ไม่ใช่แค่หล่อ! CNBLUE โชว์ดี พิสูจน์ยี่ห้อวงดนตรียอดเยี่ยม สุดขั้วจริงงานนี้ “est Presents 2014 CNBLUE LIVE – Can’t Stop in BANGKOK”

แชร์ข่าวนี้

ประทับใจกันไม่รู้ลืมอีกครั้งสำหรับการกลับมาเยือนไทยในรอบหนึ่งปีเต็มของสี่หนุ่ม “ซีเอ็นบลู” (CNBLUE) ในคอนเสิร์ต “เอส พรีเซนต์ 2014 ซีเอ็นบลู ไลฟ์ – แคนท์ สต็อป อิน แบงคอก” (est Presents 2014 CNBLUE LIVE – Can’t Stop in BANGKOK)เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2557 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ผ่านมา ที่จัดโดย บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด นำโดยผู้บริหารหนุ่ม กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ ผู้จัดไทยที่คร่ำหวอดในวงการคอนเสิร์ตเกาหลีมานาน

สมดีกรี วงดนตรียอดเยี่ยม (Best Band Award) จากงานประกาศรางวัล Yin Yue Tai’s V-Chart Awards จากที่เคยสร้างความประทับเมื่อปีที่แล้วกับเวิล์ดทัวร์ครั้งแรก “2013 CNBLUE BLUE MOON CONCERT LIVE IN BANGKOK” กลับมาครั้งนี้ก็ยังคงสร้างความประทับใจให้บอยซ์ชาวไทยเช่นกัน (Boice ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการของ CNBLUE) และถือเป็นการร่วมงานครั้งที่สองระหว่างวงดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ เกาหลี CNBLUE และผู้จัดอันดับหนึ่งของไทย บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่ครั้งนี้ยังได้ผนึกกำลังกับผู้สนับสนุนหลัก เอส (est) และสมทบด้วย อิทส์สกิน (it’s Skin), โรงแรมดัเบบิ้ลยู กรุงเทพ (W Bangkok) และเซ็นทรัลเวิลด์ (Central World) ซึ่งคอนเสิร์ตครั้งนี้ และนอกจากจะเป็นวาระพิเศษครบรอบหนึ่งปีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในเมืองไทย CNBLUE แล้ว ประเทศไทยยังถูกระบุเป็นเป้าหมายแรกสำหรับการทัวร์คอนเสิร์ตนอกประเทศเกาหลีอีกด้วย

 

ซึ่งก่อนจะไปมันส์กันนั้น มีงานแถลงข่าวอุ่นเครื่องก่อนหน้าหนึ่งวันโดยทั้งสี่หนุ่ม จองยงฮวา (Jung Yong Hwa), อีจงฮยอน (Lee Jong Hyun), อีจองชิน (Lee Jung Shin) และ คังมินฮยอก (Kang Min Hyuk) ร่วมพูดคุยกันอย่างน่ารักและเปนกันเองเช่นเคย

