
งาน Tofu Music Festival 2014 กำลังจะระเบิดความมันส์ขึ้นในวันนี้!! วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี จัดโดย บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ร่วมกับ สถานีเพลงเอเชี่ยนออนไลน์ที่ดีที่สุด โทฟูป็อป เรดิโอ (TofuPop Radio) ซึ่งก่อนจะไปสนุกกับความมันส์เต็มรูปแบบ ศิลปินวง GOT7, Lucifer, SuG และ TEMPURA KIDZ ได้เปิดห้องให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง มาทำความรู้จักกันทีละวงค่ะ
GOT7
วงบอยแบนด์เกาหลีน้องใหม่จากค่าย JYP Entertainment ที่เพิ่งเดบิวต์ไปเมื่อเดือนมกราคม 2014 ด้วยเพลง “Girls Girls Girls” มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ได้แก่ JB, Jr., Mark, Jackson, Youngjae, Yugyeom และสมาชิกคนไทยในวงคนเดียว Bambam และซิงเกิ้ลล่าสุดจากมินิอัลบั้มที่สองของพวกเขา “A”
มาถึงวันแรกก็เจอแฟนๆ มาต้อนรับที่สนามบินอย่างล้นหลามเมื่อถามถึงกระแสตอบรับ หนุ่ม JB เป็นตัวแทนตอบว่า “กระแสตอบรับดีมากครับ ทุกคนรู้จักพวกเรากันหมดเลย ต้องขอบคุณมากจริงๆ ครับ” ส่วนหนุ่มไทยหนึ่งเดียวของเรา Bambam ก็บอกว่า “ไม่ได้กลับไทยมาเกือบปีแล้วครับ ตั้งแต่หลังเดบิวต์” และเล่าให้ฟังถึงการใช้ชีวิตอยู่ที่เกาหลี “ผมอยู่เกาหลีโอเคนะครับ ไม่ต้องปรับตัวมาก เพราะมีวัฒนธรรมเป็นพี่เป็นน้องเหมือนกับในไทย ผมเป็นน้องเล็กครับ” “ส่วนการทำงานคนเดียวไม่กดดันครับ เพราะมีพี่(นิช)คุณช่วยอยู่ข้างๆ ตลอดเลยครับ”
การทำงานของหนุ่มๆ ที่รวมกันถึง 4 เชื้อชาตินั้นต้องมีการปรับตัวเรื่องภาาาอะไรบ้างมั๊ย ?
Bambam: ตอนแรกติดขัดนิดนึงเพิ่งเป็นครั้งแรกครับ (หัวเราะ) ตอนแรกมาจากต่างประเทศกันก็จะมีเรื่องภาษากับวัฒนธรรมนิดหน่อย ตอนนี้โอเคแล้วครับ เก่งกันทั้งภาษาเกาหลีและอังกฤษด้วย … ตื่นเต้นครับ (ยิ้ม)
Jackson: ไม่ ได้มีปัญหามากเรื่องวัฒนธรรม แต่จะมีบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจคือในเกาหลีเวลามีคนมาหาแล้วจากไปก็จะมีคำ ทักทาย แต่ในฮ่องกงจะไม่มีครับจะมาจะไปก็ไปได้เลย แล้วอย่างในเกาหลีจะมีเรื่องพี่น้อง รวมถึงเรื่องการนับปีเกิดที่ไม่เหมือนกัน เจอครั้งแรกไม่ค่อยเข้าใจครับ
และพลาดไม่ได้กับการถามถึงการมาเยือนไทยของศิลปินต่างชาติว่าจะรู้สึกอย่างไร หรือนึกถึงอะไร เมืองพูดถึงเมืองไทย
Youngjae: ช้างครับ
Yugyeom: ต้มยำกุ้ง
Jackson: แตงโมปั่น
JB: มาเมืองไทยครั้งแรกมีแฟนๆ มาต้อนรับที่สนามบินเยอะมาก เพราะแบมแบมหรือเปล่า ( Bambam: ไม่ๆๆครับ)
แบมแบมเคยสอนภาษาไทยเพื่อนๆบ้างหรือเปล่า?
