ยืนยันว่าเป็นภาพยนตร์รักที่เน้นอารมณ์ และความรู้สึกทางด้านการแสดงจากนักแสดงระดับฝีมือในทุกๆ ฉากทุกๆ ซีนที่เกิดขึ้นกับทุกตัวละครใน “Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” และทันทีที่ภาพยนตร์ตัวอย่างฉบับเต็มที่บอกเล่าเรื่องราวถูกปล่อยออกมาไม่เพียงสะกดอารมณ์ความรู้สึกสำหรับทุกคนที่ได้ชมแต่ถึงขั้นเรียกน้ำตาจากหลายๆ คนกันเลยทีเดียวโดยเฉพาะไฮไลท์ช่วงท้ายของภาพยนตร์ตัวอย่างที่เราจะได้เห็นการหลั่งน้ำตาชนิดที่ว่ากั้นยังไงก็ไม่อยู่แถมเจิ่งนองกันชนิด 2 แก้มของทั้ง ป๊อก ปิยธิดา วรมุสิก ,เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ และ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข กันแบบเต็มๆ จอ ถึงแม้ว่าผู้กำกับ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร จะยืนยันว่านี่เป็นแค่บางส่วนจากอีกหลายๆ ฉากของความเอ่อล้นของหยาดน้ำตาแห่งความสุขที่จะมาพร้อมรอยยิ้มและความรู้สึกอิ่มเอมหัวใจที่เขา นักแสดงและทีมงานทั้งหมดของภาพยนตร์ตั้งอกตั้งใจตลอดเวลากว่า2ปีนับตั้งแต่เริ่มต้นเขียนบทภาพยนตร์กันเลยทีเดียว

“จริงๆ ตัวละครทุกตัวกว่าจะได้มาต้องบอกว่าเราตัดสินใจกันยากมากทีเดียวในเบื้องต้นว่ามันจะเหมาะสมกับใครแต่เรารู้อย่างหนึ่งว่า นอกจากตัวบทตัวเรื่องแล้วตัวละครทุกตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้ล้วนสำคัญแล้วก็ไม่ใช่แค่มาพูดไดอาล็อคแต่ต้องส่งผ่านความรู้สึกหลายๆ ความรู้สึกที่บางครั้งไม่มีคำพูดด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแล้วทุกคนที่จะมาถ่ายทอดแต่ละตัวละครในภาพยนตร์จะต้องเป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะบทของมัทโดยป๊อกซึ่งมันยากมากคือจริงๆแล้วเหมือนกับเขาเล่นอยู่คนเดียว ความสามารถในการแสดงของเขาเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนอยู่แล้วป๊อกถ่ายทอดเอาความรู้สึกทั้งหมดเหล่านี้ออกมาได้ละเอียดและกลมกล่อมที่สุดโดยไม่รู้สึกว่าเราไปบีบคั้นตัวละครตัวนี้มากเกินไปหรือไปบีบคั้นคนดูมากเกินไปความรู้สึกในการแสดงที่มันมีความพอดีแบบนี้ป๊อกทำได้ดีมาก ป๊อกปิยธิดาได้ให้สิ่งที่ผมเซอร์ไพรซ์เกินความคาดหวังที่ผมคิดเอาไว้เยอะ ตลอดเวลาที่เราถ่ายหนังไปร้องไห้ไป นักแสดงที่อินกับบทอย่างป๊อกทำให้เราสะอึกสะอื้นอยู่ตลอดเวลา ขณะที่บทของเจมส์ถึงเขาจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่แต่ช่วยไม่ได้ที่บทๆ นี้ของเจมส์มันสำคัญมากๆ แล้วเราเองต้องการการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกทางการแสดงอย่างสูงมากของเจมส์ และเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังในขณะที่หนังกำลังถ่ายอยู่เจมส์เขาก็เล่นไปผมเกือบจะสั่งคัทเพราะนึกว่าเขาเป็นอะไรเกิดอะไรขึ้นกับเขานึกว่าเขาหลุดจากการแสดงไปแล้วแต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่นั่นมันไม่ใช่การแสดงนั่นมันคือของจริงที่เขาพรั่งพรูมันออกมามันคือการเสียใจที่ผมรู้สึกได้ว่าเหมือนตัวเขาเองจริงๆเขารับรู้อะไรบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนแล้วเขาเสียใจอย่างรุนแรงออกมาซึ่งผมนึกว่าเขาเป็นอะไรกับเรื่องอื่นทำให้เราได้เห็นว่าถ้าเขาเปิดใจเต็มที่กับอะไรบางอย่างเขาสามารถสร้างเซอร์ไพร์สร้างสิ่งที่เรานึกไม่ถึงออกมาได้อยู่ตลอดเวลา”

ฟังแค่นี่ก็กระตุ้นต่อมความอยากดูมากยิ่งขึ้นไปอีกกับ“Timeline จดหมาย-ความทรงจำ” หนังรักที่ว่ากันว่ามีคนรอชมมากที่สุดและเป็นการหวนกลับมากำกับหนังรักอีกครั้งแบบท็อปฟอร์มของ ผกก.อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร หลังจากที่เคยทำให้ “นางนาก” ติดตาตรึงใจคนไทยทั้งประเทศมาแล้ว วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์