และ แล้วก็ได้เวลาเปิดฉากคอนเสิร์ตใหญ่แห่งปีด้วยวีทีอาร์สุดเร้าใจ ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดที่ดังกึกก้องจนอารีน่าสะเทือน เพราะแทนที่แสงไฟจะส่องไปบนเวทีแต่กลับส่องไปทางด้านข้างของที่นั่งชั้นล่าง สี่หนุ่ม ซีเอ็นบลู ตัวจริงเสียงจริง นำขบวนโดย มินฮยอก เดินเสิร์ฟความใกล้ชิดแก่แฟนคลับเพื่อก้าวขึ้นสู่เวที ก่อนเข้าประจำตำแหน่งหยิบอาวุธประจำกายแล้วลงมือวาดลวดลายระเบิดความมันส์ใน เพลง ‘Time is Over’, ‘Diamond Girl’ และ ‘Intuition’ (직감)  ซึ่งในช่วงเพลงที่สอง ‘Diamond Girls’ แฟนๆ ชูป้ายโปรเจ็กต์คำว่า “DIAMOND BOY” ให้หนุ่มๆ ด้วย ครั้นพอไฟในฮอลล์เปิดสว่างชัดเต็มตา และยงฮวาได้เห็นเข้า ก็ส่งจุ๊บมาขอบคุณ DIAMOND GIRLS ชาวบอยซ์ทั้งหลาย  จากนั้นเข้าสู่ช่วงทักทายอย่างเป็น ทางการ “วอ สอัพ แบงคอก! สวัสดีครับ พวกเรา ซีเอ็นบลู ครับ ดีใจมากๆ ที่ได้เจอพวกคุณ ดีใจมั้ย? ซีเอ็นบลู กลับมาที่กรุงเทพฯ แล้วครับ! ขอบคุณที่รอและขอบคุณที่มาดูนะครับ ขอบคุณครับ เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มจาก BLUE MOON ถึง Can’t Stop พวกเราดีใจมากที่ได้กลับมาเจอทุกคนอีกครั้ง พวกเรารักคุณ”  ต่อด้วยการแนะนำตัวของสมาชิกแต่ละคนที่ขนภาษาไทยอันสุดแสนจะน่ารักซึ่งฝึกปรือกันอย่างดีมาทักทายผู้ชม  เริ่มต้นที่มือเบส จองชิน “สวัสดีครับ คิดถึงผมมั้ยครับ สวัสดีครับ ผมชื่อจองชินครับ ผมคิดถึงคุณมากๆ ครับ ขอบคุณครับ”  ตามด้วย จงฮยอน “สวัสดีครับ ผมชื่อจงฮยอนเล่นกีต้าร์ ปีที่แล้วพวกเรามีคอนเสิร์ตที่นี่ วันเดียวกัน วันนี้ผมกลับมาที่นี่ ขอบคุณครับ”  มือกลอง มินฮยอก “สวัสดีครับ ผมชื่อมินฮยอก คิดถึงพวกเธอจังเลย วันนี้จะสนุกแน่นอน ขอบคุณครับ” ปิดท้ายที่ลีดเดอร์ ยงฮวา “สวัสดีครับ ผมยงฮวาร้องนำและเล่นกีต้าร์ครับ คอนเสิร์ตนี้ครั้งที่ 3 ที่ อิมแพ็ค อารีน่า ขอบคุณครับ We love you รักทุกคน”

 

ทุกนาทีมีค่า ยงฮวา ไม่ปล่อยให้เวลาแห่งความสนุกต้องขาดตอนไป นำเข้าสู่เพลงเด็ดประจำวง ‘LOVE’ ที่เป็นการผสมผสานดนตรีร็อกอันหนักหน่วงกับลีลาการร้องอันนุ่มนวลเป็น เอกลักษณ์ ก่อนย้ายตำแหน่งมาประจำเครื่องดนตรีคู่กายอีกชิ้นนั่นก็คือคีย์บอร์ด และสลับอารมณ์สู่เพลงช้าอย่าง ‘These Days’, ‘My Miracle’ จากนั้นส่งไม้ต่อให้ จงฮยอน ร้องเพลงสุดซึ้ง ‘Love in the Rain’ (사랑은비를타고) ที่สมบูรณ์แบบทั้งน้ำเสียง ทำนองดนตรี และภาพบนจอที่ปรับเป็นขาวดำส่งอารมณ์ให้ซึ้งเศร้าเข้าไปอีกเป็นทวีคูณ พักเบรกสั้นๆ  ช่วงที่สอง มินฮยอก ขอจับไมค์เฉลยว่ามาคราวนี้พวกเขา “กินผัดไทย ปูผัดผงกระหรี่ ข้าวผัด อร่อยมาก” ก่อนคว้าไม้กลองลุยต่อกับเพลงใหม่ในมินิอัลบั้ม Can’t Stop อย่าง ‘Cold Love’ (독한 사람) ที่เพราะจับจิตจนแทบลืมหายใจ

 

นาทีนี้บรรยากาศในอิมแพ็คอารีน่าร้อนแรงถึงขีดสุด ไม่ต่างจากอารมณ์ร่วมระหว่างศิลปินและคนดูซึ่งเดินทางมาถึงจุดเดือดเช่นกัน ยงฮวา, จองชิน, จงฮยอน ผลัดกันออกมาที่เวทีด้านหน้าและด้านข้างเพื่อใกล้ชิดกับแฟนๆ ให้มากขึ้นในเซ็ตเพลงสุดมันส์ ‘Coffee Shop’, ‘Robot’ และ ‘In My Head’ เรียกเสียงกรี๊ดลั่นตลอด เวลาโดยเฉพาะตอน ยงฮวา ออกลีลาท่าเต้นน่ารักๆ ตามสไตล์พร้อมอ้อนด้วยประโยค “น่ารักจุ๊บๆ” กับ “We love you Bangkok!” จากนั้นพักหายใจหายคอกับเบรกสั้นๆ แนะนำว่าเพลงที่จะร้องต่อไปเป็นเพลงโปรดของ จงฮยอน ซึ่งเพลงนั้นก็คือ ‘Blind Love’ ที่คราวนี้ผู้ชมได้ดื่มด่ำกับโปรดักชั่นสวยๆ ด้วยฉาก 3 มิติ ต่อด้วยความอลังการจากประกายแสงอันงดงามของ Mirror Ball ในเพลง ‘Love is’ ซึ่ง ยงฮวา เปลี่ยนมาจับกีต้าร์อะคูสติกแทนกีต้าร์ริทึ่มขาประจำ จงฮยอน ก็เอาบ้างคว้ากีต้าร์อะคูสติกพร้อมอาสาร้องเดี่ยวในเพลงเนื้อร้องอังกฤษล้วน อย่าง ‘Teardrops in the Rain’ ที่ผู้ชมในฮอลล์ร้องตามกันได้กระหึ่ม เสียจน จงฮยอน ต้องเอ่ยปากขอบคุณหลังจบเพลง จากนั้น ยงฮวา รับหน้าที่พูดคุยกับแฟนๆ ต่อ “ขอบ คุณครับ Bangkok! พวกคุณเจ๋งที่สุด พวกเรามีความสุขมาก ขอบคุณที่ช่วยร้องนะครับ ร้องเก่งมากเลยนะเนี่ย (ยกนิ้วหัวแม่มือให้) นี่พวกเราเป็นนักร้องกันหมดเลย” ตามด้วย จองชิน ที่เข้ามาสมทบ “ทุกคน ทุกคนสนุกมั้ย ขอบคุณครับ Bangkok! ตอนนี้ได้เวลามาร้องเพลงกับพวกเราต่อแล้ว โอเคมั้ย ยงฮวา ช่วยส่งเข้าเพลงต่อไปหน่อย” ด้าน ยงฮวา และ จงฮยอน ที่พร้อมอยู่แล้วก็รับคิวต่อส่งเข้าเพลงถัดไปด้วยท่าเต้นสุดทะเล้น

 คราวนี้สี่หนุ่มจัดเพลงมันชุดใหญ่ทั้ง ‘I’m a Loner’ (외톨이야), ‘I’m Sorry’, ‘Lady’ ปล่อยพลังใส่คนดูจนไฟแทบลุกท่วมฮอลล์ แถม ยงฮวา, จงฮยอน, จองชิน ยังเดินกระจายเซอร์วิสทั่วทุกมุมทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ก่อนจะเอ่ยข่าวร้ายว่าคอนเสิร์ตได้เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว ยงฮวา ไม่ลืมขอให้ทุกคนช่วยอธิษฐานเพื่อซีเอ็นบลู และซีเอ็นบลูก็จะอธิษฐานให้กับทุกคน โดยขอพรให้ประเทศเกาหลีและกรุงเทพฯ ขอให้ทุกๆ วัน เป็นวันที่พยายามใหม่และยิ้มได้อีกครั้ง จากนั้นทำนองเพลงเพราะความหมายดีอย่าง ‘Try Again Smile Again’ ก็ดังขึ้น ยงฮวา กลับสู่แท่นคีย์บอร์ดในช่วงท้าย เพื่อนำเข้าเพลงประจำทัวร์คอนเสิร์ตอย่าง ‘Can’t Stop’ ที่เมมเบอร์ทุกคนยิ้มอย่างมีความสุขในระหว่างแสดงกับโปรเจ็กต์รูปหัวใจสีฟ้า เขียนว่า “CNBLUE” จนคนดูรับรู้ได้ถึงความประทับใจและซาบซึ้งที่พวกเขาได้รับจากคอนเสิร์ตใน วันนี้ก่อนจัดเพลง ‘Like a Child’ (아이의노래) สั่งลาแล้วเดินเข้าหลังเวทีไป

