บทประพันธ์ : ดวงตะวัน
กำกับการแสดงโดย : สมพร เชื้อบุญอุ้ม
บทโทรทัศน์ : ปัณชญา
ผลิตโดย : บริษัท วีดิเตอร์ สตูดิโอ แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด
จัดทำโดย : คุณณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
“‘เข้าใจ’ ค่ะ คุณลุงใช้คำนี้ … เข้าใจให้ได้ว่า ในท่ามกลางความรัก ความงดงาม
ความเก่งกาจสามารถของมนุษย์ เราทุกคนมีซอกมุมอันดำมืดเลวร้ายนี้อยู่
ซอกมุมที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ความโกรธแค้นชิงชัง
ความอาฆาตพยาบาท
สิ่งสำคัญก็คือ เราจะอยู่กับมันอย่างไรต่างหาก
อยู่อย่างทำร้ายคนอื่นและทำร้ายตัวเองให้น้อยที่สุด”
ในคืนที่จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของ ธรา ธนากูล ภรรยาม่ายของ ชาตรี ธนากูล เจ้าของบริษัท ธนากูล วายุ ธนากูล ลูกเลี้ยงของธรา ตื่นขึ้นมาพบร่างของ ไกรกูณฑ์ ธนากูล น้องชายที่เป็นลูกชายแท้ๆ ของธรา นอนจมกองเลือดอยู่ข้างๆ ละเวง คู่รักของไกรกูณฑ์เข้ามาเห็นเข้าพอดี ละเวงกล่าวหาวายุว่าเป็นคนฆ่าไกรกูณฑ์เพราะอิจฉาไกรกูณฑ์ วายุตกใจมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะมีหลักฐานคือปืนในมือของวายุ วายุคิดจะไปสารภาพผิดกับธรา แต่ละเวงกลัวว่าธราจะรับไม่ได้จนล้มป่วย จึงแนะนำให้วายุหนีไปตั้งหลักก่อน
รถตู้ที่รับจ้างมาพาวายุหลบหนีซมซานมาถึงมาถึงบ้านไร่สายน้ำรีสอร์ตตอนกลางดึก สลิล หลานสาวของ นายแพทย์ภูผา กิจกุศล เจ้าของรีสอร์ตบ้านไร่สายน้ำ ออกมาต้อนรับวายุ สลิลเปิดบ้านพักให้ชายหนุ่มเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว อีกทั้งไฟก็ยังดับทั้งตำบล เกรงว่าชายหนุ่มจะหาที่พักที่อื่นได้ลำบาก วายุมาถึง
รีสอร์ทโดยไม่มีสัมภาระติดตัวมาด้วยแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงรอยแผลที่พาดยาวจากขมับขวาถึงโคนผมกลางหน้าผากเท่านั้น สลิลแปลกใจที่ท่าทางวายุไม่เหมือนคนที่จะมาท่องเที่ยวหรือพักผ่อนเลย แต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงความทุกข์และปวดร้าวที่แผ่ออกมาจากตัวของเขาได้อย่างประหลาด
ขณะพักอยู่ที่รีสอร์ท วายุล้มป่วยอย่างหนัก ลุงขาบ คนงานในรีสอร์ทไปพบเข้า จึงรีบตามตัวสลิลไปรักษาจนวายุหายดี เมื่อฟื้นขึ้นมา วายุกลับมีท่าทางปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้าง สลิลรู้สึกสงสารและเห็นใจวายุที่ประสบปัญหาในชีวิตมาอย่างหนัก จึงคิดจะหาทางช่วยเหลือวายุให้พ้นจากความทุกข์ที่กำลังเผชิญอยู่ แต่ ทแกล้ว เพื่อนชายคนสนิทของสลิล เจ้าของไร่ชาขวัญแก้ว เตือนสลิลไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวายุ แต่สลิลกลับไม่เชื่อฟัง ทแกล้วนั้นแอบรักสลิลอยู่ สลิลเองก็รู้ว่าทแกล้วคิดอย่างไรกับเธอ แต่เธอเห็นทแกล้วเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น
