KHUMBA (คุมบ้า) ม้าลายแสบซ่าส์ ตะลุยป่าซาฟารี

แชร์ข่าวนี้

ประเภท                              Animation
กำหนดฉาย                     17 เมษายน 2557
บริษัทจัดจำหน่าย             โมโนฟิล์ม
อำนวยการสร้าง                 เอ็ดเวิร์ด โนเอลเนอร์ (Carjacked, Zambezia)
กำกับ                                 แอนโทนี่ ซิลเวอร์สตัน
เขียนบท                            ราฟาเอล เดล ดอนน์ (Zambezia), แอนโทนี่ ซิลเวอร์สตัน (Zambezia), โจนาธาน โรเบิร์ตส์ (The Lion King, Monster, Inc.)
นำแสดง                            เจค ที. ออสติน (Rio), สตีฟ บุซเซมิ (Grown Ups, Monsters, Inc.), ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น (The Matrix), เลียม นีสัน (Taken, Unknown, Non-Stop)
ความยาว                           85 นาที

เรื่องย่อ

คุมบ้า ม้าลายตัวน้อยที่เกิดขึ้นมามีลายเพียงแค่ครึ่งตัวทำให้เขาแปลกไปจากคนอื่น เมื่อเกิดภัยแล้งขึ้นมากลุ่มม้าลายตัวอื่นๆโทษคุมบ้าว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดภัยแล้งนี้ขึ้น คุมบ้าจึงได้เดินทางออกจากบ้าน  เพื่อไปค้นหาบ่อน้ำวิเศษที่จะสามารถทำให้เขามีลายเต็มตัว การเดินทางครั้งนี้ทำให้เขาได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ๆ  และประสบการณ์ที่เขาและผองเพื่อนจะไม่มีวันลืม

ถาม-ตอบกับผู้กำกับ

1. คุมบ้าเป็นการเล่าเรื่องแบบการก้าวข้ามพ้นวัย (Coming of age) ของม้าลายตัวน้อยที่ได้เดินทางไปในที่ๆเขาไม่เคยไปเพื่อที่จะได้ “ลาย” เต็มตัว คุณคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับไอเดียนี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงม้าลายที่มีลายเพียงแค่ครึ่งตัวที่เขาจำเป็นต้องเรียนรู้ว่า “ความแตกต่าง” นั้นไม่ใช่เรื่องที่แย่เลย และมันมีอีกหลายสิ่งที่ตัวหนังอยากจะบอกเรา “เรื่องราวที่ผมอยากจะถ่ายทอดนี้ในตอนแรกมันมาจากไอเดียที่ว่าอยากจะเล่าประสบการณ์ที่เราได้เติบโตขึ้นมาในทวีปแอฟริกาใต้ แต่ในสุดท้ายแล้วแรงบันดาลใจที่ถ่ายทอดมันออกมาจากการที่เราเรียนรู้ที่จะเติบโตมาท่ามกลายสีผิวที่แตกต่าง”

2. นี่เป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องที่สองต่อจากเรื่อง Zamberia คุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากอดีต

ผมได้มีส่วนในงานเรื่องนั้นเกือบจะทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นในช่วงก่อนการถ่ายทำ การทำโปรดักชั่นดีไซน์ การวาดสตอรี่บอร์ด รวมไปจนถึงการตัดต่อ มันทำให้ผมรู้ว่ามันมีอะไรรอเราอยู่ช้างหน้า อุปสรรคที่จะต้องเกิดขึ้นในการทำงาน  ฉะนั้นเมื่อมาถึงเรื่องการสร้าง “คุมบ้า” ผมจึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ด้วยความที่ทีมงานทุกด้านได้มีประสบการณ์ ระบบทุกอย่างได้ทำงานได้อย่างราบรื่น เราจึงได้เริ่มไปโฟกัสถึงคุณภาพของหนังและเนื้อหาในเรื่องมากกว่า ดังที่เราได้เห็นจากในภาพยนตร์ว่างานของเรานั้นสวยงามและมีรายละเอียดยอดเยี่ยมมากขนาดไหน

