เชื่อแล้วจ้าว่าพี่ๆ ทั้งคู่ไม่ได้คิดแค่ทำหนังพระเน้นความสนุกสนานเฮฮากันอย่างเดียว เพราะความตั้งใจอันแรงกล้าของตลกอัจฉริยะแห่งเอเชีย “เท่ง เถิดเทิง” และตลกซูเปอร์สตาร์อย่าง “โหน่งชะชะช่า” ที่ลุกขึ้นมาทำ “เท่งโหน่งจีวรบิน” ก็เพื่อที่จะชวนให้คนไทยได้ใกล้ชิดศาสนากันกว่าที่เคยดังสโลแกนหนังที่ว่า “ร่วมขัดเกลาความดีด้วยศรัทธา ขับเคลื่อน ความฮา ด้วยธรรมะสุดครื้นเครง” ว่าแล้ว “เท่ง โหน่ง” ก็เลยชักชวนพี่ๆน้องๆคนเมืองทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ พี่ป้าน้าอาหรือรุ่นไหนๆที่เคร่งเครียดจากหน้าที่การงาน จิตใจว้าวุ่นฟุ้งซ่าน ต้องการความสงบทางกายและใจ อย่างพึ่งร่มโพธิ์ร่มเงาของศาสนา ไม่ต้องเสียเวลาออกเดินทางออกนอกเมืองไปที่ไหนไกลๆ มุ่งหน้ามาที่นี่เลย วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 4 จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนพระราม 1 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนสงบกลางป่าคอนกรีต” ของชาวกรุงเทพที่มีชีวิตเร่งรีบ แต่ไม่เคยห่างไกล “ธรรมะ” และ “ศาสนา” เพราะที่นี้มีความน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิและอบรมกรรมฐานได้ตลอดทั้งวัน ส่วนใครที่สนใจจะแวะมาตักบาตรในตอน 7 โมงเช้าก็ยังได้ หรือจะถวายเพลตอน 10.30 น .ก็ดี
ว่าแล้วพี่เท่งพี่ โหน่งไม่พูดพล่ามทำเพลงชักชวนพี่ๆ สื่อมวลชนเข้าสู่บริเวณ “ศาลาพระราชศรัทธา” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุให้ผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้ เพื่อถวายสังฆทาน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ท่านเองก็ได้ให้ศีลให้พรแก่ “เท่ง-โหน่ง” รวมไปถึงบรรดาญาติโยมที่มานั่งวิปัสนากรรมฐานในวันพระวันนี้พอดี และเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ไหนๆ ก็ได้มีโอกาสเข้าวัดเข้าวา หลังจากบากบั่นกับคิวงานที่แน่นเอี๊ยดตลอด 7 วัน พี่เท่งพี่โหน่งก็เลยหาโอกาส นั่งสมาธิ ฟังธรรมไปในตัวซะเลย ท่ามกลางความสงบเงียบและสะดวกสบายบนศาลา เสร็จแล้วทั้งคู่ก็มุ่งหน้าสู่ “สวนป่าพระราชศรัทธา” ที่สงบและร่มรื่นมากๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของวัดเพื่อสักการะ” พระพุทธมหาธัมมจักรโกวาท” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่จะถูกนำไปประดิษฐานที่ประเทศอินเดียต่อไป ตามด้วยการหยิบเอาไม้กวาดมาปัดกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นเต็มพื้นที่ลานวัด ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญยอดฮิตที่ขาดไม่ได้ของเหล่าพุทธศาสนิกชนที่ต่างแวะ เวียนมากันอยู่เป็นประจำ เพื่อเป็นการบำเพ็ญประโยชน์และขัดเกลาจิตใจ พูดได้ว่าการมาวัดในวันพระวันนี้สร้างความชุ่มชื่นในจิตใจของทั้งคู่ได้เป็น อย่างดี และยังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างใน กรุงเทพสามารถใกล้ชิดกับธรรมะและรักการใฝ่ดีได้ทุกเวลา
“เท่ง : ก็อยากให้พี่น้องในกรุงเทพ อย่างผมอยู่ในกรุงเทพมา 29 ปียังนึกไม่ถึงว่าในกรุงเทพใจกลางเมืองจะมีวัดที่สงบ เป็นปอดของกรุงเทพ ต้นไม้เยอะมากเลย
โหน่ง : จริงๆ เป็นความสะดวกสบายของคนกรุงเทพด้วยนะ ที่ไม่สะดวกที่จะไปต่างจังหวัด นี่ก็เป็นกลางใจเมือง ขี่รถผ่านไปผ่านมารู้สึกเครียดๆ แวะเข้ามาได้นะครับ
เท่ง : มานั่งทำสมาธิ มากวาดลานวัด เพราะเมื่อสักครู่ ขนาดเราได้ฟัง 5 นาที 10 นาทีเราก็รู้สึกได้นะครับ เพียงแค่เราเดินเข้ามา รู้สึกว่าจิตใจมันจะเย็นนะ สงบ เพราะสถานที่นี้เป็นสถานที่สิริมงคล เพราะที่นี้ก็เป็นที่ของในหลวงที่ทรงพระราชทานจากสินทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อ ให้คนกรุงเทพได้มีโอกาสเข้ามานั่งปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ไม่ต้องไปไกลถึงวัดในต่างจังหวัด”
ก่อนกลับไปใช้ชีวิต ที่เร่งรีบท่ามกลางแสงสีและผู้คนที่อยู่ร่ายล้อมรอบตัวต่อไป “เท่งโหน่ง” ก็ไม่ลืมที่จะแวะไปสักการะ “พระสายน์” ซึ่งเป็นพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในบริเวณอุโบสถด้านหน้าของวัดปทุมวนาราม พร้อมกับถ่ายรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไปพร้อมกับเชิญชวนให้พี่น้องชาว กรุงเทพ ได้แวะมาสัมผัสกับความร่มรื่นของวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร ที่ได้ชื่อว่า “ดินแดนสงบกลางป่าคอนกรีต” เพื่อเติมพลังกายพลังใจต่อไป
โหน่ง : ก็อยากเชิญชวนพี่น้องคนกรุงเทพที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสเข้าวัดเข้าวา เวลาน้อยก็แวะมา ครึ่งวัน ครึ่งชั่วโมง เท่าที่เราจะมีเวลา มาสงบจิตสงบใจ แล้วกลับไปใช้ชีวิตเผชิญความวุ่นวายต่อไป”
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์