอคือแก้วกรพินธุ์คนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทนั่นเอง พิมพาตัดสินใจถอดเป็ดปุ๊กออกจากตำแหน่งหัวหน้าแผนก แล้วให้แก้วขึ้นเป็นหัวหน้าแทน เป็ดปุ๊กรู้สึกเหมือนโลกจะถล่มทลายขึ้นมาทันใด หนำซ้ำเมื่อกลับถึงบ้าน ก็เจอกระดาษโน้ตบอกว่าพ่อไปค้างบ้านเก่าอีก หญิงสาวถึงขีดสุดของความอดกลั้น ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาอย่างไม่อายใคร
แก้วกรพินธุ์ เก็จเกยูรต่างยินดีที่แผนของตัวเองเป็นผลสำเร็จ เก็จเกยูรก็พยายามเอาใจพ่อสามีเพื่อหวังจะได้ที่ดินผืนนี้เป็นของตัวเอง จะได้ทำอะไรต่อมิอะไรได้ตามใจปรารถนา เป็ดปุ๊กเล่าให้ไม้ฟังเรื่องปัญหาที่เธอพบเจอมา ไม้ตัดสินใจพาเป็ดปุ๊กไปกินข้าวที่บ้านย่าขวัญ แล้วไม้ก็ดสินใจไม่ผิด เพราะบรรยากาศรอบวงข้าวที่บ้านย่าขวัญทำให้หญิงสาวสบายใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก เป็ดปุ๊กได้รับกำลังใจจากย่าขวัญ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่เพียงลำพังในโลกอันโหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม้พาเป็ดปุ๊กกลับไปส่งบ้าน ทั้งคู่ส่งมอบกำลังใจให้กันผ่านการเกาะกุมมือ เป็ดปุ๊กอุ่นใจยิ่งขึ้นเมื่อรู้ว่าเธอยังมีคนที่เป็นห่วงเธออยู่
กลางดึกคืนนั้น มีโจรงัดเข้าบ้านเป็ดปุ๊ก แต่เป็ดปุ๊กรู้ตัวก่อน จึงโทรบอกยามหน้าหมู่บ้านก่อนจะตะโกนเสียงดังให้คนช่วย ปรากฏว่าไม้เป็นคนแรกที่ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านเป็ดปุ๊ก โอมตั้งข้อสังเกตว่าไม้มาได้อย่างไร ทำให้ไม้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยขึ้นมาทันที ที่ร้ายไปกว่านั้น โอมและไข่มุกยังหาว่าไม้เข้าบ้านเป็ดปุ๊กเพื่อหวังจะทำมิดีมิร้ายกับหญิงสาว เป็ดปุ๊กไม่อยากเชื่อว่าไม้จะเป็นคนแบบนั้น เมื่อตำรวจมาถึงพร้อมกับหทัย โอมก็บอกให้ตำรวจจับไม้ไปเข้าคุก หทัยจึงเปิดเผยความจริงว่าไม้เป็นลูกชายของเธอเองและยังเป็นเจ้าของหมู่บ้านเสริมขวัญ อีกทั้งเป็นหลานชายคนเดียวของเจ้าของที่ดินแถบนี้ทั้งหมดอีกด้วย!!!
