เสียง สะท้อนจากคดีดัง ซึ่งทำเอาคนในวงการเทิงต่างร่วมกันโพสอินสตาแกรม รณรงค์แก้กฎหมาย และแน่นอนว่า ผู้ที่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ที่สุด คือ ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ที่อาสารวบรวมรายชื่อ ยื่นเปลี่ยนกฎหมายข่มขืนต้องประหาร จากการโพสอินสตาร์แกรมและยังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงความไม่ เหมาะสมบ้างบางประการ จริงอยู่ที่ ‘บุ๋ม ปนัดดา’ มีภาพลักษณ์ ที่ออกแนวเซ็กซี่ แต่เธอเองก็หันมาเอาจริงเอาจังกับการ รณรงค์ ในครั้งนี้ เพื่อปกป้องเด็กและสตรี และเพื่อสังคมที่ดีขึ้นในวันข้างหน้า

เหตุผลต่างๆ มากมายที่สร้างความกดดัน หลังจากที่โดนกระแสสังคม วิพากษ์วิจารณ์?

“ถามว่าท้อม้๊ย ก็ท้อสิ เราก็อยู่ของเราเฉยๆ ตั้งแต่หลังแถลงข่าวมาก็น้ำหนักร่วงไป 3 โล แล้ว มันกินไม่ได้นอนไม่หลับ นอนวันละแค่ชั่วโมงเดียวเอง บอกตรงๆ ว่าเครียดนะ เราก็แค่ตั้งใจดีพอออกมาแล้วเจอแบบนี้ มันก็เครียดไง ไม่คิดว่าจะเจอหนักขนาดนี้ เราก็แค่อยากจะทำในสิ่งดีๆ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยคุณก็ทำของคุณเองสิ หาดาราคนอื่นมาทำของคุณเองสิ แต่ไม่ใช่มาค้านเราแล้วก็ไม่ทำอะไร นี่คือสิ่งที่บุ๋มไม่เข้าใจ คุณแม่น้องแก้มบอกว่า…อย่า ให้เรื่องเงียบ ทำให้ถึงที่สุด อย่าให้เกิดกรณีอย่างนี้อีก แม่ของร้อง ทำให้คนเป็นแม่ด้วยกันมันพูดไม่ออก มันจุกเหมือนกัน พี่มาขนาดนี้แล้ว พี่ก็สู้คะ ถ้าพี่มามัวแต่แคร์ก็ไม่ได้นะ คือในสังคมเรามีคนอยู่ 3 กลุ่ม คือ คนที่รักเรา คนที่เกลียดเรา คนที่เฉยๆ กับเรา พี่ขอเอาเวลาตรงนี้กับความตั้งใจของพี่ ใส่ใจกับคนที่รักเราและคนที่เฉยๆ กับเราดีกว่า ทำไมพี่ต้องแถลงโพสใน IG บ่อยมาก เพราะพี่กำลังให้คนที่เฉยๆ ที่กำลังตัดสินใจอยู่เนี่ย เข้าใจว่าเจตนารมณ์ของพี่อย่างแท้จริงว่า…พี่ ไม่ได้ต้องการจะเล่นการเมือง เป็นดารารวยกว่านะคะ แล้วพี่ไม่ด้อะไรจากตรงนี้ พี่ไม่ได้ตังค์ซักบาท ดังกว่านี้ก็ไม่ได้เป็นนางเอก ที่พี่ทำทุกอย่าง ทั้งตังค์ ทั้งแรง ทั้งน้ำตา ทั้งความเสียใจ ทุกอย่าง เพื่ออนาคตของเด็กเท่านั้นเอง และคนอีกเป็นล้าน ตอนนี้ก็มีรายชื่อเข้ามาเป็นล้านแล้วค่ะ เกินแสนแล้ว ยังมีจากต่างประเทศอีกนะคะ ไม่ต่ำกว่า 8-9ประเทศ บุ๋มถอยไม่ได้แล้ว บุ๋มขอแคร์สังคมแรกมากกว่า คนที่ไม่ได้รักหรือคนที่เฉยๆ คนเกลียดเดี๋ยวค่อยมาเคลียร์กัน ตัวต่อตัวก็ได้ไม่ว่ากัน แต่อย่ามาทำแบบนี้มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ หรืออะไรก็ตาม เมื่อบุ๋มไม่ถ่ายชุดว่ายน้ำแล้ว บุ๋มไม่เซ็กซี่แล้ว คุณจะเดินตามบุ๋มมั้ย หรือคุณจะทำเองมั้ย บุ๋มก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว”

