บทประพันธ์ กรุง ญ ฉัตร
บทโทรทัศน์ คฑาหัสต์ บุษปะเกศ และ ภาคีสร้างสุข
กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ดำเนินการสร้างโดย จริยา แอนโฟเน บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
แม่ยายที่รัก
วันรบ (ชาคริต แย้มนาม) สถาปนิกป้ายแดง ของบริษัท พชรอาคิเทค รักอยู่กับมัทรี (รณิดา เตชสิทธิ์)สถาปนิกสาว เพื่อนร่วมคณะฯ จนวันรบมั่นใจว่า มัทรีคือแม่ของลูกเขาในอนาคต
มัทรีก็รักและชื่นชมในตัววันรบ แม้เธอจะเพียบพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่มีคุณสมบัติส่วนเกินหนึ่งอย่าง ที่เป็นอุปสรรคขวางทางรักของวันรบอย่างยิ่ง นั่นคือ มัทรีมีแม่ที่หวงลูกสาวที่สุด โหดที่สุด เค็มที่สุด
อย่างคุณนาย ติรกา (ลลิตา ศศิประภา) เจ้าของกิจการค้าโอ่งชื่อดังของจังหวัดราชบุรี จนวันรบต้องมอบฉายา “ไหน้ำปลาปิศาจ” ให้ว่าที่แม่ยายด้วยความเต็มใจ
คุณนายติรการักและหวงแหนมัทรียิ่งกว่าไข่ในหิน เมื่อวันรบเข้ามาพัวพันกับลูกสาวนางสิงห์ สงครามความรักชนิดนองเลือด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ระหว่างว่าที่แม่ยายอย่างติรกา และว่าที่ลูกเขยอย่างวันรบจึงเกิดขึ้น แต่วันรบก็ไม่ย่อท้อ เขาพยายามทำทุกอย่างตามคำเรียกร้องของติรกาเพราะความรักที่มีต่อมัทรี
ติรกาไม่ต้องการให้วันรบกับมัทรีคบกัน จึงหาเหตุต่าง ๆ นานาให้ทั้งคู่แยกกัน และดึงตัว
ธงฉาน (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) เศรษฐีจากราชบุรี ที่ชอบพอมัทรีเป็นทุนเดิม เข้ามาแทรกกลางระหว่างวันรบกับมัทรีอยู่เสมอ แต่ธงฉานก็ไม่สามารถทำลายกำแพงรักของทั้งสองได้
วันรบเอาเรื่องกลุ้มใจของศึกรักครั้งนี้ ไปปรึกษา รชานนท์ (สหรัถ สังคปรีชา) เพื่อนรุ่นพี่สมัยมหาวิทยาลัย กับ พชร (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) เจ้านายและมีศักดิ์เป็นพี่เขยของรชานนท์ ด้วยความคะนองของฤทธิ์แอลกอฮอล์ พชรและรชานนท์แนะนำให้วันรบรวบรัดมัทรีเป็นของตัวเอง เพื่อหักหน้าติรกา ให้ยอมยกลูกสาวโดยไม่มีข้อแม้ วันรบไม่เห็นด้วย แต่มัทรีกลับใช้แผนนี้แทน มัทรีวางยานอนหลับวันรบ เซ็ทแผนหลอกติรกาว่าได้เสียกับวันรบแล้วทั้งที่ความจริงไม่มีอะไรกันเลยแม้แต่ปลายเล็บ ติรกาโกรธและเจ็บแค้นที่วันรบทำลายพรหมจรรย์ของลูกสาวสุดที่รัก เพราะเคยมีอดีตขมขื่น ฝังใจ ที่เธอเคยมีความรักและพลาดพลั้งตั้งท้องกับผู้ชายคนหนึ่ง เมื่ออายุยังน้อย แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่รับผิดชอบและหนีไปเรียนต่อเมืองนอก ติรกาเสียใจและคิดทำร้ายตัวเอง แต่หมอพล ผู้ชายแสนดี เข้ามาช่วยเหลือ รับเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ
ตราบาปในอดีตกลับมาหลอกหลอนติรกา ทำให้ติรกาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้วันรบได้แต่งงานกับมัทรี จึงเรียกร้องเงินสินสอดสิบล้านเพื่อแลกกับการแต่งงาน ได้ไม่ครบสิบล้านไม่มีวันให้แต่ง!!! แต่ความจริงติรกาต้องการยื้อเวลาและหาทางแยกมัทรีกับวันรบออกจากกันเท่านั้น
วันรบกลับมาปรึกษารชานนท์ กับพชรอีกครั้ง ขณะทั้งสามกำลังกึ่มได้ที่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ วันรบระบายความสุดเขี้ยวของว่าที่แม่ยาย ที่แสนอัดอั้นให้รุ่นพี่ทั้งสองฟัง พชรยุให้รชานนท์ไปจีบติรกา เพราะรชานนท์ยังหนุ่มโสด และวัยใกล้เคียงกับว่าที่แม่ยายยังสาวของวันรบ เมื่อรชานนท์เป็นพ่อเลี้ยง จะได้ยกมัทรีให้วันรบง่าย ๆ รชานนท์รับปากด้วยความคะนองเพราะความเมาวันรบขอให้รชานนท์ไปเป็นเพื่อนเพื่อเจรจาต่อรองเรื่องสินสอด ทันทีที่รชานนท์และติรกาเจอหน้ากัน ก็เกิดความโกลาหล เมื่อติรกาคว้าปืนลูกซองออกมาไล่ยิงรชานนท์ จนรชานนท์กับวันรบแตกกระเจิง ต้องหนีกระสุนเพื่อรักษาชีวิตแทบไม่ทัน สร้างความงุนงงให้กับ มัทรีเป็นอย่างมาก ว่าอะไรทำให้ติรกาเลือดเดือดขึ้นหน้าขนาดนี้ รชานนท์เองก็ตกใจจนพูดไม่ออก ไม่ว่าวันรบจะถามถึงสาเหตุอะไร ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จากรชานนท์ จนวันรุ่งขึ้นรชานนท์ชวนวันรบกลับไปที่บ้านติรกาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ติรกาบันดาลโทสะ ยิงรชานนท์ จนวันรบต้องหามรชานนท์ส่งโรงพยาบาล เตือนใจ(ดวงตา ตุงคะมณี)แม่ของติรกา และ พุทรา(ปาจารีย์ ณ นคร) เลขาของติรกา ก็ตกใจไปตามๆกัน
นลินี (พิมลวรรณ หุ่นทองคำ)พี่สาวของรชานนท์จะแจ้งตำรวจจับติรกา แต่รชานนท์ปฏิเสธ มัทรีตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และพยายามซักไซ้ไล่เลี่ยงกับติรกาว่าทำไมถึงกับต้องยิงรชานนท์ ติรกาตอบเพียงแค่ว่า เธอเสียดายที่ยิงรชานนท์ไม่ตาย แล้วติรกาก็หนีหน้าทุกคนกลับราชบุรีทันที ท่ามกลางความงุนงงของวันรบ มัทรี พชร นลินี รชานนท์บอกความจริงกับทุกคนว่า เขาคือผู้ชายที่เคยรักกับติรกาเมื่อครั้งอดีต และเขาสังหรณ์ใจว่า มัทรีคือลูกสาวของเขา มัทรีตกใจ ไม่ยอมรับ เพราะเข้าใจว่าหมอพลคือพ่อของเธอมาตลอด มัทรีตามไปถามความจริงจากติรกา แรก ๆ ติรกาไม่ยอมบอกอะไร จนแม่ลูกมีปากเสียงกันรุนแรง ติรกาจึงหลุดปากเล่าความจริงทั้งหมด ว่ารชานนท์ คือคนที่ทำให้เธอท้องและทอดทิ้งเธอกับลูกไปเรียนต่อเมืองนอกอย่างไม่เหลียวแล มัทรีเจ็บปวดและเสียใจแทนแม่ เมื่อรู้ความจริงในอดีต ทำให้มัทรีไม่ยอมรับรชานนท์เป็นพ่อ รชานนท์บอกกับทุกคนว่าจะตามง้อขอคืนดีกับติรกา และจะทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อในตัวมัทรีกลับมา