เมื่อเรื่องราวทั้งหลายจบลงแล้ว ไม้ก็ชวนเป็ดปุ๊กไปตักบาตรที่หน้าร้านสวนขวัญ ก่อนจะพาหญิงสาวไปในสวนด้านหลังเพื่อดูบ้านบนต้นไม้ที่เขาเฝ้าจับตาดูบ้านเป็ดปุ๊กมาตลอด ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน เป็ดปุ๊กบอกว่าเชื่อมั่นในตัวของไม้มาตลอดว่าไม้ไม่มีวันทำเรื่องเลวๆ แบบนั้นแน่นอน เป็ดปุ๊กอยากรู้เรื่องของหทัยกับไม้ แต่ไม้ก็ปากแข็ง ไม่ยอมเล่าให้เป็ดปุ๊กฟังจนแล้วจนรอด ศักดิ์มาหาย่าขวัญเพื่อจะให้ย่าขวัญยกที่ดินให้ เพราะเขามีแผนจะสร้างหมู่บ้านจัดสรรบ้าง แต่ย่าขวัญไม่ยอม ศักดิ์พาล หาว่าย่าขวัญจะยกที่ให้กับไม้ ไม้กับย่าขวัญได้แต่เหนื่อยใจที่ศักดิ์ไม่รู้จักโตเสียที พอรู้ข่าวว่ามีขโมยขึ้นบ้าน เชียรก็รีบขอตัวกลับไปอยู่กับเป็ดปุ๊ก มิไยที่ไก่กุ๊กกับเก็จจะขอให้อยู่ต่อก็ตาม เชียรรู้ดีว่าที่สองสามีภรรยาทำไปทั้งหมดก็เพื่อให้เขายกบ้านให้ แต่ชายชราก็ใจแข็ง ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปแล้วเป็นอันขาด เป็ดปุ๊กกับไม้พาเชียรไปเยี่ยมย่าขวัญเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ต่างปรับทุกข์กันเรื่องปัญหาครอบครัวและลูกเต้าที่เลี้ยงได้แต่ตัวแล้วก็ได้แต่ปลง
เป็ดปุ๊กกลับไปทำงานวันแรกหลังจากถูกลดตำแหน่ง ท่ามกลางการจับตามองอย่างใกล้ชิดของเพื่อนร่วมงาน และการเยาะเย้ยถากถางของคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่หญิงสาวก็พยายามทำใจให้สบาย ไม่ยอมให้ความโกรธมาครอบงำจิตใจ แก้วยังซ้ำเติมเป็ดปุ๊กว่าตกต่ำจนต้องไปคบกับคนสวน แต่เมื่อเธอได้รู้ว่าโอมไม่ใช่ทายาทเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรตัวจริง หญิงสาวก็พร้อมจะหาทางตีจากไปทันที
ไม้มาบอกข่าวเรื่องงานทำบุญวันเกิดย่าขวัญ เป็ดปุ๊กอยากช่วยงาน แต่ไม่รู้จะช่วยอะไรได้ จึงร่วมมือกับหทัย พาย่าขวัญไปตัดชุดและทำผมใหม่ หทัยดีใจที่เป็ดปุ๊กมาช่วยคะยั้นคะยอย่าขวัญ หทัยเปิดใจเล่าเรื่องของเธอกับไม้ให้เป็ดปุ๊กฟัง เป็ดปุ๊กเข้าใจไม้มากขึ้นอีกนิด ทว่าไม้กลับงอนที่เป็ดปุ๊กกับหทัยทำให้ย่าขวัญพอใจได้ ไม้บอกว่าจะทำให้เชียรรักเขามากกว่าเป็ดปุ๊กให้ได้ เป็ดปุ๊กย้อนว่าแทนที่จะทำให้เชียรรัก สู้ไปทำดีกับแม่ของตัวเองดีกว่า ไม้เงียบไป เป็ดปุ๊กรู้สึกตัวว่าเล่นแรงไปหรือเปล่า