กับการแต่งตัวที่ดูจะไม่เหมาะสม?

“ คือ ชั้นเป็นดารา คุณแม่สุดเซ็กซี่ของเมืองไทย ที่คุณเรียกดิฉันกัน หุ่นอย่างดิฉัน ใส่เสื้อปิดคอยังเซ็กซี่เลย มันก็เจ็บเป็นนะ ไม่ใช่ไม่เจ็บ ถามว่ามันต้องใส่ใจมั้ย ขอใส่ใจเรื่องสำคัญกว่านี้ดีกว่า มันทำให้รู้สึกว่าเราถอยไม่ได้ ตอนนี้ก็รวบรวมแล้วพิมพ์รายชื่อกันด้วยค่ะ ทำบัญชีหางว่าว แล้วก็เดี๋ยวจะมีการส่งท่านประธาน คสช. อีกทีนึง”

นอกจากนี้ ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ยังเตรียมเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว เพื่อตอกย้ำความน่าเชื่อถือ เป็น กำลังใจให้เธอได้ต่อสู้กับกระแสสังคม ให้ก้าวไปสู่ในสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำ ‘บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี’ นั้น เมื่อในอดีตเธอคือนางสาวไทยสุดเซ็กซี่ ปี 2543เธอย่อมต้องทำทุกอย่างเพื่อสังคมได้อยู่แล้ว “ภาพลักษณ์หรือการแต่งกายไม่สำคัญเท่าการตั้งใจทำความดี และเป็นกระบอกเสียงลุกขึ้นมาเรียกร้องในครั้งนี้”

ความคิดเห็นของคนบันเทิงที่มีต่อกระแสการรณรงค์ในเรื่องนี้

ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ : 

“ใหม่ก็เป็นส่วนนึงที่รณรงค์นะคะ คิดว่าดีมาก เป็นกำลังที่ดีมากค่ะ จากที่ทุกคนนิ่งเฉย จะได้โชว์ว่านักแสดงอย่างพวกเราก็ทำได้ค่ะ”

สไมล์ โสรญา ฐิตะวชิระ Thestar8: 

“หนูว่าเรื่องนี้ มันน่าจะบอกได้ว่า มันเยอะไปแล้วนะ คือหนูดูข่าวมาสามวัน ทุกวันมีแต่เรื่องไม่ดี แล้วก็การกระทำกับผู้หญิง เดี๋ยวเด็กหาย เดี๋ยวผู้หญิงโดนข่มขื่น ซึ่งมันเกินไปแล้วมันควรจะออกกฎหมายเพื่อมาคุ้มครองผู้หญิงให้มากกว่านี้ได้ แล้ว คือมีเหยื่อหลายราย ไหนจะคนที่เค้าไม่บอกอีก บางคนก็ไม่ได้แจ้งความ มันควรที่จะมีกฎหมายออกมาได้แล้วว่าคนที่ข่มขืนต้องตายเพราะว่าถ้าจิตใจเป็น ขนาดนั้นก็ควรจะตายดีกว่า ค่ะก็สงสารน้องแก้ม ก็แสดงความเสียใจด้วยค่ะ คือแม่หนูดูข่าวร้องไห้เลยค่ะ เพราะมีลูกผู้หญิงด้วย เค้าก็เลยกลัว หนูเองก็เป็นห่วงน้องสาวหนูเหมือนกันค่ะ”

น้ำตาล บุศรัณย์ ทองชิว The star5: 

“ประหารก็ดีตรงที่คดีข่มขืนมันจะลดน้อยลง คนก็จะไม่กล้าทำ เพราะถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะต้องถูกประหาร ไม่มีใครอยากตายคนที่โดนกระทำ ถึงไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็น มันแย่มาก! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องพิสูจน์แล้วว่าเป็นคนผิดจริงๆ 100 % ไม่ใช่แค่แพะรับบาป”

ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล Hormones: 

“คือเรื่องกฏหมายหนูก็ไม่ทราบนะคะ แต่แค่รู้สึกว่ามันไม่ควรจะทำแบบนี้นะคะ เพราะว่าถ้าเป็นลูกหลานหรือคนใกล้ตัวก็คงไม่มีใครอยากให้เจอ อยากให้ทุกคนป้องกันตัวเองมากกว่านะคะ เราแก้ปลายเหตุไม่ได้ก็แก้ที่ต้นเหตุ แบบอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ให้ไปในที่ที่มีคนเยอะๆ เข้าไว้”

เก้า สุภัสสรา ธนชาต Hormones: 

“จริงๆ หนูอยากให้แบบว่าให้เปลี่ยนมาตรการใหม่ แบบกฎหมายใหม่เลย เพราะว่าข่มขื่นเนี่ยะมันไม่ใช่เฉพาะเด็กนะ มันทำลายสภาพจิตใจคนรอบข้างเยอะมาก ยิ่งอย่างน้องเค้าโดนทำร้ายนี่ พ่อแม่เค้าก็เลี้ยงมาเนอะกว่าจะโต เค้าคงเสียมาก หนูก็เห็นด้วยนะคะที่ร่วมกันรณรงค์ในเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง”

มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล Hormones: 

“ความรู้สึกของผมนะ ตอนอ่านข่าวแบบไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยฮะ คือเด็กก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ คิดดูชีวิตคนคนนึง แล้วเค้ายังเด็กอยู่ เค้ากำลังจะเติบโต มีอนาคตที่ดีรออยู่ คือเค้าน่าจะมีสติน่ะครับ คือมันไม่ควรทำ คือบทลงโทษเนี่ย ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมาย ผมว่าเค้าควรได้รับโทษ จะมากจะน้อยยังไงเค้าก็ได้รับผลกรรมที่เค้าทำลงไปอยู่แล้วล่ะครับ”

กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ Thestar6:

“ผมว่าดีนะครับ มันเป็นเรื่องของประชาธิปไตยด้วยแล้วก็คนเราสามารถมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น กันได้ อะไรที่ไม่ดี ไม่เหมาะสม ก็ควรจะบอกต่อๆ กัน อยากให้ปรับปรุงแก้ไขว่ามันสามารถมีกฎหมายที่ทำให้คนแบบนี้กลับมามีความคิด ที่เป็นคนดีได้มั้ย หรือว่าตักเตือนเค้าว่าอย่าทำได้มั้ย อันนี้ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี ผมว่าคนไทยรู้ครับว่าอะไรคือผิดชอบชั่วดี แล้วจะสามารถที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมได้”

กั้ง วรกร สิริสรณ์ Thestar10: 

“คือทุกคนคงรู้สึกสะเทือนใจอยู่แล้ว แต่คราวนี้มันรุนแรงมาก เลยอยากให้มีโทษให้มากขึ้น แต่ถึงโทษจะประหารชีวิตหรือจะเป็นยังไง มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่านักกฎหมายเค้าจะเห็นเหมาะสมมั้ยมากกว่า แต่ถ้าถามกั้ง คือตอนได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกว่า เห้ย…! มัน เกิดขึ้นในเมืองไทยเหรอ มันรุนแรงมากเลยนะ ก็ดีนะครับว่าทุกคนมีความพยายามช่วยกันรณรงค์ ก็อยากให้ลองดูว่าจะมีโทษได้แรงกว่านี้มั้ย”

สิงโต สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล Thestar5: 

“ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ร่วมรณรงค์ครับ โดยเฉพาะคดีที่ข่มขื่นเด็กแบบนี้ อยากให้มีบทลงโทษที่เข้มงวดหน่อย อยากให้มีการประหารชีวิตไปเลย รู้สึกว่าส่วนใหญ่คนเคยก่อคดีแบบนี้ ที่ทำแบบนี้จะเคยทำมาก่อนแล้ว ส่วนใหญ่จะมาทำซ้ำสอง อาจจะพ้นโทษมาแล้ว คือมันไม่คุ้มกับชีวิตที่สูญเสียไป คุณพ่อคุณแม่ที่เค้าเลี้ยงดูมาแล้วมาโดนทำลายจากคนที่ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี อยากให้เด็ดขาด ถ้าจำคุกก็ให้ตลอดชีวิตไปเลยจะได้ไม่ต้องมาทำลายชีวิต ทำลายครอบครัวมาทำร้ายน้องๆ หรือคนอื่นๆ สิงโตก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ครับ”

ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม Thestar9: 

“ข่มขื่น เท่ากับ ประหาร ใช่มั้ย ผมมองว่ามันดีนะ มันป้องกันจริงๆ สำหรับคนที่เป็นลูกผู้หญิง เพราะผมรู้สึกว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อันตรายนะ น่ากลัวมากๆ เวลาไปไหนมาไหนคนเดียว ยิ่งฆ่าข่มขื่นนี่ยิ่งควรประหาร คนที่โดนทั้งกระทำทางจิตใจโดยการข่มขื่นแล้วยังจะปลิดชีวิตจริงๆ ผมเห็นด้วยเลยกับการข่มขื่นแล้วประหาร”

ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล

“ผมก็เห็นด้วยในเชิงของกฎหมายนะครับผม คือโอเคคนที่ทำผิดควรจะโดนลงโทษเป็นอย่างยิ่ง ก็คงจะต้องโดนลงโทษอย่างสาสมอย่างที่เค้าได้กระทำไว้ แต่ทีนี้มันก็คิดได้หลายแง่มุม มันอาจจะมีกรณีอย่างเช่นสมมติว่าผู้หญิงเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมา ผู้ชายไม่ได้ทำอะไร ไม่มีหลักฐาน หรือด้วยอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเกิดความเสียหายตรงนี้ขึ้นมา แล้วเค้าโดนลงโทษอย่างหนัก มันก็อาจจะต้องดูเป็นเคสบายเคสไป แล้วแต่กรณีครับผม”

เพิ่มเติมความรู้จากภัยสังคม…

โดย…แพทย์หญิง ชลธิดา เอี่ยมสำอาง สูตินรีเวช

ในกรณีที่ผู้หญิงที่โดนล่วงละเมิดทางเพศนั้นจะอายไม่อยากบอกใคร ?

–  เค้าคงมีเหตุผลของเค้า ซึ่งอาจจะเปิดเผยไม่ได้ เพราะกลัวคนใกล้ตัวจะรู้แล้วรับไม่ได้ อย่างเช่น คนรัก อาจจะโดนรังเกียจ หรือบอกเลิก”

–  กลัวครอบครัวเสียใจ ไม่อยากให้รู้เพราะจะกระทบกระเทือนจิตใจ”

–  ที่ทำงาน มีคนนินทา อาจจะอยู่ในสังคมไม่ได้โดยเฉพาะถ้าคนร้ายเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เพื่อนรู้จัก”

เมื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ ควรหาใครซักคนที่ไว้ใจได้มากที่สุด เป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้ อย่างเช่นพ่อแม่พี่น้องหรือเพื่อนสนิท และไม่ควรอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย เพราะมันจะเป็นการทำลายหลักฐานชิ้นสำคัญ ถ้าอาบน้ำแล้วจริงๆ ก็ยังเก็บได้อยู่ ส่วนใหญ่หลักฐานที่เราเก็บได้จะอยู่ในช่องคลอด ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเราชำระล้างแค่ภายนอก ในช่องคลอดมันก็ยังอยู่ แต่ก็อยากให้มาตรวจเร็วนิดนึง ภายใน24 ชั่วโมงเพื่อที่จะเก็บเชื้อสเปิร์มได้ ส่วนบาดแผลรอยฟกช้ำไม่เป็นไรเพราะเก็บหลักฐานได้อยู่แล้ว

สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก?

คือต้องขจัดความอายแล้วความกลัวออกไปก่อน เพราะที่โรงพยาบาลจะมีระบบป้องกันเป็นอย่างดี ในกรณีล่วงละเมิดทางเพศนี้เค้าจะดูแลเราเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าเค้าจะต้องทำแฟ้มต่างหากสำหรับคดีนิติเวช จะไม่มาปะปนกับประวัติการเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรของเรา ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเห็นประวัติของเรา หรือถ้ามีการขอประวัติเพื่อไปทำประกันแล้วเค้าจะไม่มีทางเห็นของเรา คือเค้าจะแยกต่างหากเลย แล้วเค้าก็จะพาไปคุยในห้องที่มิดชิดเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย ในระหว่างที่ตรวจไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นหมอผู้ชายหรือผู้หญิงเพราะว่าเค้าจะ มีพยาบาลยืนอยู่ด้วย สามารถพาญาติเข้าไปด้วยได้

ทางโรงพยาบาลก็จะประเมินภาวะความรุนแรงหรือไม่ บางคนอาจมีเลือดไหลโชก บางคนอาจจะกระดูกหักเค้าก็จะรักษาจุดนั้นให้เราก่อน จากนั้นเรามาซักประวัติกันก็จะให้เล่าเหตุการณ์ว่าเป็นยังไง มีการโดนมอมมั้ย ก็จะมีการเจาะเลือดดูว่ามีสารมึนเมา ยาระงับปราสาทเป็นต้น ต่อมาก็มีการตรวจร่างกายทั่วไปก่อนว่ามีแผลฟกช้ำดำเขียวอะไรบ้าง เก็บเซลล์ เก็บDNA หรือ ผิวหนังของคนร้าย เพื่อเก็บเอาไว้ หรือถ้ามีปล่อยเชื้ออสุจิเข้าไปในปากก็จะเอาไม้พันสำลีไปเช็ดเป็นต้น พอตรวจร่างกายภายนอกเสร็จแล้วก็จะมาถึงขั้นตอนการตรวจภายในซึ่งไม่ต้องกลัว เจ็บเพราะว่าหมอจะรู้อยู่แล้วเค้าก็จะทำอย่างเบามือที่สุด อันนี้คือขั้นตอนสำคัญเพราะว่า เค้าจะเก็บน้ำในช่องคลอดดูว่ามีตัวสเปิร์มมั้ย ทั้งสปิร์มที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต แล้วแต่ว่าจะมาตรวจเร็วหรือช้า โดยปกติสเปิร์มจะมีชีวิตอยู่ภายใน 24ชั่วโมง หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ ถ้าเป็น 24 ถึง 72 ชั่วโมง สิ่งที่ช่วยได้คือน้ำหล่อลื่นของผู้ชาย จะตรวจได้ถึง 72 ชั่วโมง แต่ถ้าใส่ถุงยางอาจจะเก็บอะไรไม่ได้เลย”

จากนั้นเข้าสู่การรักษาคือ…

–  ป้องกัน การติดเชื้อ พวกเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบ เชื้อกามโรคต่างๆ หนองใน ซิฟิริส ก็จะมียาให้ป้องกันการติดเชื้อ และไวรัสตับอักเสบ บี ถ้าเรามีภูมิป้องกันอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรายังไม่ได้ฉีคุณหมอก็จะแนะนำให้ฉีดไปเลย ซึ่งพอฉีดครบคอร์สแล้วมันจะเป็นการป้องกันไปตลอดชีวิตเลย

–  เชื้อ HIV ก็จะมีแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น จะให้ในคนไข้ที่จะมีความเสี่ยงสูงเท่านั้น เช่นโดนรุมโทรมจากหลายคน หรือมีแผลฉีกขาดทั้งฝ่ายเราและฝ่ายเค้า หรือว่า โดนล่วงละเมิดที่ทวารหนัก ถ้าเป็นกลุ่มนี้ก็จะให้ยาไป

–  ส่วน การป้องกันการตั้งครรภ์ ก็จะซักประวัติเรื่องประจำเดือนและการคุมกำเนิด เพื่อที่จะดูแนวโน้มว่าจะมีโอกาสในการตั้งครรภ์มั้ย ถ้ามีโอกาสก็จะให้ยาคุมฉุกเฉิน

ส่วนใหญ่ตามขั้นตอนหลังจากตรวจรักษาเรียบร้อยแล้ว จะนัดให้ไปพบกับคุณหมอด้านนิติเวชแล้วจะลงประวัติให้ตำรวจเอง สรุปรายละเอียดอีกทีนึง แล้วค่อยคิดว่าจะแจ้งความหรือไม่ พยายามอย่าให้เกิน 3 วัน ยิ่งมาเร็วได้ยิ่งดี

จริงๆ อยากให้มาพบหมอเพื่อประโยชน์ของตัวคนไข้เอง เพื่อเป็นประโยชน์ในด้านของคดีความเพื่อที่จะจับคนร้ายได้ คือถ้าไม่มามันก็จะมีหลักฐานที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเปอร์เซ็นส่วนใหญ่คนร้ายมักจะเป็นคนรู้จัก บางทีเราอาจจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นคนร้ายเป็นใคร เพราะว่าแค่คำพูดของเรานั้นไม่เพียงพอ สิ่งที่ช่วยเราได้คือหลักฐาน อยากให้นึกถึงตัวเราก่อนเป็นอันดับแรก คนไข้อาจจะมาคนเดียวเพื่อรักษาป้องกันการติดโรค ถ้าไม่อยากที่จะบอกใครจริงๆ ก็สามารถมาคนเดียวได้ จากนั้นจะฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้นก็อยู่ที่เราตัดสินใน เพราะว่าหลักฐานมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป การเก็บหลักฐานไว้ก่อนใช้หรือไม่ใช้ไม่เป็นไร ยังไงมันก็จะอยู่ในแฟ้มลับของโรงพยาบาล คนอื่นก็ไม่สามารถมาดูได้ ถ้าคนไข้ที่มีครอบครัวเข้าใจและคอยดูแลก็ไม่ต้องถึขั้นไปสถานบำบัด แน่นอนมันต้องเศร้าแต่ว่าถ้าเราค่อยๆ ฟื้นตัวเองได้ พยายามอย่าไปคิดโทษตัวเอง ให้ลืมๆ มันไป จริงๆ มันอยู่ที่ใจเราเองว่าจะทำใจต่อสู้กับมันได้แค่ไหน กำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้างสำคัญมากคะ

สังคมจะดีได้ก็ขึ้นอยู่กับการสามัคคีร่วมมือกันของทุกคนและจากหลายฝ่าย ส่วนคนบันเทิงนั้นก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเจอการต่อต้านจากกระแสสังคมแค่ไหน ยังไงทุกคนก็ขอขอบคุณ ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ที่ปลุกกระแสในเรื่องนี้อย่างจริงจัง