วันนี้รายการที่นี่หมอชิตมีนัดกับผู้กำกับหนัง “ทาสรักอสูร” ที่ควบตำแหน่งพระเอกด้วย “คุณหม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา พร้อมโปรดิวเซอร์ “คุณเอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา” และนางเอกของเรื่อง “คุณพิงค์กี้ สาวิกา ไชยเดช”
พี่ดู๋พิธีกรนักทุกคนมาพูดคุยกันถึงเรื่องชีวิตและการทำงานกันที่จังหวัดระยอง ซึ่งแขกรับเชิญทั้งสามคนถือเป็นการพักผ่อนจากการทำงาน จะคุยเฉยๆก็จะชิลเกินไปไป เลยขอพาเที่ยวกินร้านเก๋ๆ ที่บ้านระเบียงไม้ ที่ หาดบ้านเพ ชิม ไอศกรีมไข่เค็ม หมูหยองกันก่อนจะ พาไปบุกลุยสวนมังคุด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ให้สองสาวไปเรียนรู้วิธีทำมังคุดกวน และยังพาไปทำกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมกับเครื่องเล่นโหดๆที่ Strawberry Town จ.ระยอง ก่อนจะพาข้ามน้ำข้ามทะเลไปปักหลักพักผ่อนและพูดคุยกันที่ Le Vimarn Cottage & Spa อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด
แต่งานนี้คุณหม่ำคุยกับพี่ดู๋ว่า มีหนังภูมิใจนำเสนอ ถ้ามารายการ ขอสวมบทบาทในหนังเต็มที่ ให้พี่ดู๋ช่วยโปรโมตให้หน่อย เพราะเรื่องนี้ทุ่มเทมาก พิงค์กี้เห็นด้วยกระซิบบอกพี่ดู๋ว่า หนังเรื่องนี้ พี่หม่ำเต็มที่จริง เล่นสมจริงจนตัวหนูช้ำไปหมด ทั้งตบ ทั้งจูบ ถ้าอย่างนั้น ครั้งนี้พิงค์กี้ขอเอาคืน !! พี่ดู๋ กับเอ็มเห็นด้วย
มีการเซตฉากให้พี่ดู๋เดินทางถึงฝั่ง พร้อมกับ ผู้หญิงที่ถูกมัดมือ คลุมผ้าดำ ไม่รู้ว่าเป็นใคร ล้อเลียนหนัง ( ทาสรักอสูร ) คุณ หม่ำ แต่งตัวสมบทบาท เป็นนายหัวเพิ่ม คุณหม่ำเล่นคาแรกเตอร์ในหนัง สั่งทรมานผู้หญิงที่ถูกจับมาเต็มที่ ให้ลุกนั่ง ให้นอนกลิ้ง กลั่นแกล้งแบบฮาๆ แต่เมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่ตัวเองแกล้งทรมานอยู่เป็นเอ็มลูกสาว ก็หน้าซีดไปเพราะกลัวลูกงอนและกลัวเมียด่าที่ทำลูกเจ็บ
จากภารกิจง้อลูกสาวได้แล้วคุณหม่ำก็พามาเปิดแผงส้มตำริมทะเล เตรียมของกินก่อนจะมานั่งคุยกันเรื่องชีวิตและการทำงาน ซึ่งทุกคนก็พูดคุยกันอย่างออกรสเรื่องเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเรื่องทาสรักอสูร รวมทั้งความสนิทสนมแบบเพื่อนของเอ็มกับพิงค์กี้ที่มีมาสักพักก่อนจะได้มาร่วมงานกัน และยังพูดถึงหน้าที่ใหม่ของเอ็มกับการก้าวมาทำตำแหน่งโปรดิวเซอร์ให้กับหนังเรื่องนี้ของพ่อ ลองมาฟังเรื่องราวการร่วมงานกันของแขกรับเชิญทั้งสามคนกัน
“ คุณหม่ำ : คือผมก็อยากทำหนัง …. แล้ว เริ่มมาจากการที่เราอยากเปลี่ยนสไตล์ อยากตลกแบบดราม่า ซีเรียสนิดๆ ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบดูหนังไทยเก่าๆ ละครก็ดูบ้าง ก็เลยมาปิ๊งที่สไตล์หนังของพี่เปี๊ยกพิศาล ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจของการทำหนังเรื่องนี้นะ ก็เลยคิดว่าเอามาทำเป็นแบบฮาๆ ดีมั้ย เราไม่ต้องใช้คำหรูๆ ใช้คำง่ายๆ ให้อารมณ์เป็นภาพยนตร์รักหฤโหด โคตรมหาฮา ซึ่งเราไม่ได้ตบจูบๆ เหมือนเขา แต่ของเราเป็นคิวแอ็คชั่นเวอร์ๆ สวยๆ แทน
