หลังจากนำเข้าภาพยนตร์ต่างประเทศมาเข้าฉายให้คนไทยได้ชมกันเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้วนั้น  ล่าสุดค่ายหนัง “โมโนฟิล์ม” ในเครือโมโนกรุ๊ป  ถือฤกษ์ดีวันนี้บวงสรวงเอาฤกษ์เอาชัยกับภาพยนตร์ไทยของปีนี้เรื่อง “2538 อัลเทอร์มาจีบ”  ที่ได้  “โมโนพิคเจอร์”  มากุมบังเหียนในการผลิตทั้งหมด  โดยมีนางเอกสาว ใบเฟิร์น- พิมพ์ชนก  ลือวิเศษไพบูลย์  รับบทเป็น “ส้ม”  และพระเอกน้องใหม่ เนตั้น-แดนดรุณ รามณรงค์  รับบท “ก้อง”   ร่วมด้วย แหม่ม-วิชุดา พิมดั้ม, เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง, อิงค์-อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา, แวน-ชนินทร จิตปรีดา และ โฟน-ชลกาญจน์ พวงน้อย  นอกจากนี้ยังมีนักแสดงรับเชิญ อาทิ  ป้าง-นครินทร์ กิ่งศักดิ์, วงพราว, ป๊อด โมเดิร์นด็อก  ที่จะมาสร้างสีสันให้เรื่องราวของภาพยนตร์สนุกสนานยิ่งขึ้น  ภายใต้การกำกับของ “เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร”

ภาพยนตร์  “2538 อัลเทอร์มาจีบ” เป็นภาพยนตร์ที่จะพาย้อนเวลากลับไปในปี 2538 ในบรรยากาศยุครุ่งเรืองของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟที่โด่งดังอยู่ในเวลานั้น โดยเป็นเรื่องราวของ ก้อง เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่เกิดในยุคดิจิตอล และได้บังเอิญย้อนเวลากลับไปได้ในอดีตสมัยปีพ.ศ.2538 ยุครุ่งเรืองของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ ซึ่งที่นั่นก้องได้พบกับ พ่อแม่ตัวเองที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ และเขาต้องอยู่กับโลกที่เต็มไปด้วยดนตรีของอัลเทอร์เนทีฟ ซึ่งในยุคนั้นก้องได้พบกับส้ม หญิงสาววัยรุ่นที่เกิดในยุคนั้น  แต่ส้มก็ไม่ถูกชะตากับก้องตั้งแต่แรกพบ แต่แล้วส้มกลับเป็นผู้ทำให้ก้องได้รู้จักความรักแบบไม่ฉาบฉวยอย่างที่ก้องเคยเจอมาในยุคของตัวเอง  ความรักของทั้งคู่ก่อตัวขึ้นแบบผิดที่ผิดเวลา ทั้งคู่จะทำอย่างไรกับความรักครั้งนี้  และก้องจะสามารถกลับไปสู่ยุคปัจจุบันที่ตัวเองมาได้หรือไม่  อย่าพลาดชมภาพนยนตร์  “2538 อัลเทอร์มาจีบ”  เร็วๆนี้

ทางด้านผู้บริหารโมโนกรุ๊ป  คุณปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์  ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.โมโนเทคโนโลยี กล่าวว่า “ในแต่ละปีโมโนฟิล์ม จะมอบหมายให้โมโนพิคเจอร์เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยป้อนตลาดให้ในปีละ 1-2 เรื่อง ซึ่งหนังไทยเรื่องแรกของปีนี้ คือเรื่อง 2538 อัลเทอร์มาจีบ เป็นการทำงานที่วางแผนมานาน ตั้งแต่การเขียนบท พัฒนาบทให้มีความทันสมัย รวมถึงการคัดเลือกตัวนักแสดง ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาโมโนฟิล์มเกิดมาจากหนังไทย เราจึงอยากพัฒนาหนังไทยให้ออกมาถูกใจคนดูทุกกลุ่มให้มากที่สุดครับ ส่วนเรื่องนี้เรามีกำหนดเปิดกล้องปลายเดือนมิถุนายนนี้ และคาดว่าจะใช้เวลาในการถ่ายทำประมาณ 2-3 เดือน หลังจากนั้นก็จะเป็นในส่วนของโพสต์โปรดักชั่น ที่ต้องมีการตัดต่อ คาดว่าน่าจะได้ดูกันจริงๆ ปลายปีนี้ครับ”