ในวัยเพียง 16 ปี Grace Riya (เกรซ ริยา) เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่รักการร้องเพลงที่เดินเข้ามาสมัครร้องเพลงในรอบออดิชั่นของรายการเรียลิตี้สุดฮิตอย่าง Thailand’s Got Talent ในวันนั้นสาวน้อยร่างเล็กเจ้าของน้ำเสียงไม่ธรรมดาผู้นี้อาจจะไปได้ไกลถึงแค่รอบรองชนะเลิศของรายการ แต่วันนี้ เกรซ ริยา ในวัย 18 ปี ไปได้ไกลกว่าที่เธอคาดหวังเอาไว้มากทีเดียว
เกรซ ริยา เกิดในประเทศไทย ก่อนจะย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ จนกระทั่ง 8 ขวบเธอก็กลับมาเมืองไทยและเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนานาชาติ ISB แต่อย่างหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือความรักในการร้องเพลง ถึงขนาดที่เจ้าตัวเคยฝันเอาไว้ว่า อยากจะได้ร้องเพลงต่อหน้าคนเป็นล้าน แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้เซ็นสัญญาและกลายมาเป็นหนึ่งในศิลปินของค่ายเพลงที่ผลิตศิลปินคุณภาพออกมามากมายอย่าง BEC-Tero Music ที่เล็งเห็นถึงความสามารถและศักยภาพอันเต็มเปี่ยมของเธอ
“มันเหมือนความฝันอันนั้นมันใกล้ขึ้นมาอีกนิดหนึ่งแล้ว เกรซไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะทำตามความฝันของตัวเองได้เร็วขนาดนี้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อเลยค่ะ” เธอพูดถึงโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่เข้ามาในชีวิตของเธอรวดเร็วเกินความคาดหมาย เกรซ ริยา พูดถึงต้นสังกัด BEC-Tero Music ของเธอว่าเป็นเพราะที่นี่เน้นผลิตงานเพลงมีคุณภาพ แล้วยังใส่ใจในตัวศิลปินเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนที่แท้จริงของศิลปิน ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด “ทาง BEC-Tero Music สนใจในตัวตนของเกรซจริงๆ และเกรซเองก็สนใจค่ายนี้มากเช่นกัน เมื่อความสนใจของเราตรงกัน ก็อย่างที่เห็นค่ะ ตอนนี้เกรซได้เป็นศิลปินของ BEC-Tero Music แล้ว! มันเป็นความรู้สึกที่เหลือเชื่อมาก และเกรซก็ดีใจมากๆ ค่ะ”
เกรซ ริยา มีซิงเกิ้ลแรกเป็นเพลงรักแนวสดใสที่มีชื่อว่า “รักอมตะ” แม้ชื่อของมันจะฟังดูขึงขังและจริงจังอยู่สักหน่อย แต่เจ้าตัวอธิบายพร้อมรอยยิ้มสดใสว่า “แม้จะหมายถึงรักที่ไม่มีวันตาย แต่คอนเซ็ปต์จริงๆ ของมัน กลับพูดถึงความรักแบบวัยรุ่นที่สดใหม่และสดใสมากกว่า!” เธอเผย “ตัวเกรซเองยังเป็นวัยรุ่นนี่คะ และแน่นอนว่าวัยรุ่นมักจะมีความสงสัยแล้วก็เชื่อในเรื่องของความรักว่าเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว เพราะมันถือว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นที่สุดเลยล่ะ”
เกรซ ริยา พูดถึงเพลงแรกในชีวิตของเธอว่า แม้มันจะถูกเขียนออกมาในสไตล์ที่เรียบง่ายก็จริงแต่ก็เต็มไปด้วยความหมายดีๆ และโดนใจอย่างยิ่ง เพลง “รักอมตะ” มีกลิ่นของทั้งป๊อป (Pop) และฟังก์ (Funk) อยู่ในภาคดนตรี ดังนั้นมันอาจจะเป็นเพลงสบายๆ ที่ฟังง่าย ฟังสนุกก็จริง แต่ก็มีความหวานซึ้งผสมผสานอยู่ เธอย้ำว่า “รักอมตะ” เป็นเพลงที่ฟังแล้วติดหูและน่าจะถูกใจคนฟังไม่น้อยทีเดียว
สำหรับมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ เกรซ ริยา เล่าอย่างออกรสถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “คือในเรื่องเนี่ย เกรซกำลังจัดงานปาร์ตี้ขึ้นที่บ้านค่ะ เพื่อนๆ ของเกรซทุกคนก็มาร่วมงาน…รวมถึงคนที่เกรซชอบมากๆ ด้วย! จริงๆก็เป็นแฟนของเกรซนี่แหละค่ะ แล้วเกรซก็มีความสุขมากที่มีเขาอยู่ด้วย” ใน MV ยังมีการนำนาฬิกาทรายมาใช้เป็นสัญลักษณ์ที่แทนเวลาในเรื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าตัวได้แต่บอกเป็นนัยๆว่า “ต้องดูค่ะ แล้วจะเข้าใจเองว่าเกรซหมายถึงอะไร!”
ในวัยเพียง 18 เกรซ ริยา มีมุมมองต่อความรักที่น่าสนใจว่า “ความรักเป็นแรงผลักดันตามธรรมชาติค่ะ เราไปบังคับ สั่ง หรือควบคุมอะไรมันไม่ได้เลย เกรซว่าความรักมันเป็นอะไรที่บ้ามากเลยนะ วินาทีนี้มันทำให้เรากลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกได้ แต่อีกวินาทีนึงมันทำให้เรารู้สึกย่ำแย่และว้าวุ่นใจได้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความบ้าบอของมันนี่แหละ ที่ทำให้มันวิเศษมาก ความรักทำให้คนเป็นมนุษย์ ความรักเป็นอะไรที่ทรงพลัง แล้วมันยังสามารถเปลี่ยนแปลงผู้คนได้ด้วย เกรซคิดว่าความรักเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ”
เห็นว่า เกรซ ริยา ยังเป็นเพียงสาวน้อยวัย 18 อย่างนี้ เมื่อถูกถามถึงแนวดนตรีที่เธอสนใจ คำตอบที่ได้รับกลับมาฟังดูน่าทึ่ง เพราะเพลงที่เธอเลือกฟังมีตั้งแต่เพลงแนวร็อค (Rock) ไปจนถึงแนวบรอดเวย์ (Broadway)กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อให้ชี้เฉพาะเจาะจงลงไป เธอบอกว่าแนวเพลงที่เธอเลือกหยิบมาฟังมากที่สุดกลับเป็นแนวร็อค ป๊อปร็อค ป๊อป และอินดี้ ก่อนจะย้ำว่า “ใน iTunes ของเกรซเต็มไปด้วยเพลงแนวร็อค (Rock) แล้วก็อัลเทอร์เนทีฟร็อค (Alternative Rock) เลย เช่น Queen, Green Day, The Killers, 30 Seconds to Mars, My Chemical Romance, AC-DC, Nirvana แล้วยังมีอื่นๆอีกมากมาย” เกรซ ริยา ให้เหตุผลว่า “ศิลปินเหล่านี้โปรดิวซ์ดนตรีเปี่ยมคุณภาพ ที่ส่งสารที่ยอดเยี่ยมมากให้กับคนฟัง นอกจากนี้เกรซยังชอบเครื่องดนตรีทุกชนิดที่ใช้เล่นในเพลงเหล่านั้นมากไม่แพ้กัน คือในภาพรวมแล้ว เกรซว่าดนตรีแนวนี้มันช่างทรงพลังอีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ”
ในขณะเดียวกัน สาวน้อยร่างเล็กผู้นี้ก็มี Beyonce เป็นไอด้อลคนสำคัญ เกรซ ริยา ชื่นชมพรสวรรค์และความสามารถอันเต็มเปี่ยมของเธออย่างไร้ข้อกังขา แต่ใช่ว่าจะจบเพียงเท่านี้ เพราะ เกรซ ริยา ยังพรั่งพรูชื่อของศิลปินที่เธอชื่นชอบออกมาอีกมากมายหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Billie Joe Armstrong, Jessie J, Brandon Flowers, Ryan Tedder, Ed Sheeran หรือแม้แต่ราชาเพลงป๊อปอย่าง Michael Jackson ก่อนจะปิดท้ายอย่างลำบากใจว่า “ถ้าไม่หยุดแค่นี้ คงจะมีอีกเยอะเลย”
ชีวิตส่วนตัวของ เกรซ ริยา ก็น่าจะไม่แตกต่างจากเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันมากนัก นอกเหนือจากการร้องเพลง สาวน้อยคนนี้ยังเป็นนักกีฬาตัวยง เธอเล่นทัชรักบี้ (Touch Rugby) และวอลเลย์บอล (Volleyball) โดยเฉพาะอย่างหลังนี่ถึงขนาดมีโอกาสได้เดินทางไปแข่งขันระหว่างโรงเรียนในต่างประเทศมาแล้วบ่อยครั้ง
เกรซ ริยา เลี้ยงสุนัขสองตัวและแมวอีกสองตัว สามในสี่ของสัตว์เลี้ยงที่เธอมีล้วนแล้วแต่ถูกเธอเก็บมาเลี้ยงทั้งสิ้น เมื่อถูกถามในเรื่องของสไตล์การแต่งตัว เกรซ ริยา เผยว่าเธอชอบการมิกซ์แอนด์แมทช์ (Mix & Match) แต่แม้สไตล์โปรดของเธอจะเป็นการผสมผสานระหว่างกรันจ์ ร็อค (Grunge Rock) และเออร์บัน (Urban) แถมยังมีสีโปรดเป็นสีดำและขาว แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจไปหากบางทีเธอเลือกสวมอะไรที่ดูมีความเป็นผู้หญิงบ้างด้วยเหมือนกัน
แม้ เกรซ ริยา จะยังถือว่าเป็นศิลปินหน้าใหม่ในวงการ เธอยังเด็ก และเป็นแค่เด็กสาวตัวเล็กๆ แต่เธอก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า สำหรับตอนนี้แม้ความคาดหวังเบื้องต้นของเธอ อาจจะเพียงแค่อยากให้ซิงเกิ้ลแรกประสบความสำเร็จให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะได้เอาเพลงนี้ไปร้องให้คนที่ชอบได้ฟังกัน “แต่เกรซย่อมหวังมากกว่านี้อยู่แล้วค่ะ ในอนาคตข้างหน้า” เกรซ ริยา กล่าวอย่างไม่ลังเล “เกรซอาจจะเป็นแค่เด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่ความฝันของเกรซมันยิ่งใหญ่มาก เกรซหวังว่าจะพยายามทำวันนี้ออกมาให้ดีที่สุดค่ะ”
บันทึกภาพ: BEC-Tero music