ขณะเดียวกัน หทัยก็ทะเลาะกับ “อลงกรณ์” (รอน บรรจงสร้าง) ผู้เป็นสามีและโอม อลงกรณ์นั้นต้องการให้ที่ดินผืนที่เป็นหมู่บ้านนี้ตกเป็นของโอม แต่หทัยไม่ยอม เพราะที่ดินผืนนี้เป็นของเสริม สามีเก่าของเธอ ซึ่งเป็นพ่อของไม้ โอมยิ่งชิงชังไม้มากขึ้นที่จะฮุบทุกอย่างไป ทั้งๆ ที่ไม่ได้ลงแรงทำอะไรสักอย่าง อลงกรณ์ยอมรามือจากที่ผืนนี้ แต่ก็คิดหาทางจะขยายหมู่บ้านออกไปทางด้านหลัง โดยใช้ที่ดินของย่าขวัญ หทัยไม่สนับสนุน แต่ก็หวั่นใจเหลือเกิน เพราะรู้ว่าอลงกรณ์ไม่มีทางหยุดแค่นี้แน่ๆ
โอมโกรธหทัยที่จะประเคนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับไม้ ทั้งๆ ที่เขากับพ่อเป็นคนสร้างขึ้นมา โอมโทรไปนัดแก้วออกมาพบกัน เพราะไม่อยากอยู่คนเดียว แต่กลับถูกแก้วปฏิเสธ โอมรู้แล้วว่าแก้วตีตัวออกห่างเพราะเค้าไม่ได้รวยอย่างที่คิด เมื่อเจอหน้าไม้ โอมก็เหวี่ยงใส่ไม้ทันทีด้วยความหงุดหงิด แถมยังพาลว่าไปถึงเป็ดปุ๊กด้วย ไม้ฉุนขาด สองหนุ่มชกต่อยกันจนหทัยต้องเข้ามาจับแยก หทัยอยากรู้เหตุผลของไม้ แต่ไม้ไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรทั้งนั้น ไม้หนีหทัยขึ้นรถเป็ดปุ๊กออกไป เป็ดปุ๊กเกลี้ยกล่อมจนไม้ยอมเปิดปากเล่าถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนในครอบครัวของเขาให้ฟัง ไม้นั่งรถเป็ดปุ๊กไปจนถึงบริษัท แก้วเห็นทั้งคู่เข้า แก้วตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายของเธอจากโอมมาเป็นไม้ทันที เมื่อรู้ว่าไม้นี่แหละเป็นเจ้าของหมู่บ้านเสริมขวัญตัวจริง แก้วกรพินธุ์วางแผนจะเข้าไปตีสนิทกับไม้โดยใช้งานทำบุญวันเกิดของย่าขวัญบังหน้า
โอมไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนหาเรื่องไม้ก่อน หทัยเหนื่อยใจเหลือเกินที่มีปัญหาเกิดขึ้นไม่ได้หยุดหย่อน อลงกรณ์เตือนสติลูกชายว่าอย่าวู่วาม เพราะเขากำลังมีแผนการใหญ่อยู่ในใจ ซึ่งจะดำเนินการในวันงานทำบุญของย่าขวัญ ขณะที่ไม้ก็คิดจะใช้งานทำบุญวันเกิดครั้งนี้สารภาพความในใจกับเป็ดปุ๊กเสียที
ในงานวันทำบุญวันเกิดย่าขวัญ แขกเหรื่อพากันแปลกใจ เพราะทุกทีไม้จะไม่อยู่ร่วมงาน แต่มาปีนี้ไม้อยู่ร่วมงานได้ แถมยังพาเป็ดปุ๊กมาเปิดตัวด้วย หทัยพาอลงกรณ์กับโอมมาร่วมงาน อลงกรณ์รีบประจบย่าขวัญเพราะหวังจะให้ย่าขวัญขายที่ดินให้ สักพัก กลุ่มของไก่กุ๊ก เก็จ แก้ว กะรัต และศักดิ์ก็มาถึงบ้านย่าขวัญ ทุกคนพากันแปลกใจว่ามาได้ยังไง เมื่อไล่เรียงลำดับญาติกันแล้ว ก็รู้ว่ากะรัตเป็นภรรยาศักดิ์ ก็เท่ากับเป็นสะใภ้ย่าขวัญนั่นเอง
แก้วกรพินธุ์เข้ามาตีสนิทกับไม้และจงใจเมินใส่โอมอย่างเห็นได้ชัด โอมยิ่งแค้นใจ แม้จะไม่ได้ชอบพอแก้วนัก แต่ก็ไม่อยากให้ไม้ได้ดีกว่า ส่วนกะรัตก็ลงทุนเช่าพระราคาแพงมาให้ย่าขวัญเพื่อหวังจะเอาชนะหทัยให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นสำเร็จ หทัยหนักใจเมื่อเห็นว่าอลงกรณ์กับศักดิ์ซุบซิบวางแผนอะไรกันอยู่ แต่คิดว่าไม่ใช่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน
หลังจากวันงานทำบุญ ศักดิ์ก็มาตามตื๊อย่าขวัญให้ยกที่ดินให้ บอกว่าปรึกษากับอลงกรณ์แล้วเรื่องสร้างหมู่บ้านใหม่ ย่าขวัญไม่อยากย้ายออกไปจากที่นี่ ศักดิ์โกรธ หาว่าย่าขวัญจะยกที่ดินให้ไม้ ยิ่งหทัยออกมาช่วยย่าขวัญ ศักดิ์ก็ยิ่งโกรธว่าหทัยจะฮุบที่เอาไว้คนเดียว ย่าขวัญเสียใจเหลือเกินที่ลูกชายที่เหลืออยู่คนเดียว กลายเป็นคนที่ไม่มีหัวคิด ส่วนหทัยก็เสียใจที่อลงกรณ์เป็นคนใส่ความคิดบ้าๆ แบบนี้เข้าไปในหัวศักดิ์ เป็ดปุ๊กอยากให้หทัยรู้สึกดีขึ้น จึงไปหาไม้เพื่อจะขอร้องให้ไม้มาเป็นกำลังใจให้หทัย แต่กลับพบไม้อยู่กับแก้วที่ร้าน ไม้อ้างว่าแก้วมาบอกเรื่องที่ศักดิ์มาขอที่สวนผืนนั้น เป็ดปุ๊กเริ่มไม่มั่นใจในตัวไม้ แต่ก็ออกปากขอร้องให้ไม้ไปปลอบใจหทัย ไม้ยังมีทิฐิอยู่ บอกว่าคนที่เขาควรจะสนใจก็มีแต่ย่าขวัญเท่านั้น เป็ดปุ๊กเสียใจที่ไม้ไม่เชื่อเธอ
กไปจากที่นี่ ศักดิ์โกรธ หาว่าย่าขวัลงกรณ์แล้วเรื่องสร้างหมู่บ้าน แก้วกระหยิ่มใจที่แผนของเธอดำเนินไปได้สวย เก็จอิจฉาน้องที่จะได้ดี เลยไปบังคับไก่กุ๊กให้ไปคุยกับเชียรให้ยกบ้านหลังเก่าให้ได้ ไก่กุ๊กไปหว่านล้อมเชียร แต่เชียรยืนยันคำเดิมว่าที่ดินโอนให้เป็ดปุ๊กไปแล้ว ไก่กุ๊กไม่พอใจ ประกาศตัดพ่อตัดลูกกับเชียรทันที และคิดว่าถ้าเป็ดปุ๊กตาย ทุกอย่างก็จะเป็นของเขา
วันรุ่งขึ้น ศักดิ์ อลงกรณ์และโอมมาที่บ้านย่าขวัญเพื่อหว่านล้อมหญิงชราอีกครั้ง ไม้เข้ามาขัดขวางแผนการของทั้งสาม ทำให้ศักดิ์โกรธมากถึงกับออกปากว่าไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ด้านเชียรเองก็นอนไม่หลับ เพราะได้แต่ครุ่นคิดถึงเรื่องที่ไก่กุ๊กมาพูดเมื่อคืน จึงคิดจะไปปรับทุกข์กับย่าขวัญที่ประสบปัญหาคล้ายคลึงกัน เป็ดปุ๊กกับเชียรไปถึงบ้านย่าขวัญทันรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอดี ย่าขวัญเสียใจมากที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันที่บ้าน แต่ก็ได้เชียรคอยปรับทุกข์ด้วย
แก้วกรพินธุ์อยากกำจัดเป็ดปุ๊กไปซะ เพื่อที่เธอจะได้สมหวังกับไม้ เก็จเกยูรก็จะได้บ้านสมใจ ขณะที่อลงกรณ์อยากให้ย่าขวัญตาย เรื่องที่ดินจะได้หมดปัญหา แต่ทว่าโอมนั้นอยากให้ไม้ตาย เขาจะได้ครอบครองหมู่บ้านเสริมขวัญ และอลงกรณ์ก็ยังจะได้ที่ดินของย่าขวัญอีกด้วย ต่างคนต่างก็อยากให้มีการตายของใครบางคนเกิดขึ้นเพื่อเป็นการยุติปัญหา!!!
