เรียกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ทรงคุณค่าที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับคอนเสิร์ต “กล่อมกรุง” เวทีที่รวม 11 สุดยอดศิลปินระดับตำนานเจ้าของรางวัลศิลปินแห่งชาติและรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน อาทิ สุเทพ วงศ์กำแหง, สวลี ผกาพันธุ์, ศรีไศล สุชาตวุฒิ, ธานินทร์ อินทรเทพ, รวงทอง ทองลั่นธม, จิตติมา เจือใจ, รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส, เศรษฐา ศิระฉายา, ดาวใจ ไพจิตร, วินัย พันธุรักษ์ และ จินตนา สุขสถิตย์ นับเป็นเกียรติประวัติของ เอ-ไทม์ โชว์บิส ที่มีโอกาสเนรมิต รอยัล พารากอน ฮอลล์ ให้แฟนเพลง รุ่นใหญ่ได้หวนครวญเพลงเพราะ ย้อนวันวานไปกับเพลงอมตะที่อยู่เหนือกาลเวลา ขับกล่อมด้วยเจ้าของเสียงต้นตำรับทั้งหมด งานนี้ ดีเจ.อั๋น ภูวนาท คุนผลิน ได้รับเกียรติให้เป็นผู้ดำเนินเรื่องราวอันแสนอบอุ่น ตลอดทั้งคอนเสิร์ตนี้อีกด้วย
ทำเอาคนดูตื่นเต้นตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัสฮอลล์ จากการประดับประดาเวทีด้วยม่านคริสตัลระย้า ตัดกับแสงไฟวิบวับระยับตา พร้อมจัดเต็มเครื่องสาย เครื่องเป่า ปี่พาทย์ ระนาดเอก ครบครันตามแบบฉบับเพลงลูกกรุง เริ่มต้นโหมโรงเปิดฟลอด้วยเพลง “รักฉันนานๆ” จากคู่ขวัญของวงการเพลงลูกกรุง สุเทพ-สวลี ที่ผลัดกันหยอกเอินน่ารัก ถ้าสมัยนี้ก็คงต้องเรียกว่า คู่จิ้น สินะ!! ก่อนปล่อยเวทีให้ สุเทพ ครวญเพลงรัก ฉบับออริจินัล อย่าง “เพียงคำเดียว” “รักคุณเข้าแล้ว” ที่เริ่มขับร้องตั้งแต่ พ.ศ.2497 เรียกว่ามีอายุเพลงกว่า 60 ปีเลยทีเดียว ตามด้วย สวลี เจ้าของบทพจมานคนแรกของประเทศไทย สมัยยังเป็นละครเวทีจัดแสดงที่ ศาลาเฉลิมไทย ออกมาครวญเพลง“บ้านทรายทอง” ละครยอดนิยมที่ปัจจุบันยังนำมากลับมาสร้างใหม่อยู่เรื่อยๆ แถมยังเป็นเจ้าของเพลง “จำเลยรัก” “รักไม่รู้ดับ” ที่โด่งดังมาถึงยุคนี้อีกด้วย จากนั้นถึงคิว ธานินทร์ และ จิตติมา ที่ออกมาร้องเพลง “ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก-ธานินทร์” “ขาดเธอฉันไม่รู้สึก – จิตติมา” ที่สมัยนั้นถ้าเพลงไหนดังมาก จะต้องมีการแต่งเพลงมาร้องแก้หรือร้องตอบกัน ถือว่าเป็นเสน่ห์ ของเพลงลูกกรุงในยุคนั้นจริงๆ
จากนั้น รวงทอง และ รุ่งฤดี ต่างขนเพลงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าง “จำได้ไหม, ขวัญใจเจ้าทุย, วิมานสีชมพู-รวงทอง” “เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่น้ำโขง, พัทยาลาก่อน-รุ่งฤดี” มาขับกล่อมให้เพลิดเพลินเจริญใจ ก่อนส่งให้ 2 ศิลปินแห่งวง ดิ อิมพอสซิเบิ้ล เศรษฐา และ วินัย ที่โด่งดังมากในยุคนั้น มารับช่วงต่อใน “หนึ่งในดวงใจ” “งัวหาย” ตามด้วยเซตเพลงเดี่ยวสุดคลาสสิค “ชู้ทางใจ, ความรักเพรียกหา-วินัย” “โอ้รัก, หนาวเนื้อ-เศรษฐา” มากล่อมให้รุ่นใหญ่ได้อินแล้ว ตามไปฟินกับ จินตนา กับเพลง “ฝากรักเอาไว้ในเพลง” “คิดจะปลูกต้นรักสักกอ” และเจ้าของเสียงสูงบาดลึกถึงทรวงอย่าง ดาวใจ ที่มาพร้อมเพลงดัง “ทำไมถึงทำกับฉันได้” งานใหญ่ทั้งที เอ-ไทม์ โชว์บิส ไม่วายจัดเซอร์ไพร้ส์ ดึง เศรษฐา ควง ศรีไศล มาเติมความหวานหยดย้อยร้องคู่กันในเพลง “จงรัก” แถมโชว์หวานจุ๊บแก้มกันกลางเวทีแบบไม่เกรงใจภรรยา อย่าง คุณเปี๊ยก อรัญญา นามวงศ์ ที่มาเชียร์ติดขอบเวที และยังได้อิ่มเอมกับเพลงอมตะติดหู “รักข้ามขอบฟ้า” “ชั่วฟ้าดินสลาย” “คนเดียวในดวงใจ” ที่ ศรีไศล หยิบมาฝากคอเพลงลูกกรุงกันแบบจุใจ พร้อมปิดท้ายความประทับใจอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการรวมสุดยอดครูเพลงทั้ง 11 ท่าน บนเวทีพร้อมกันในเพลง “ใจประสานใจ” เรียกว่าไม่สามารถหาดูที่ไหนได้อีกแล้ว นอกจากนี้ รายได้ส่วนหนึ่งยังมอบให้กับมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส อีกด้วย งานนี้พูดได้คำเดียวสั้นๆว่า เลอค่า!!!
บันทึกภาพ: เอ-ไทม์ มีเดีย