3. ตัวหนังได้ทีมพากย์จากดาราที่มีชื่อเสียง เป็นอย่างไรบ้างที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา

จริงๆแล้ว ตัวละครของเราทั้งเรื่องนั้นจำเป็นต้องมีใช้การพากย์มากถึง 37 ตัวละคร และเราต้องการเสียงนักแสดงทั้งจาก แอฟริกาใต้ อเมริกา และเสียงคนอังกฤษ ซึ่ง เน็ท ลอทท์ ผู้จัดการฝ่ายการจัดหาการแสดงนั้นได้จัดการได้อย่างรวดเร็ว เพราะเรารู้ว่าตัวพากย์ส่วนใหญ่เป็นใครอยู่แล้ว

เราสร้างตัวละครโดยมีฐานมาจากตัวละครในชีวิตจริง เสียง ความดุดัน และลักษณะของตัวละครแต่ละครได้สร้างมาจากพื้นฐานของคนเหล่านั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น แคทเทอรีน เททและ ลอเรตต้า เลวีน ในบท โนร่า และ มาม่าวี ตัวละครอย่างเอกอย่าง เจค ที. ออสติน ก็ได้เข้ามาทำให้ตัวละครคุมบ้าของเราดูอบอุ่นและน่ารักได้อย่างเหลือเชื่อ ปิดท้ายด้วยเสียงพากย์อย่างดาราชื่อดังฮอลลีวูดอย่าง “เลียม นีสัน” ที่ได้เข้ามาสร้างบรรยากาศที่คึกคักให้กับภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี

4. หนังทุนอิสระทุกเรื่องต้องพบเจอกับความท้าทาย แล้วอะไรที่เป็นความท้าทายที่สุดสำหรับการกำกับภายนตร์เรื่องนี้

คอนเซปของเรื่องราว “คุมบ้า” ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2003 ดังนั้นเราจึงมีประวัติอันยาวนานเกี่ยวข้องกับโปรเจคนี้ ผมเชื่อเสมอว่าคอนเซปของหนังเรื่องนี้เป็นคอนเซปที่แข็งแรงมาก แต่การจะทำให้หนังได้เป็นไปตามที่เราคิดมันก็มีอุปสรรคไม่น้อยเช่นกัน ทั้งเรื่องของงบประมาณและเวลาในการสร้างงาน การที่หนังมีแนวคิดที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ มีสัตว์ไม่ต่ำกว่า 17 สายพันธ์ และคุมบ้าเองต้องเดินทางออกไปยังโลกที่กว้างใหญ่ การเนรมิตให้สิ่งเหล่านั้นให้เกิดทั้งหมดในเวลาที่จำกัด อาจจะเรียกว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ต้องขอบคุณทีมงานที่เข้าใจกันและสามารถสร้างงานออกมาได้ทันเวลา โดยที่ไม่ใช้งบเกินที่เรามี (หัวเราะ)

5. คุณคาดหวังว่าคนดูจะได้อะไรกลับไปเมื่อได้ชม “คุมบ้า”

เป้าหมายหลักๆเลยคือเพื่อสร้างสรรค์งานบันเทิง ให้มีความสนุก ที่จะมาสร้างแรงผลักดันให้กับเด็กๆให้มีความอดทนอดกลั้น และให้เด็กๆทุกคนได้รับรู้ถึงความแตกต่างและยอมรับในความต่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชาติพันธุ์ ศาสนา วัฒนธรรม หรือแม้กระทั่งชนชั้น  เรายังหวังว่าผู้ชมจะได้เห็นส่วนเล็กๆของความเป็น อัฟริกาใต้ ความมหัศจรรย์และความสวยงามของฝูงสัตว์และหวังว่าเด็กๆจะหันมาสนใจตัวสัตว์กันให้มากขึ้นอีกด้วย

 

ที่มา:  โมโนกรุ๊ป
บันทึกภาพ:  โมโนกรุ๊ป
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง