ที่นี่หมอชิตอาทิตย์นี้ พี่ดู๋และเชียร์พาผู้ชมไปเยี่ยมบ้านของพิธีกรอารมณ์ดี “คุณท๊อป ดารณีนุช โพธิปิติ”  ที่วันนี้เธอเปิดบ้านที่อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ของเธอให้ได้ชมกัน  และเล่าเรื่องราวของครอบครัวโพธิปิติ  ที่สามีภรรยาสลับหน้าที่กัน  คุณท๊อปมีหน้าที่ทำงานนอกบ้านหาเงิน แล้วให้สามีดูแลลูกอยู่บ้าน เพราะเธอทำงานได้เงินเยอะกว่า  เพราะครอบครัวก็เหมือนทีมเวิร์ค  มันไม่มีหน้าที่ไหนสำคัญกว่าหน้าที่ไหน   ใครจะเป็นช้างเท้าหน้า ช้างเท้าหลัง  ทุกหน้าที่สำคัญเท่าเทียมกัน  หน้าที่ดูแลลูก็เป็นเรื่องสำคัญ พอๆกับการ   ต้องทำงานหารายได้   รวมทั้งความอบอุ่นในครอบครัว  คำสอนของรุ่นตายาย ที่ถ่ายทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน  และเรื่องสำคัญที่คุณท๊อปเน้นและสอนลูกชายคือ  ความเป็นลูกผู้ชาย อาทิ

“ดูเป็นคุณแม่ตลกใจดี เคยดุลูกบ้างไหม / เรื่องอะไ??  คุณท๊อป : มีๆ ดุเขาเรื่องเหมือนเขาไม่เต็มที่กับการไปดูแลคุณตา แล้วเขาก็เอาไปลงในอินสตาแกรมว่าทำไมอย่างนั้นอย่างนี้  ดิฉันก็แคปหน้าจอเสร็จก็ส่งไลน์ไปด่าลูก เขาก็บอกว่าแม่พูดกับผมก็ได้ทำไมจะต้องโมโห เราก็ดุเขาว่าแกคิดว่าแกทำเต็มที่แล้วเหรอ  เป็นลูกฉันแล้วแกเสียสละมากพอแล้วเหรอ  แกคิดว่าแกเป็นลูกผู้ชายเหรอ  “ แกจะเป็นแค่ลูกชายฉันหรือแกจะเป็นลูกผู้ชาย ” ก็ด่าลูก ลูกก็บอกว่าผมขอโทษครับ หลังจากนั้นไปเฝ้าคุณตาอย่ามาทำเหยาะแหยะ เพราะเราไม่ชอบ เราเต็มร้อยถ้าคุณเป็นทีมเราคุณก็ต้องร้อยเท่าเรา ถ้าไม่ร้อยเท่ากันเป็นลูกเป็นแม่กันได้ยังไง เราต้องไปด้วยกัน หลังๆมาเต็มยูนิตไม่มีเหยาะแหยะ นี่คนโตนะ  หรือทะเลาะกับแฟนแล้วไปโพสท์ในเฟสบุ๊ค เราสอนเขาว่ามันไม่ดี เป็นนิสัยแบบผู้หญิงลูกผู้ชายไม่ควรทำ   มีข้อตกลงหรือข้อห้ามระหว่างแม่กับลูกไหม?? คุณท๊อป : ห้าม ทำเด็ดขาดเลยก็คือเรื่องยาเสพติด เราก็ขอว่าห้ามทำเด็ดขาดเลยนะบุหรี่มันสูบ มันติดมันง่ายแต่มันเลิกมันยากนะแล้วสิ่งที่แม่รู้สึกแย่เลยคือมันทำลาย สุขภาพลูก และ อีกเรื่องอย่าไปทำร้ายผู้หญิง เป็นเรื่องสำคัญ ไม่รักเขาก็อย่าไปทำเขา อย่าหลอกผู้หญิง ก็จะสอนเขาในเรื่องพวกนี้  ทุกวันนี้ถือว่าชีวิตเรามีความสุข สมบูรณ์แบบรึยัง ?? คุณท๊อป : ไม่ มีสนามหญ้าบ้านใครที่จะเขียวสด มันก็ต้องหาความสุขเท่าที่เรามี พอใจกับสิ่งที่เราเป็น เราจะไปนั่งเพ้อกับสิ่งที่เราไม่สามารถจะสร้างได้ มันก็สร้างบ่วงให้กับตัวเอง  เพราะฉะนั้นเราก็ต้องรู้จัก  เท่าทันตัวเราเอง ไม่อย่างนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่ทะเยอทะยานเลย แต่เอาให้มันพอดีกับกำลังเรา อายุ      เท่านี้แล้ว ความพอใจเท่านี้แล้ว เราอยู่ตามความเป็นจริงง่ายที่สุด”

จากเยี่ยมบ้านคุณท๊อป ดารณีนุช  สองพิธีกรยังมีแขกรับเชิญอีกสองท่าน  คุณจั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณสุข  และ คุณเจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ ที่จะมาพูดคุยเรื่องละคร  “สุสานคนเป็น”  ซึ่งวันนี้เจมส์ตั้งใจจะโชว์ฝีมือทำอาหารใต้ให้ทุกคนได้ทานกัน  เลยชวนจั่นมาตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบไปทำอาหาร  พร้อมดูกระแส ตอบรับละครสุสานคนเป็นจากแม่ค้าในตลาดสด  ว่าจะมากมายและออกมาในรูปแบบไหนบ้าง  ซึ่งว่ากันจริงๆ จั๊กจั่นไม่กล้าเดินตลาดเลย  และเมื่อกลับมาถึงบ้าน   เจมส์ ลงมือทำอาหารเมนูคั่วกลิ้ง    ระหว่างที่เจมส์แสดงฝีมือพ่อครัว …. พี่ดู๋ และเชียร์แทรกคุยอัพเดท ชีวิตของเจมส์ และ จักจั่นไปด้วยทั้งเรื่อง การดูแลสุขภาพ ร่างกาย   เรื่องที่เจมส์ชอบทำอาหาร  และจั่นชอบแมว   และแทรกคุยเรื่องละคร “ สุสานคนเป็น ” ที่เป็นกระแสโด่งดังขณะนี้  

        “และกับความรักเป็นอย่างไรกันบ้าง??เจมส์ : กับน้องเนย ก็คบกันมาประมาณ 2 ปีแล้ว ก็ไม่ค่อยหวือหวา แต่จะเน้นความมั่นคง สม่ำเสมอมากกว่า  เรื่องแต่งงานที่หลายคนถาม ก็ยังไม่ใช่เร็วๆนี้ครับ  จั่น : สำหรับจั่นถ้าเลือกได้ก็อยากมีเป็นคนนอกวงการ ที่เข้าใจการทำงานของเรา แต่ตอนนี้ยังไม่มี  ถ้าเข้ามาบ้างก็จะเป็นเพื่อนของเพื่อน แต่พอละครเรื่องนี้ออกไป หนุ่มๆคงกลัวเรา หายไปหมดเลย ไม่มีใครกล้ามาคุยเลย  ( จั่นแซวพี่เจมส์ ) พี่เจมส์มีมุมโรแมนติกเหมือนกันนะ มีมาแอบปรึกษาว่าจะซื้อของขวัญ อะไรให้แฟนดี)  วางแผนอนาคตกันไว้ยังไง??  จั่น : จั่นก็คงแสดงละครอยู่ในวงการไปเรื่อยๆ เพราะมีพี่นก สินจัย กับ อาดาว ดวงดาว จารุจินดา เป็น ไอดอล  เจมส์ : คิดว่าอีก 3 ปี คงเกษียณตัวเองแล้ว  ( ตอนนี้อายุ 36 ปี ) งานในวงการถ้ารับก็คงรับเอามัน      แล้ว บทดี คงไม่ทำเพื่อเงินแล้ว เพราะอยากหยุดจากการหาเงิน ตอนนี้ก็ทำงานไปก่อน แล้วพอถึงวันนั้น เราก็จะทำทุกอย่างที่เรามีความสุข ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น ได้ทำเพื่อสังคมได้เต็มที่ แล้วก็ไปเที่ยวรอบโลกเลย”

ติดตามชมทั้งสองเรื่องสองรสได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” คืนวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคมนี้ ทางช่อง 7