นวลขวัญ พี่สาวของทแกล้วเล่าให้ลูกหว้าฟังว่าที่ไร่วายุกูลข้างๆ กันนั้นกำลังจะขายไปทำโรงแรมและบ่อนกาสิโน อีกทั้งเจ้าของไร่นั้นยังโทรศัพท์มาเจรจาให้ขวัญขายไร่ด้วย สลิลกับทแกล้งรู้สึกเสียดายเพราะว่าที่ไร่วายุกูลนั้นยังมีสภาพเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก สลิลขอร้องนวลขวัญไม่ให้ขายไร่ชานวลขวัญเองก็ตั้งใจไว้เช่นนั้น
หลังจากกลับมาถึงบ้านไร่สายน้ำรีสอร์ท หมอภูผาก็เล่าให้สลิลฟังเรื่องคนไข้ที่กรุงเทพฯ ที่เขาเพิ่งลงไปรักษา คนไข้รายนั้นก็คือธรานั่นเอง ในอดีตธราเคยเป็นคนรักเก่าของหมอภู แต่ในที่สุดธราก็จากไปแต่งงานกับชาตรีซึ่งมีฐานะเหมาะสมกว่า ทว่าชาตรีนั้นมีภรรยาคือ “ดวงดาว” และวายุ ลูกชายอยู่ก่อนแล้ว แต่ธรานั้นเข้าไปในฐานะเมียแต่งซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนกิจการของบริษัท ธรากับชาตรีมีลูกชายอีกคนคือ ไกรกูณฑ์ ภรรยาทั้งสองคนของชาตรีต่างคนต่างอยู่ ไม่ข้องเกี่ยวกัน จึงไม่เคยมีปัญหาในครอบครัว จนกระทั่งดวงดาวเสียชีวิตไป ชาตรีจึงพาวายุขึ้นไปอยู่บนตึกใหญ่ และธราก็ดูจะยินดีเลี้ยงดูวายุเหมือนลูกแท้ๆ อีกคน
ธราล้มป่วยด้วยความเป็นห่วงที่วายุและไกรกูณฑ์หายตัวไปทั้งคู่ ธราเล่าให้หมอภูผาฟังว่าในคืนที่เกิดเหตุ ละเวงได้ยินสองพี่น้องทะเลาะกันอย่างรุนแรงก่อนจะหายตัวไปทั้งคู่ ธราไม่ห่วงไกรกูณฑ์นัก เพราะมักจะหายตัวไปบ่อยๆ แต่เธอเป็นห่วงวายุที่หายตัวไป ติดต่อก็ไม่ได้ เธอไม่กล้าแจ้งความเพราะวายุเป็นนักธุรกิจใหญ่ เกรงว่าจะมีผลกระทบกับความน่าเชื่อถือของบริษัท ธรานึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงเพราะอารมณ์อันรุนแรงของวายุ หมอภูได้แต่ปลอบโยนธราให้หายกังวล
ระหว่างที่ทแกล้วไปซ่อมแซมบ้านในตัวเมืองเชียงใหม่ นวลขวัญก็ได้ต้อนรับชายที่อ้างตัวเป็น “วายุ ธนากูล” เจ้าของไร่วายุกูล วายุตัวปลอมมาเยี่ยมเยียนไร่ขวัญแก้วเป็นประจำทุกวัน นวลขวัญประทับใจในความสุภาพและหลงเชื่อคำหวานที่ชายคนนั้นหว่านเสน่ห์ใส่เธอ จนความคิดที่จะไม่ขายไร่ชาเริ่มจะสั่นคลอน เมื่อทแกล้วได้รู้ความสัมพันธ์ของนวลขวัญกับชายที่อ้างตัวว่าเป็นวายุ ก็ไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะกลัวว่าวายุจะมาหลอกนวลขวัญเพื่อหวังจะฮุบไร่ขวัญแก้ว ขณะเดียวกันที่บ้านไร่สายน้ำรีสอร์ท วายุค่อยๆ ค้นพบด้านมืดของตัวเองและเริ่มเชื่อว่าตนเองฆ่าไกรกูณฑ์จริง สลิลรู้สึกสงสารวายุ จึงพยายามช่วยเหลือให้วายุค่อยๆ ออกมาเผชิญกับโลกภายนอก ไม่ต้องจ่อมจมอยู่กับความทุกข์เพียงลำพัง วายุค่อยๆ ซึมซับความหวังดีของสลิลไว้ ความสงสารและเห็นใจที่สลิลมีให้วายุ จึงกลายเป็นบ่อเกิดของความรักในที่สุด
วายุตัดสินใจจะสารภาพความจริงให้ธรารู้ว่าเขาฆ่าไกรกูณฑ์ตาย จึงโทรศัพท์กลับไปที่บ้านธนากูล ละเวงเป็นคนรับสาย ละเวงพยายามห้ามวายุสารภาพความจริงกับธรา และหลอกถามว่าวายุอยู่ที่ไหน ละเวงรีบโทรศัพท์บอก อุศเรน น้องชายให้ไปตามหาตัวใครบางคนที่เชียงใหม่ให้ ขณะที่หมอภูผาได้ข่าวจากสลิลว่าวายุมาปรากฏตัวที่วายุกูล จึงรีบโทรศัพท์ไปบอกกับธราเพื่อให้หายกังวล
นวลขวัญชวนวายุตัวปลอมไปร่วมงานสังสรรค์ที่บ้านไร่สายน้ำรีสอร์ท พอนวลขวัญจะแนะนำให้วายุตัวปลอมรู้จักกับหมอภูผา ชายหนุ่มก็รีบปลีกตัวหนีไปจนทแกล้วสังเกตเห็นความผิดปกติ ด้านวายุตัวจริงได้ยินข่าวว่ามีคนแอบอ้างชื่อตนเพื่อขายไร่วายุกูล ชายหนุ่มอยากรู้ว่าใครที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ จึงพาสลิลขี่ม้าไปยังวายุกูลเพื่อพิสูจน์ แต่ก็ยังไม่พบเป้าหมาย ขณะที่วายุตัวปลอมก็ได้ยินจากนวลขวัญว่าแขกที่มาพักที่บ้านไร่สายน้ำรีสอร์ทชื่อคุณใหญ่ ก็มีทีท่าแข็งกร้าวขึ้นมาจนนวลขวัญนึกแปลกใจ
ในงานสังสรรค์ครั้งต่อมา สลิลพยายามชักชวนให้วายุออกมาร่วมงานด้วยจนวายุใจอ่อน ทว่าเมื่อเดินมาถึงแค่บริเวณรอบนอกของงาน ชายหนุ่มก็เห็นร่างของไกรกูณฑ์ปะปนอยู่ในกลุ่มคนในงานด้วย วายุรีบกลับไปที่บ้านพักด้วยความหวาดกลัว ขณะที่ทแกล้วรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของวายุกับสลิลด้วยความเสียใจอย่างมาก
วายุเสียศูนย์จากการเห็นไกรกูณฑ์ปรากฏตัวในงานเลี้ยงสังสรรค์ จึงลืมตัวอาละวาดใส่สลิลไป เมื่อตั้งสติได้ ชายหนุ่มจึงรีบไปขอโทษสลิลทันที สลิลอ้อนวอนให้วายุเล่าถึงปัญหาที่ทำให้เขาร่อนเร่มาถึงที่นี่ให้เธอฟัง เผื่อว่าเธอจะช่วยแก้ปัญหาได้ วายุตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนวันงานเลี้ยงวันเกิดของธราให้สลิลฟัง สลิลตกใจที่ได้รู้เรื่อง แต่ก็เชื่อมั่นว่าวายุไม่ได้เป็นคนฆาตกร หญิงสาวพยายามชี้ให้เห็นช่องโหว่ของเรื่องที่เกิดขึ้นว่าทำไมวายุถึงจำเหตุการณ์ตอนที่ยิงไกรกูณฑ์ไม่ได้ แต่วายุก็ยังเชื่อว่าเขาเป็นคนฆ่า ไกรกูณฑ์อยู่ดี วายุตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาธราและสารภาพเรื่องราวทั้งหมด แต่ธราไม่เชื่อ คิดว่าวายุล้อเล่น วายุจึงจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยตัวเอง
อุศเรนมาตามหาวายุที่บ้านไร่สายน้ำรีสอร์ทตามคำสั่งของละเวง ขณะที่ชายผู้อ้างตัวเป็นวายุ ก็มาเปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งนี้เช่นกัน ทั้งอุศเรนและวายุตัวปลอมต่างก็สะกดรอยตามวายุตัวจริงไปเพื่อหวังจะ ”เก็บ” วายุตัวจริง แต่ทั้งคู่กลับขวางทางและทะเลาะกันเอง วายุตัวปลอมชักปืนออกมาขู่อุศเรนจนอุศเรนต้องยอมถอยไป อุศเรนโทรไปต่อว่าละเวงด้วยความโมโหจัด จึงหลุดปากบอกไปว่าคนรักของละเวงมีผู้หญิงคนใหม่ ละเวงได้ยินเข้าก็โมโหหึง รีบเดินทางขึ้นมาหาอุศเรนที่เชียงใหม่ทันที
สลิลกังวลว่าวายุจะมาซื้อบ้านไร่สายน้ำรีสอร์ทด้วย จึงโทรไปปรึกษานวลขวัญ นวลขวัญชวนให้สลิลมาถามกับวายุด้วยตัวเอง และบอกให้สลิลพาคุณใหญ่มาที่ไร่ขวัญแก้วด้วย วายุตกลงไปเพราะอยากรู้ว่าใครที่ปลอมตัวมาเป็นตัวเขา เมื่อวายุตัวปลอมปรากฏตัวขึ้น วายุก็แปลกใจมากเพราะวายุปลอมนั้นก็คือไกรกูณฑ์นั่นเอง ไกรกูณฑ์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คาดคิดว่าจะได้พบวายุที่นี่ นวลขวัญเสียใจมากที่ไกรกูณฑ์หลอกลวงเธอ จึงออกปากไล่เขากลับไป วายุพาไกรกูณฑ์กลับไปที่วายุกูลเพื่อเค้นถามความจริงจากปากไกรกูณฑ์ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นกันแน่ ไกรกูณฑ์โกหกว่าละเวงกับอุศเรนเป็นคนวางแผนทั้งหมด แต่ละเวงกับอุศเรนกลับปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันและได้ยินที่ไกรกูณฑ์พูดทั้งหมด ละเวงผิดหวังมากที่ไกรกูณฑ์ป้ายความผิดให้เธอกับน้อง ทั้งๆ ที่ทั้งหมดที่เธอทำไปก็เพราะรักไกรกูณฑ์ ไกรกูณฑ์เยาะเย้ยละเวง และเปิดเผยความจริงว่าเขาก็แค่หลอกใช้ละเวงเท่านั้นละเวงเสียใจจนแทบกระอักและต่อว่าไกรกูณฑ์ด้วยความแค้น
ธราปรากฏตัวขึ้นและต่อว่าไกรกูณฑ์ที่ไม่เคยเชื่อฟัง ไม่ยอมทำตามแผนการที่วางไว้ว่าจะโยนความผิดทั้งหมดให้ละเวงกับอุศเรน สองพี่น้องตกใจที่รู้ว่าธราจะป้ายความผิดให้พวกตน ธราจัดการยิงละเวงกับอุศเรนทิ้ง วายุสับสนกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ธราจึงเฉลยว่าเธอเป็นคนคิดแผนการนี้ขึ้นเพราะความริษยาที่วายุเป็นลูกของดวงดาว ผู้หญิงที่ชาตรีรักมากที่สุด และวายุก็ได้ครอบครองทุกอย่างของชาตรี ขณะที่
ไกรกูณฑ์แทบไม่เหลืออะไรเลย ไกรกูณฑ์ขอลงมือจัดการกับวายุด้วยตัวเองแต่ธราไม่ยอม ซ้ำยังดูถูกไกรกูณฑ์ว่าทำอะไรไม่เคยสำเร็จ เป็นคนอ่อนแอ ไร้ค่าเหมือนพ่อ ไกรกูณฑ์ไม่พอใจที่ธราไม่เชื่อมั่นในตัวเขา สองแม่ลูกทะเลาะกันอย่างแรง ไกรกูณฑ์คุ้มคลั่ง วิ่งสะเปะสะปะออกไปในป่ายามดึก ธรากับวายุตามออกไปถึงแอ่งน้ำในป่า วายุพยายามเกลี้ยกล่อมไกรกูณฑ์ให้หายคลั่ง แต่ไกรกูณฑ์กลับยิงวายุเข้าที่สีข้างจนสลบไป ธราเสียใจที่เพิ่งรู้ตัวว่าได้ทำร้ายลูกชายคนเดียวด้วยการปลูกฝังความคิดผิดๆ เข้าไปในหัวไกรกูณฑ์มาตลอด ธราจึงไถ่โทษด้วยการยิงไกรกูณฑ์และตัวเองตายไปพร้อมกัน สลิลกับทแกล้วได้ยินเสียงปืน ก็รีบบึ่งมาจากไร่และพบวายุกำลังอาการหนัก จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลทันที
หลังจากฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่า วายุก็จัดการเรื่องทั้งหมดอย่างรอบคอบ โดยให้ออกข่าวว่ามีทายาทธนากูลถูกลอบสังหาร มีแต่วายุรอดชีวิตมาได้เพียงคนเดียว วายุกลับไปจัดการเรื่องบริษัทที่กรุงเทพฯ ให้เรียบร้อย ขณะที่สลิลรอคอยชายหนุ่มด้วยความอดทน ทแกล้วมาบอกลาสลิลเพราะชายหนุ่มสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่อังกฤษได้ สลิลดีใจกับทแกล้วด้วย ขณะที่นวลขวัญก็พยายามทำใจเรื่องไกรกูณฑ์และดูแลไร่ชาต่อไป … ในที่สุด วายุก็กลับมาหาสลิล ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าเขาจะดีพอสำหรับสลิลหรือไม่ แต่สลิลก็พร้อมที่จะเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น
บันทึกภาพ: ประชาสัมพันธ์