เมื่อวันรบรู้ความลับของติรกาจึงคิดว่าเหนือกว่า แต่ติรกาบอกว่าถ้าวันรบยังยุ่งเรื่องของเธอ เธอจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถ้าไม่จ่าย จะล้มเลิกงานแต่งงานทันที ซึ่งคราวนี้มัทรีเห็นด้วยกับแม่อย่างเต็มที่ สร้างความกลุ้มใจให้กับวันรบยิ่งนัก ที่จู่ ๆ คนรักพลิกกลับไปเข้าข้างว่าที่แม่ยายซะงั้นที่ราชบุรี ติรกามีสมภพ (โจโจ้ ไมอ๊อกซิ)นักธุรกิจหนุ่มใหญ่มาติดพัน สมภพเป็นคนเจ้าชู้ และมีรุจี(นฤมล พงษ์สุภาพ)เป็นภรรยาอยู่แล้ว แต่แสร้งตีหน้าเป็นคนดี หลอกให้ติรกาสงสารว่าครอบครัวมีปัญหาอยู่เสมอ สมภพมีศักดิ์เป็นอาของธงฉานวันรบ ไม่พอใจที่ธงฉานมาเกาะแกะเอาใจมัทรี ทำให้วันรบและธงฉานมีเรื่องกันทุกครั้งที่เจอ ธงฉานใช้ความกะล่อนเจ้าเล่ห์ หลอกให้ติรกาเข้าใจผิดวันรบอยู่บ่อย ๆ ทำให้ในสายตาติรกาเห็นว่า วันรบไม่คู่ควรกับมัทรีทั้งนิสัยใจคอและฐานะ ถ้าเทียบกับธงฉาน หนุ่มนิสัยดีและฐานะดี เพียบพร้อมคุณสมบัติทุกอย่าง
ติรกา แอบไปต่อรองกับรชานนท์ถึงบริษัท พชรอาคิเทค ให้เลิกความคิดเรียกร้องสิทธิ์ความเป็นพ่อกับมัทรี ขณะที่ติรกากับรชานนท์มีปากเสียงและโทษกันเรื่องความผิดของอีกฝ่ายที่ทอดทิ้ง รุจี(พรรณชนิดา ศรีสำราย) น้องเมียของสมภพก็เข้ามาเจอ รุจีชอบรชานนท์มานาน และแสดงความในใจให้รชานนท์รับรู้อยู่เสมอ เมื่อเจอติรกาอยู่กับรชานนท์ จึงเกิดอาการหึงหวง พร้อมแสดงความเป็นเจ้าของรชานนท์ ทำให้ติรกาและรุจีเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงติรกาผลุนผลันออกมาจากบริษัทด้วยความฉุนเฉียว จึงถูกรถยนต์เฉี่ยว หัวกระแทกพื้นอย่างแรง รชานนท์ตกใจมากรีบพาตัวติรกาส่งโรงพยาบาลทันที มัทรีตกใจเมื่อรู้เรื่อง โทษว่า รชานนท์เข้ามาทำให้ชีวิตแม่ของเธอต้องเจอกับเรื่องร้าย ๆ และยิ่งไม่ยอมรับรชานนท์ แถมพาลงอนและโกรธวันรบด้วย เมื่อติรกาฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการสูญเสียความทรงจำ ท่ามกลางความสับสนและจำอะไรไม่ได้ แต่กลับจำรชานนท์ได้ว่าเป็นคนที่เธอรักมาก รชานนท์จึงถือโอกาสใช้ช่วงเวลานี้ใกล้ชิดกับติรกา แต่ทำให้มัทรีไม่พอใจที่รชานนท์ใช้โอกาสนี้แต๊ะอั๋งลวนลามแม่ของเธอ
รชานนท์ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านติรกาตามความต้องการของติรกา ทำให้มัทรีคอยขวางไม่ให้แม่เสียเปรียบรชานนท์ ร้อนถึงวันรบต้องคอยเข้ามาช่วยแยกมัทรีออกจากติรกา มัทรีทะเลาะกับวันรบเพราะกลัวแม่จะเสียเปรียบ ถ้าติรกาถูกรชานนท์ล่วงเกินทางเพศ แต่ติรกากลับมองว่าเป็นเรื่องปรกติของคู่สามีภรรยา ยิ่งทำให้วันรบชอบใจมัทรีแอบรู้แผนที่รชานนท์จะวางยาติรกาเพื่อรวบรัด มัทรีจึงย้อนเอายานอนหลับของติรกาให้รชานนท์กินด้วย ทั้งคู่จึงหลับไปด้วยกันในที่สุด