Yugyeom: รักนะจุ๊บๆ
Jr. : “สวรรค์ชั้นเจ็ด” คือแบมๆชอบร้องเพลงนี้ที่เกาหลี พวกเราเลยติดคำนี้เลยครับ
Jackson: รู้จัก GOT7 ไหมครับ
ส่วนความรู้สึกที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตในเมืองไทยครั้งแรก หนุ่ม Yugyeom เป็นตัวแทนตอบว่า”เป็นเกียรติมากครับ ดีใจมากที่ได้มาร่วมงานครั้งนี้ รู้สึกขอบคุณมากที่เชิญพวกเรามาครับ” และเมื่อถามถึงเซอร์ไพรส์และการเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ Bambam บอกว่า “รอบนี้ซ้อมหนักกว่ารอบอื่นๆ เลยครับ ก่อนหน้านี้กลับมาจากญี่ปุ่น ก็ซ้อมข้ามคืน แล้วมาถึงไทยเลยครับ ส่วนเรื่องเซอร์ไพรส์บอกไม่ได้จริงๆ ครับ มาดูกันพรุ่งนี้ดีกว่า” “พวกเราก็เป็นรุ่นน้องของพี่ๆ 2PM ใช่ไหมครับ เราก็จะตั้งใจและทำโชว์ออกมาให้ดีที่สุดครับ”
Lucifer
วงร็อคสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง “Kaikan Pharse” ที่ชาวไทยรู้จักกันในชื่อ “จังหวะร็อคดนตรีรัก” มีสมาชิก 5 คนได้แก่ Santa, Yuki, Atsuro, Towa และ Makoto ทั้งหมดได้เปิดตัวในปี 1999 พวกเขามาเยือนไทยครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว Makoto เป็นตัวแทนบอกว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งที่ประทับใจที่สุดเพราะปีนี้เป็นปีที่ 15 ของพวกเรา และยังได้มารวมตัวกันเป็นพิเศษเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยครับ” และยังเล่าถึงการมาเมืองไทยบ่อยๆ ของตนเองด้วยว่า “ผมมาถ่ายภาพยนตร์แล้วก็ได้นั่ง BTS ด้วย ผมมี Rabbit Card ด้วยนะครับ (รถไฟเมืองไทยต่างกับญี่ปุ่นยังไง) มันเป็นโมโนเรลครับ ผมชอบที่อโศกมากที่สุดครับ มีห้าง Terminal 21” และ “ที่เมืองไทยนวดถูกมากเลยครับ ผมเลยชอบนวดมาก”
– เมื่อถามถึงภาษาไทย
Makoto: จริงๆแล้วผมเป็นแค่คนไทยที่พูดญี่ปุ่นเก่งครับ (ยิ้ม) “จริงๆ (พูดไทย)”
Towa: “อร่อยมาก”
Yuki: “ไม่ใส่ผักชี”
Atsuro: “เผ็ดอร่อย” (หัวเราะ)
– มาเมืองไทยหลายครั้งแล้ว มาครั้งนี้อยากทำอะไรบ้างนอกจากนวดกับกินอาหารไทย?
Yuki: อยากไปวัดครับ วัดไทยสวยงามมาก
Atsuro: อยากไปล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยาครับ
Santa: ยังนึกไม่ออกเลยครับ
Towa: ผมชอบวิ่งจ๊อกกิ้งครับ เลยอยากวิ่งรอบเมือง จริงๆ แล้วผมอยากไปทะเล พัทยาไรงี้ ผมชอบทะเลมากเลย แต่คราวนี้ไม่ค่อยมีเวลาอาจจะไม่ได้ไปครับ
– อัพเดทผลงานสมาชิกแต่ละคน
Atsuro: ผมทำงานเกี่ยวกับเบื้องหลังเป็นซาวน์โปรดิวเซอร์ครับ
Santa: ไปเป็นมือกลองซัพพอร์ตให้ศิลปินอื่นๆ ครับ
Makoto: อย่างที่รู้กันก็มีวง TRICK แล้วก็งานภาพยนตร์ครับ
Yuki: มีวงดนตรีสองวงครับ Rayflower กับ Acid Black Cherry ครับ แล้วก็จะไปซัพพอร์ตวงอื่นด้วย
Towa: ทำงานคล้ายๆกับเพื่อนๆครับ
Makoto: ผมอยากให้โทวะออกมาเป็นเหมือนดารานักแสดงครับ (แนวไหน?) ใครสนใจก็เรียกไปได้เลยครับ (อยากเล่นแนวไหน?) หนังตลกครับๆๆ รับบทประมาณว่าเป็นอาจารย์มหาลัยมีความกุ๊กกิ๊กกับเด็กนักเรียนอะไรแบบนี้ ครับ (หัวเราะ)
– และถามถึงคอนเสิร์ตครั้งนี้
Makoto: ตั้งแต่คราวที่แล้วมีแฟนๆคนไทยมาดูพวกเราเยอะมากเลย ในครั้งนี้เราก็จะเตรียมเพลงฮิต เพลงที่ทุกคนร้องตามได้ อยากให้เป็นไลฟ์ที่ทุกคนได้มาสนุกกันมากๆ ครับ
-ฝากผลงาน Lucifer ให้กับแฟนๆชาวไทยหน่อย?
Makoto: แฟนๆ ชาวไทยติดตามพวกเรามานานมากแล้ว ผมก็จำแฟนๆ ได้ด้วยนะครับ และผมก็จะทำไลฟ์ครั้งนี้ให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความรักของแฟนๆ ทุกคนครับ
SuG
วงวิชวล ร็อค “ซัคกุ” ประกอบไปด้วย Takeru ร้องนำ, Masato กีตาร์, Yuji กีตาร์, Chiyu เบส และ Shinpei กลอง ก่อตั้งวงเมื่อปี 2006 ด้วยแนวเพลงที่เรียกว่า Heavy Positive Rock ที่มีความหนักหน่วงไม่แพ้รุ่นพี่ แถม SuG ยังดูแลส่วนของการทำเนื้อร้อง ทำนอง และดนตรีเองทั้งหมดอีกด้วย พวกเขามาเมืองไทยบ่อยมากครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 หลังจากไม่ได้มา 2 ปี หนุ่มๆ คิดว่าอะไรเปลี่ยนไป Takeru บอกว่า “คราวนี้ต้มยำกุ้งอร่อยกว่าเดิมครับ” และครั้งนี้ Chiyu “ประทับใจได้นั่งรถไฟฟ้า BTS เพราะรถติดน่ะครับ ส่วนที่อยากทำก็อยากไปขี่ช้าง”
– สมาชิกแต่ละคนพูดไทยได้ไหม?
Takeru: ขอบคุณครับ
Masato: เท่ห์
Chiyu: สวัสดีครับ
Yuji : ไม่เป็นไร
Shinpei : ผมรักคุณ
Takeru : ข้าวมันไก่
มาคราวนี้ Takeru บอกว่า “คราวนี้เราเพิ่งออกเพลงใหม่ชื่อ เบบี้ เป็นแดนซ์ฤดูร้อน เพลงจะสมัยใหม่มากกว่าเมื่อสองปีที่แล้ว” Yuji พูดถึงแรงบันดาลใจเพลงใหม่ๆ ว่า “ใช้ความรู้สึกที่เล่นคอนเสิร์ต เอามาเป็นแรงบันดาลใจ” การได้มารวมคอนเสิร์ตครั้งนี้ Chiyu บอกความรู้สึกว่า “ฮอลคอนเสิร์ตใหญ่มาก รู้สึกอยากจะเล่นแล้ว” และ Takeru บอกถึงการเตรียมตัว “คิดว่าจะมีแฟนเคป้อบมาเยอะ ก็เลยคิดว่าเอาเพลงที่แดนซ์ได้มาน่ะครับ” พร้อมทั้งเชิญชวนแฟนๆ “พวกเราเฝ้ารอที่จะเล่นคอนเสิร์ตนี้มานาน ใส่ความรู้สึกมาเต็มที่ อยากให้มาเจอกันครับ”
TEMPURA KIDZ
ศิลปินญี่ปุ่นวัยกระเตาะ ที่มารวมกันแดนซ์กระจาย เปิดตัวเมื่อปี 2013 ด้วยสมาชิกวง 5 คน Yu-Ka, Karin, Pi-Chan, NaNaHo และ AO ซึ่งมีเพลงฮิตอย่างสนุกๆ อย่าง “Cider Cider” ให้เต้นกัน ซึ่งทั้ง 5 คนยังอยู่ในวัยเรียน (15-16ปี) จึงต้องถามถึงการแบ่งเวลาการเรียนกัการทำงาน NaNaHo เป็นตัวแทนตอบว่า “พยายามตั้งใจเรียน หาเวลาว่างเท่าที่มีเพื่ออ่านหนังสือให้มากที่สุด อย่างตอนเวลาย้ายที่อยู่บนรถบนรถไฟค่ะ”
– ถามถึงแรงบันดาลใจในการเต้น
Karin: แต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปค่ะ อย่างฉันเต้นมาตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเพื่อนๆ ชอบเลยไปเต้นกับเพื่อนๆ ค่ะ
NaNaHo: เริ่มมาตั้งแต่ 4 ขวบค่ะ เพราะแม่เป็นครูสอนเต้น เท่าที่จำความได้ก็เต้นไปกับแม่แล้วค่ะ
Pi-Chan: ผมเริ่มตอน 4 ขวบเหมือนกัน ได้ดูดีวีดีนักร้องแล้วก็อยากเต้นตาม
Yu-Ka: เริ่มตั้งแต่เล็กๆ เหมือนกัน ตอนนั้นเรียนบัลเล่ต์มาก่อน พอดีได้ไปเห็นการเต้นฮิพฮอพ ก็เลยเลิกเรียนบัลเล่ต์แล้วมาเรียนฮิพฮอพแทนค่ะ
AO: เริ่มจากดีวีดีของศิลปินเหมือนกันค่ะ เลยเต้นตาม
ให้เล่าเรื่องสนุกๆ ระหว่างที่ทำงานกัน NaNaHo เล่าว่า “มีครั้งนึงที่พวกเราไปออกทีวีปกติวิกเราจะติดกิ๊ฟไว้แน่นมากเมื่อไม่ให้มันหลุด เวลาแดนซ์สะบัดหัว แต่ตอนซ้อมแค่วางไว้บนหัวเฉยๆ ปรากฏว่าตอนเต้นวิกกระเด็นไปบนเวทีเลยค่ะ (หัวเราะ)” และถามกึงการปรับตัวของหนุ่มน้อยคนเดียวในวง Pi-Chan บอกว่า “พวกเรารู้จักกันมานานแล้วและสนิทกันมากก็เลยจะไม่แบ่งกันว่าเป็นผู้หญิงผู้ชายได้ละลายพฤติกรรมกันไปหมดแล้วครับ”
และมาเมืองไทยทั้งทีก็ต้องถามอะไรที่เกี่ยวกับประเทศไทย Karin บอกว่า “ตึกกับแท็กซี่มีสีสันเยอะมากเลยค่ะ” Yu-Ka ตอบตามวัยเลยว่า “อยากไปดรีมเวิลด์ค่า” ส่วนอาหารไทย “ชอบแกงเขียวหวาน อร่อยมากเลยค่ะ”
และการที่ TEMPURA KIDZ ได้มาขึ้นคอนเสิร์ต เวทีเดียวกับศิลปินหลายคนมาก อย่าง Lucifer, SUG, 2NE1, GOT7 แล้วต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า? Yu-Ka ตอบแทนเพื่อนๆ ว่า “การที่ออกมาแสดงต่างประเทศถือเป็นการทำความฝันให้เป็นจริงค่ะ และได้มาแสดงร่วมเวทีเดียวกันกับ 2NE1 ซึ่งมีชื่อเสียงมากด้วย ก็อยากจะให้ทุกคนมาร่วมสนุกไปกับพวกเราค่ะ” และยังฝากให้ติดตามผลงานด้วย “ข่าวสารของพวกเราสามารถดูได้ในทวิตเตอร์และเว็บไซต์หลักค่ะ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีเพลงใหม่ออกซึ่งเป็นดิจิตอลซิงเกิ้ล ทำกับวงอื่นด้วย ท่อนแร๊พสนุกมากเลยค่ะ” NaNaHo เสริม “แล้วก็จะมีเอ็มวี Tempura Kidz ที่อัพใน Official Channel ของเราด้วยค่ะ” ส่วน Yu-Ka ฝากทิ้งท้ายว่า “ดีใจมากเลยค่ะที่ได้มาไทย แม้ว่าตอนนี้แฟนๆ ชาวไทยจะไม่ค่อยรู้จักพวกเรามาก แต่เราจะใช้คอนเสิร์ตในครั้งนี้พรีเซ็นต์ตัวพวกเราเอง และหวังว่าจะได้กลับมาอีกค่ะ”
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ในงานจะได้พบกับศิลปินดังระดับแถวหน้าของเกาหลีอย่าง 2NE1 ปิดท้ายคอนเสิร์ตอีกด้วย ใครยังไม่มีบัตรอย่ารอช้า สามารถซื้อบัตรได้ที่ Thai Ticket Major ทุกสาขา หรือที่ www.thaiticketmajor.com บัตรราคา 2,000 / 2,500 (ยืน) / 3,000 / 4,000 (ยืน) และ 4,500 บาท
บันทึกภาพ: STARUPDATE.COM