คุณเอ็ม : พอเริ่มเรื่องที่คุณพ่อบอกจะทำหนังเรื่องนี้ก็เลยเสนอตัวเองว่าอยากทำหนังเหมือนกัน ก็ขอเป็นโปรดิวเซอร์ได้ไหมจะได้เรียนรู้งานด้วย ทั้งในออฟฟิต หรือว่าในกองถ่าย เพราะแพลนว่าในอนาคตอยากจะเป็นผู้กำกับด้วย ก็เลยลองก้าวมาเป็นโปรดิวเซอร์ก่อนดีกว่าพูดอยู่หลายครั้ง กว่าพ่อจะยอม เพราะพ่อคิดว่าเราพูดเล่น อำหรือเปล่า จนต้องย้ำหลายๆรอบ พอย้ำปุ๊ปเขาก็เออสงสัยเอาจริง ก็เลยได้เข้ามาช่วยทำ
คุณพิงค์กี้ : ต้องขอบคุณเอ็ม เพราะว่ามันเป็นความฝัน เป็นความชอบส่วนตัวที่เราชอบวงศ์คำเหลาไง แล้วก็พูดกับแม่ว่าสักวันหนึ่งนะว่าเราอยากเล่นกับน้าหม่ำ จนกระทั้งเอ็มบอกว่าให้ลองมาแคสต์เรื่องนี้ ( เอ็ม : ก่อนหน้ากี้ไม่เคยคุยเรื่องงาน เรื่องหนังกับเอ็มเลย เอ็มก็ประทับใจว่า กี้ไม่ได้มาคบกับเราด้วยเรื่องงาน หรือว่าจะเข้าหาพ่อ เพราะเราเคยเจอคนประมาณนี้เยอะ )
คุณเอ็ม : เอ็มกับพ่อก็ได้แชร์ประสบการณ์การทำงานกันบ้าง เพราะเราเรียนมา ส่วนพ่อทำงานมาตลอด พ่อถามเสมอว่าทฤษฎีกับปฎิบัติมันเป็นอย่างไร ที่เมืองนอกเวลาทำงาน ถ้ามีปัญหาอะไรคนนั้นรับผิดชอบคนเดียว เราจะไม่ก้าวก่ายงานกันและกัน แต่ถ้าเมืองไทยทุกคนจะช่วยกัน เอ็มว่าที่นี่ทำงานแบบครอบครัว น่ารักกว่า แต่ว่าการทำงานที่นู่นดีกว่าเพราะว่าไม่มีคำว่ารุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่มีคำว่าประสบการณ์น้อยกว่าเยอะกว่า ทุกคนเท่าเทียมกันหมด ต่อให้คุณเข้ามาแล้วแสดงความคิดเห็นเราก็รับฟัง แต่ถ้าทำงานที่เมืองไทย บางทีก่อนเราพูดเสนอความเห็น เราอาจจะต้องเรียบเรียงคำพูดใหม่หมดเลย ให้มันซอฟต์มาหน่อย ไม่ฟังแล้วเหมือนมาสั่ง
พี่ดู๋ : ความยาก – ง่าย ของหนังเรื่องนี้ // สิ่งที่หนักใจ
คุณหม่ำ : บทเลิฟซีนนี่ลำบากมาก เล่นไม่ได้ สงสารพิ้งกี้ จะยกเลิกแล้วด้วย ทีมงานบอกพี่ ถ่ายไปก่อน ไม่เอาก็ไม่เป็นไร เพราะซีนนี้เป็นซีนสุดท้ายด้วย เราเอาไว้ทำใจ เลยไว้ซีนสุดท้ายเลย เปิดกล้องวันแรกมีให้กอดพิ้งกี้ มือสั่นเลย พอซีนสุดท้ายเราก็บอกพิงค์กี้ว่าเทคเดียวนะลูก เทคเดียวพอนะ น้าจะไม่เล่นอีกแล้วนะ .. พิ้งกี้ซ้อมเลย ซ้อมด่า ถึงเวลาเขาจำบทได้หมด แต่เรานี่สิ แอ๊คชั่นแล้วอ่ะ ต้องเล่นอ่ะ ต้องจูบเลย เลยบอกพิ้งกี้หนีให้ถึงที่สุดเพราะว่ามันไม่ได้รักกัน หนีให้ถึงที่สุดเดี๋ยวลุงตามไปเอง ( เครียดเล่นบทเลิฟซีนกับใครไม่ได้เลย เหงื่อตกตลอด )แล้วเรื่องนี้ต้องเป็นนายหัว เผ้าเผ้ายุ่ง ติดหนวดด้วย แล้วก็ต้องพูดภาษาใต้ เราก็พอพูดได้เพราะสมัยก่อนเคยอยู่ใต้
คุณพิงค์กี้ : กี้บอกเลยที่เล่นมา20ปี ความยากเรื่องนี้ยากที่สุดเพราะว่าเราคิดว่าดราม่ายากสุดในชีวิตแต่คอมเมดี้ยากกว่า เพราะว่าคอมเมดี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครทำได้ เรื่องนี้กี้ต้องด่าเก่งด้วย มันจะต้องมีจังหวะของมัน เวลาให้ด่า จะด่าแล้วขำ เอ็มก็ต้องมาช่วยซ้อมด่าให้บ้าง
แค่บางส่วนของการสนทนาก็น่าสนใจ ในรายการจริงสนุกยิ่งกว่า ติดตามชมกันได้ในรายการที่นี่หมอชิต คืนวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคมนี้ ทางช่อง 7
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์