 

เสียงตะโกนเรียก ซีเอ็นบลู ดังกระหึ่มในช่วงอังกอร์จนสี่หนุ่มอดใจไม่ไหวต้องกลับขึ้นบนเวทีอีกครั้ง มินฮยอก กล่าวขอบคุณแฟนๆ ด้วยภาษาไทยว่า “อังกอร์ ขอบคุณครับ” ก่อนลุยต่อแบบสนุกสุดตัวกับ ‘Wake Up’ และ ‘Love Girl’ ที่มีการแลกเปลี่ยนเสียงร้องระหว่างศิลปินและคนดูกันอย่างเมามัน จากนั้น ยงฮวา ในฐานะลีดเดอร์ใช้โอกาสสุดท้ายก่อนจากกันไปแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่มีต่อชาวไทย “ขอบ คุณครับ นี่จะเป็นเพลงสุดท้ายแล้ว แต่ก่อนเข้าเพลงสุดท้าย ผมอยากพูดอะไรบางอย่างเพื่อแสดงความขอบคุณ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในเกาหลีใต้ คนเกาหลีจำนวนมากเศร้าใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น และพวกเรารู้ว่ามีคนที่เมืองไทยจำนวนไม่น้อยเลยที่ร่วมแบ่งปันความเสียใจและ อธิษฐานให้กับประเทศเกาหลี ขอบคุณมากๆ นะครับ พวกเราซาบซึ้งมากๆ พวกเราเชื่อว่าแสงสว่าง จะส่องไปยังผู้คนที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ และเราก็หวังว่าบทเพลงของเราจะกลายเป็นแสงสว่างให้แก่พวกเขาเหล่านั้น และกับพวกคุณที่กรุงเทพฯ ด้วย เพลงสุดท้ายของพวกเราในวันนี้ก็คือ Love Light  ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับวันนี้ ผมคงไม่มีวันลืมวันนี้ไปได้ พวกเรารักกรุงเทพฯ มากๆ ผมสัญญาว่าพวกเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้งในอนาคตอันใกล้ ผมให้สัญญา ร้องเพลงกับพวกเรานะครับ ขอบคุณมากครับ Love Light!” ด้วยสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความขอบคุณอย่างจริงใจของพวกเขาทั้งสี่ ทำเอาผู้ชมทุกคนที่อยู่ ณ อิมแพ็ค อารีน่า ในวันนั้นปรบมือให้กับ ซีเอ็นบลู ดังกึกก้องและมีความสุขร่วมกันในเพลงสุดท้าย ‘Love Light’ (사랑빛) ก่อนได้เวลาจากกันจริงๆ

ทั้งหมดนี้คือบรรยากาศครบรสครบเครื่องแบบไร้ที่ติกับ “เอส พรีเซนต์ 2014 ซีเอ็นบลู ไลฟ์ – แคนท์ สต็อป อิน แบงคอก” (est Presents 2014 CNBLUE LIVE – Can’t Stop in BANGKOK) อีกหนึ่งผลงานดีๆ จากผู้จัดมือโปร ‘โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์’ ติดตามผลงานใหม่ครั้งต่อไปได้ทาง www.411ent.com, www.facebook.com/fouroneoneent และทวิตเตอร์ @411ent รวมทั้งอินสตาแกรมของซีอีโอ IG @kueng_chalermchai http://instagram.com/kueng_chalermchai

ชมภาพเพิ่มเติมคลิก ที่นี่

ที่มา:  โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์
บันทึกภาพ:  โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, STARUPDATE.COM
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง