๕ คณะสุดท้าย กับ โปรเจ็คยักษ์ใหญ่ “กิจกรรมพัฒนาดนตรีและการแสดงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  “รายการคนไทยขั้นเทพ” หลังเฟ้นหาสุดยอดศิลปะการแสดงขั้นเทพ ที่สามารถนำเสนอความเป็นไทยทั้งประเทศ เพื่อชิงถ้วยรางวัลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  พร้อมรางวัลเงินสด ๑ ล้านบาท  กับตำแหน่ง”คนไทยขั้นเทพ”

เดินทางมายาวนานกว่า ๑๐ สัปดาห์ในการสรรหาสุดยอดศิลปะการแสดง ที่สามารถนำเสนอความเป็นไทยจากหลายคณะทั่วประเทศ จนเหลือเพียง ๕ คณะที่จะต้องงัดเอาศิลปะการแสดงมาชิงชัยกันต่อ  กับโจทย์  “เล่าเรื่องประเทศไทยให้ครบทั้งประเทศ” ในรอบชิงชนะเลิศที่เรียกว่า “รอบคนไทยขั้นเทพ” เรียกได้ว่าอย่ากระพริบตาเลยทีเดียว เพราะแต่ละคณะก็เตรียมไม้เด็ดเพื่อมาชิง  ตำแหน่ง ”คนไทยขั้นเทพ”  พร้อมถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และรางวัลเงินสด ๑ ล้านบาท

โดย “คณะเพชรจรัสแสง” จากภาคกลาง ที่สุดของกลุ่มผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่  แห่งการประยุกต์ศิลปการแสดงไทยภาคกลาง นำเอาเอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย มาบอกให้คนไทยทั้งประเทศเห็นถึงความเป็นชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตามมาด้วย “คณะเอกทันต์” จากภาคกลาง ที่สุดของศิลปะกลองยาว ผู้สร้างสีสันความสนุกสนานครื้นเครงแห่งภาคกลาง  นำเสนอความมหัศจรรย์แห่งความบันเทิงในเรื่อง ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ วรรณคดีไทย ความรักสามัคคี การท่องเที่ยว และมหรสพอันครึกครื้น ของทั้ง ๔ ภาคมาให้คนไทยได้รู้จัก ต่อด้วย”คณะเทพศรัทธา” จากภาคใต้ ที่สุดของผู้รักษาศิลปะโนราโบราณขนานแท้  ก็ได้เอาโนรามานำเสนอความเป็นสยามประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านเรื่องราวของศาสนา ความเชื่อ การละเล่น และการแสดงของทั้ง ๔ ภาค   ส่วน ”คณะร่มแดนช้าง” จากภาคเหนือ ที่สุดของกลุ่มผู้สร้างลีลาการฟ้อน ได้อย่างงดงาม อ่อนช้อย ที่หยิบเอาวิถีชีวิตของคนไทยทั้ง ๔ ภาค มาผูกกับสายน้ำ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของอารยธรรม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมและความเชื่อมานำเสนอ  และม้ามืดที่ได้ผ่านเข้ารอบเป็นคณะสุดท้าย ได้แก่ “คณะผกาลำดวน” จากภาคอีสาน ซึ่งเป็นที่สุดของผู้สร้างเรื่องราวความสนุกสนาน ผ่านวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน ครั้งนี้พวกเขาได้รวมเอาเอกลักษณ์อันโดดเด่น ที่มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยทั้ง ๔ ภาค  มาเสนอด้วยจังหวะทั้งช้า เร็ว สนุก และตื่นเต้น

และเพื่อที่จะการันตีความเป็นสุดยอดคนไทยขั้นเทพ นอกจากนักปั้นขั้นเทพทั้ง ๘ ท่านแล้ว ทางรายการยังได้เพิ่มคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ในแต่ละภาค ภาคละ ๑ ท่าน ประกอบไปด้วย ครูแอ๊ด ภานุทัต อภิชนาธง ศิลปินล้านนา จาก ภาคเหนือ  ผศ.ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญการแสดงโนราและอาจารย์ประจำสาขาศิลปะการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา จาก ภาคใต้ พ่ออี๊ด สุประวัติ ปัทมสูต นักแสดงอาวุโส และศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง จาก ภาคกลาง และ ครูสลา คุณวุฒิ นักประพันธ์เพลงแนวลูกทุ่งอีสาน จากภาคอีสาน

ซึ่ง ดู๋ สัญญา  คุณากร พิธีกรรายการ  ซึ่งเป็นการทำหน้าที่พิธีกรรายการประเภทเรียลลิตี้ เป็นครั้งแรกในชีวิต  ได้กล่าวถึงรายการคนไทยขั้นเทพ ว่า “รูปแบบของรายการคนไทยขั้นเทพ เป็นรายการที่ดีมากครับ  ในท่ามกลางกระแสวัฒนธรรมชาติอื่นที่เขาจู่โจมเราอย่างรุนแรง หักโหม   ในขณะที่ชาติเรา ศิลปินพื้นบ้านอยู่ตามอรรถภาพ  ดิ้นรนทำเท่าที่ตัวเองทำได้   ทั้งที่ศิลปพื้นบ้านของเรามีความงดงามซ่อนอยู่มากมาย  มีความยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่หลายแห่ง บางทีเราเกิดเป็นคนไทย เราก็ไม่เคยเห็นงานศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ถ้าคิดว่าไม่เคยเห็น แล้วก็ไม่คิดที่จะเห็น แล้วก็ไม่เห็นเลยก็ไม่มีอะไร  แต่ถ้ารู้ว่ามันมีอยู่แล้วไม่ได้เห็นเนี่ยมันน่าเสียดาย และมากไปกว่านั้นก็คือ การต่อยอดให้มีการดำรงอยู่อย่างยั่งยืน อยู่อย่างมีสง่า อยู่อย่างเจริญรุ่งเรือง อยู่อย่างมีความสุข และลูกหลานก็ภูมิใจแล้วก็นำไปต่อยอดได้  และในวันเสาร์นี้ก็เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วครับ เพราะเป็นรอบชิงชนะเลิศ  ผมอยากให้คนไทยทุกคนได้ร่วมกันลุ้น ช่วยกันเชียร์ และภาคภูมิใจไปกับศิลปวัฒธรรมไทยที่สามารถก้าวไกลไปสู่ความเป็นอินเตอร์ฯ ในรายการคนไทยขั้นเทพ รอบชิงชนะเลิศ  ที่เรียกว่า รอบคนไทยขั้นเทพ  เสาร์ ที่ ๑ กุมภาพันธ์ นี้นะครับ”

ร่วมกันลุ้น ช่วยกันเชียร์ ว่าท้ายที่สุดแล้วศิลปะการแสดงของภาคใด จะสามารถเสนอความเป็นไทยได้ครบถ้วนทั้งประเทศ และคณะการแสดงในที่จะเป็นผู้พิชิต ตำแหน่ง”คนไทยขั้นเทพ”  พร้อมทั้งรางวัลถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และรางวัลเงินสด ๑ ล้านบาท   ติดตามได้ ในรายการเรียลลิตี้ “คนไทยขั้นเทพ” สัปดาห์สุดท้าย รอบชิงชนะเลิศ  รอบ”คนไทยขั้นเทพ”   ในวันเสาร์ ที่ ๑ กุมภาพันธ์  ศกนี้  เวลา ๒๑.๓๐-๒๓.๓๐ น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง ๙)  และสามารถติดตามข่าวสารรายการฯผ่าน www.facebook.com/konthaikunthep