ไม้ต้องการปรับความเข้าใจกับเป็ดปุ๊ก จึงติดรถหญิงสาวไปที่ทำงานด้วย ไม้สารภาพว่ารักเป็ดปุ๊ก และยืนยันว่าไม่ได้คิดอะไรกับแก้วเลย ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ เมื่อถึงบริษัท พิมพาก็เรียกเป็ดปุ๊กเข้าไปต่อว่าเรื่องที่มาทำงานสาย แก้วรีบซ้ำเติม แต่เป็ดปุ๊กบอกว่าไปพบลูกค้าที่เป็นเพื่อนพิมพามา พิมพาแปลกใจ เพราะแก้วก็บอกว่าเพิ่งไปพบลูกค้าคนเดียวกันมา แก้วอึ้ง หาทางโกหกไม่ทัน พิมพาไม่พอใจแก้วมาก แก้วโมโหเป็ดปุ๊ก ต่อว่าเป็ดปุ๊กอย่างรุนแรง แต่หารู้ไม่ว่าไม้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว ไม้เข้ามาพาเป็ดปุ๊กไปกินข้าวโดยไม่สนใจแก้วเลย แก้วคั่งแค้น คิดหาทางกำจัดเป็ดปุ๊กให้ได้
อลงกรณ์ปรึกษากับศักดิ์เรื่องที่จะเอาที่ดินของย่าขวัญมาให้ได้ ทั้งคู่เห็นตรงกันว่าไม้เป็นคนที่ขวางทางอยู่ อาจต้องกำจัดไม้ออกไป หทัยมาได้ยินเข้า อลงกรณ์ตกใจ เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา ขณะที่โอมก็คิดจะกำจัดไม้ออกไปเช่นกัน และลงมือโทรหาใครบางคน ด้านแก้วกรพินธุ์ก็มาปรึกษากับเก็จเกยูรว่าจะกำจัดเป็ดปุ๊กออกไปเพื่อที่พวกเธอทั้งสองคนจะได้สมหวัง แต่ทั้งคู่ไม่รู้ว่า ไก่กุ๊กแอบได้ยินพวกเธอสองคนคุยกันหมดแล้ว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีทำให้ไก่กุ๊กโทรมาหาเชียรเพื่อฝากเตือนเป็ดปุ๊กให้ระวังตัว ไม้มาบอกเชียรว่าย่าขวัญชวนเชียรไปสวดมนต์ถือศีลที่วัด เชียรตกลงจะไป แต่ก็เป็นห่วงเป็ดปุ๊ก ไม้ให้สัญญาว่าจะดูแลเป็ดปุ๊กเอง เชียรจึงวางใจได้
ในคืนที่ย่าขวัญกับเชียรไม่อยู่บ้านนั้น แก้วกรพินธุ์ก็ย่องเข้าไปหาไม้ที่บ้านในสวนเพื่อหวังจะยั่วยวนไม้ ในเวลาเดียวกันหทัยก็กังวลกับคำพูดของอลงกรณ์ จึงคิดจะไปดูให้เห็นกับตาว่าไม้ปลอดภัยดีอยู่ ขณะที่แก้วยั่วยวนไม้อยู่นั้น ก็มีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายไม้ แก้วกรพินธุ์กรีดร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายวิ่งตามแก้วไป ขณะที่ไม้ก็วิ่งไล่คนร้ายมา คนร้ายเห็นท่าไม่ดี ตรงเข้าต่อสู้กับไม้ ไม้เพลี่ยงพล้ำ ถูกแทงเลือดอาบ หทัยเข้ามาช่วยไว้พอดี คนร้ายตามไปจัดการกับแก้ว ทันใดนั้นก็มีพวกยามจากหมู่บ้านก็บุกเข้ามาช่วยจนทุกคนปลอดภัย ไม้ไม่เข้าใจว่าคนร้ายต้องการสิ่งใดจากเขา เพราะเขาไม่ได้มีสมบัติพัสถานอะไร
เป็ดปุ๊กเป็นคนที่ได้ยินเสียงของแก้วและโทรเรียกพวกยามให้มาช่วย แก้วกลัวความแตก คิดหาทางเอาตัวรอดด้วยการโกหกว่าไม้หลอกพาเธอมาข่มขืน ไม้อึ้งไปที่แก้วโกหกได้หน้าด้านๆ หนำซ้ำคนร้ายยังเอาตัวรอดด้วยการโกหกว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย เลยบุกเข้ามา อลงกรณ์พยายามกันทุกคนออกไปจากเหตุการณ์โดยสรุปว่าไม้ก่อเรื่องขึ้นเอง แต่หทัยจะรอให้ตำรวจมาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อตำรวจมาถึงและต้องการให้แก้วตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐาน แก้วก็เริ่มร้อนตัวเพราะไม่คิดว่าเรื่องราวจะเลยเถิดไปถึงตำรวจแบบนี้ แก้วพยายามดิ้นรนโทรหากะรัตและเก็จเกยูรให้มาช่วยเป็นพยานให้เธอว่าไม้โทรหาเธอจริง แต่พอกะรัตกับเก็จเกยูรได้ยินว่ามีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องต่างก็ถอนตัวไม่อยากยุ่งด้วย ด้าน “ภูมิ” (สายชล ปารเนียส) คนร้ายที่บุกเข้าไปในบ้านไม้ถูกกดดันอย่างหนัก ก็สารภาพว่าเท่าที่เขาเห็นแก้วเป็นคนพยายามจะปล้ำไม้ และยังบอกชื่อคนที่จ้างวานเขามาฆ่าไม้อีกด้วย
ไก่กุ๊กมากราบขอโทษเชียรหลังจากที่สำนึกได้แล้ว ไก่กุ๊กตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ เชียรกับเป็ดปุ๊กดีใจที่ไก่กุ๊กคิดได้แล้ว
หลังจากถูกจับได้ว่าให้การเท็จ แก้วก็กลับบ้านมาด้วยอาการหัวใจสลายที่แม่ผู้ให้กำเนิดทอดทิ้งให้เธอเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง ทว่าเมื่อไปถึงที่ทำงาน เธอก็พบว่าตัวเองถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว ในที่สุดความทะเยอะทะยานของเธอก็ทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง เช่นเดียวกับหทัยและอลงกรณ์ที่เจ็บปวดไม่แพ้กัน เมื่อได้รู้ว่าผู้ที่จ้างวานให้ฆ่าไม้นั้นคือโอมนั่นเอง โอมคิดจะหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ทั้งคู่พยายามเกลี้ยกล่อมให้โอมยอมมอบตัว แม้แต่ย่าขวัญกับไม้ก็มาช่วยพูดด้วย ในที่สุดโอมก็แพ้ความดีของไม้ ยอมมอบตัวแต่โดยดี
เป็ดปุ๊กบอกให้ไม้ไปปรับความเข้าใจกับหทัย ไม้ไม่เพียงแต่คืนดีกับแม่ได้เท่านั้น แต่ยังเอาชนะใจของอลงกรณ์ได้อีกด้วย อลงกรณ์ปรับตัวเสียใหม่ให้ลดละความเกลียดชังโดยหวังว่าสักวันหนึ่งโอมจะออกจากคุกมาด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ คลี่คลายไปแล้ว ไม้ก็มาขอให้เป็ดปุ๊กช่วยดูแลเขาไปตลอดชีวิต หญิงสาวขอเพียงแต่รักเท่านั้น ไม้ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ แค่เป็ดปุ๊กรักเขาก็พอสำหรับเขาแล้ว …
…จบบริบรูณ์…
บันทึกภาพ: ประชาสัมพันธ์