กำนันเรือง(สุเทพ ประยูรพิทักษ์)และ วันทนีย์(ดารณีนุช โพธิปิติ) พ่อแม่ของวันรบมาเยี่ยมลูกชายจากต่างจังหวัด วันทนีย์ไม่ชอบมัทรี เพราะรู้ว่ามัทรีเป็นต้นเหตุให้ติรกาหาเรื่องแกล้งลูกชายตัวเอง วันทนีย์ ต้องการให้วันรบแต่งงานกับกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เด็กสาวขัดดอกที่วันทนีย์ถูกใจ กระถินคอยแสดงตัวกับมัทรีว่าเป็นคู่หมายของวันรบ ทำให้มัทรีไม่พอใจ และมีปากเสียงกับวันรบบ่อยครั้ง วันรบ ฉวยโอกาสที่ติรกาจำอะไรไม่ได้ แสร้งเล่นละครชีวิตรันทด เล่าเรื่องความลำบากอดมื้อกินมื้อ เพื่อเก็บออมเงินเอามาจ่ายค่าสินสอดให้ติรกา ติรกาภาคความจำเสื่อมสงสารและเห็นใจในความรักที่วันรบมีต่อมัทรี จึงยอมให้มีพิธีแต่งงานเกิดขึ้น ท่ามกลางความเสียใจของ ธงฉานกับกระถิน และความไม่พอใจของวันทนีย์แต่พิธีหมั้นก็เกิดขึ้นจนได้ แม้ว่าสมภพกับธงฉานจะแกล้งผีเข้า เพื่อล้มเลิกงานหมั้นแต่ก็ทำไม่สำเร็จ พิธีหมั้นผ่านไปด้วยดี แต่แล้วอยู่ดีๆ ความทรงจำของติรกาก็กลับคืนมาอีกครั้ง แต่เธออยากพิสูจน์ใจของรชานนท์ จึงไม่ได้แสดงออก มีเพียงเตือนใจ และ พุทราที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นความจริงใจของรชานนท์ ทำให้ติรกาใจอ่อน และเมื่อวันรบแกล้งวางแผนการอยากให้ ติรกากับรชานนท์เข้าใจกันจริงๆ โดยให้โจรจับตัวไป ท่ามกลางความวุ่นวาย รชานนท์สารภาพ
เรื่องราวทั้งหมดว่ายังรักติรกาเสมอมา ตอนไปเรียนต่อเมืองนอกก็ตั้งใจจะให้ติรกาตามไปแต่อยู่ดีๆ ก็ได้ข่าวว่าติรกาตั้งท้อง จึงเสียใจมาก ไม่เคยคิดมีใครใหม่เลย ที่สุดพ่อแม่ลูกก็เข้าใจกันเป็นครอบครัวที่มีความสุขแต่แล้ววันทนีย์โทรสายด่วนด้วยความดีใจมาบอกวันรบว่า ให้กลับมาจัดการเรื่องกระถินท้องกับวันรบ มัทรีตกใจและเสียใจมากขอล้มเลิกงานหมั้นกับวันรบ วันรบปฏิเสธว่าไม่ได้ทำแต่มัทรีไม่เชื่อ รชานนท์ขอให้มัทรีใจเย็น ๆ และให้วันรบกลับไปพิสูจน์ไม่ใช่พ่อของลูกในท้องกระถินวันรบ มัทรี รชานนท์ ติรกา เดินทางมาพิสูจน์ความจริงถึงบ้านวันทนีย์ที่สุพรรณ รวมทั้งมือที่สามอย่างธงฉานด้วย กระถินอ้ำอึ้งเมื่อถูกซักฟอกเรื่องเด็กในท้อง ทั้ง ๆ ที่วันทนีย์คอยถือหางให้บอกต่อหน้าทุกคนว่าวันรบคือพ่อเด็ก แต่เหตุการณ์กลับโอละพ่อวุ่นวาย เมื่อกระถินไม่ได้ท้อง วันรบพ้นข้อกล่าวหา
แต่สมภพและธงฉาน ยังไม่ยอมเลิกรา ร่วมมือกับรุจี และวริษรา(นิกกี้)ผู้หญิงสองคนที่หลงรักรชานนท์ และ วันรบ วางแผนแย่งชิง ใส่ร้ายป้ายสีให้สองหนุ่มตกหลุมพราง ทำให้ติรกาและมัทรีเข้าใจผิด เรื่องราวความรักของสองคู่ชู้ชื่น จะลงเอยอย่างไร ก็ต้องติดตามชมดู…
ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น.ทางช่อง 3 เริ่ม 13 มีนาคมนี้
บันทึกภาพ: ไทยทีวีสี ช่อง3