นับเป็นอีกหนึ่งรายการยอดนิยมที่คนไทยเฝ้าเกาะติดหน้าจอรอชมกันทุกปี สำหรับรายการระดับโลกที่สนับสนุนทุกความกล้าอย่าง “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์” ที่ปัจจุบันมีเดอะ วินเนอร์ที่มาพร้อมกับพรสวรรค์และความกล้าเต็มพิกัดจนสามารถชนะใจคนดูทั้งประเทศไปแล้วถึง 4 ทีม มาทบทวนความจำกันหน่อยดีกว่าว่า แชมป์แต่ละซีซั่นนั้น ใครเป็นใครกันบ้าง!?

ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย สาวน้อยเสียงสวรรค์กับทาเลนต์ร้องเพลงโอเปร่า: แชมป์คนแรกของ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์บันดาลชีวิต โดยซันซิลและเรโซนา”

ครั้งแรกกับรายการประกวดพรสวรรค์ระดับโลกที่โด่งดังที่สุดในปี 2554 เมื่อยูนิลีเวอร์ได้ซื้อลิขสิทธิ์รายการ “ก็อตทาเลนต์” เข้ามาในประเทศไทย พร้อมเปิดรับสมัครทาเลนต์ชาวไทยทั่วประเทศมาโชว์ความสามารถที่ไม่จำกัดทั้ง เพศ อายุ และรูปแบบเป็นประเทศที่ 43 ของโลกและเป็นประเทศที่ 5 ของเอเชีย ภายใต้การสนับสนุนของแบรนด์ ซันซิล และเรโซนาในรายการ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์บันดาลชีวิต โดยซันซิลและเรโซนา”โดยผู้ชนะในซีซั่นแรกคือสาวน้อยลูกครึ่งไทย-อเมริกัน “ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย” วัย 13 ปีกับโชว์ร้องเพลงโอเปร่าแสนไพเราะ โดยเธอได้ฝากผลงานเพลงและละครเวทีที่น่าจดจำเอาไว้อย่างมากมาย โดยปัจจุบันไมร่ากำลังศึกษาอยู่ระดับ เกรด 12 ที่ โรงเรียน Beverly Hills High School ประเทศสหรัฐอเมริกา

“เล้ง-ราชนิกร” คนกล้าโชว์กายกรรมปีนผ้า: แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 2 โดยเรโซนา แค่กล้า ก็ชนะแล้ว

ต่อด้วยโชว์กายกรรมปีนผ้าสุดหวาดเสียว Aerial Acrobat ที่โหนจริง ปีนจริงแบบไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน! ของหนุ่มสกลนครวัย 30 ปีอย่าง “เล้ง-ราชนิกร แก้วดี” ที่กล้าชนะใจตัวเองบนเวทีแห่งความกล้าระดับโลกที่มีเรโซนาเป็นผู้สนับสนุนความกล้าและความมั่นใจกับสโลแกน “แค่กล้า ก็ชนะแล้ว”โดยจากวันนั้นถึงวันนี้ชีวิตของเล้งได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะวันนี้เขาได้ช่วยปลดหนี้ให้กับพ่อและแม่อย่างภาคภูมิใจ ทั้งยังกลายเป็นครูสอนกายกรรมอย่างที่เขาเคยฝันไว้อย่างเต็มตัวด้วยเงินรางวัลพลิกชีวิตรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทจากเรโซนาเปิดโรงเรียนสอนกายกรรม “KARA’SVIC aerial art studio” ที่เขาสวมบทบาทเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจและคุณครูให้กับเหล่าเซเลบและดาราชื่อดังมากมายที่สนใจในการออกกำลังกายบนผืนผ้าทั้ง ณเดชน์ คูกิมิยะ / ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ / จ๋า-ยศสินี ณ นคร / ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล ฯลฯ รวมทั้งยังเดินสายโชว์กายกรรมบนผ้าและอื่น ๆ ภายใต้คณะกายกรรม “ลางลิง the aerialist” อีกด้วย

“สมชาย นิลศรี” เจ้าของบทเพลงสะท้อนไฟใต้: แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 3 Do:More กับเรโซนา แค่กล้าก็ชนะแล้ว”

หลังจากความสำเร็จอย่างท่วมท้นในซีซั่นที่ 2 เรโซนาก็ตัดสินใจเดินหน้าผลิตรายการต่อไปในซีซั่นที่ 3 โดยมีการเพิ่มสโลแกน “DO:MORE” เพิ่มเข้าไปเพื่อกระตุ้นให้คนไทยกล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ตัวเองรักมากขึ้นอย่างเต็มที่ โดยแชมป์ในซีซั่นนี้ได้แก่ ชาย-สมชาย นิลศรี วัย 31 ปี หนุ่มใต้จาก จ.ปัตตานีกับทาเลนต์การแต่งเพลงและดนตรีจากเหตุการณ์ของคนในพื้นที่กับเพลง “อยากให้บ้านเรากลับมาเหมือนเดิม” ที่สะท้อนความรู้สึกและความหวังของพี่น้องทั่วประเทศไปแบบเต็ม ๆ ซึ่งทุกวันนี้สมชายก็ยังคงเดินหน้าเป็นกระบอกเสียงสื่อถึงเรื่องราวของ 3 จังหวัดชายแดนผ่านบทเพลงของเขาต่อไป โดยได้ใช้เงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทออกเดินสายให้ความสุขกับพี่น้องชาวใต้ ทั้งยังได้เข้าร่วมใน “โครงการชวนน้องเข้าห้องเรียน” กับสถานศึกษาระดับอาชีวศึกษาด้วยการออกเดิน สายร้องเพลงกับกีต้าร์คู่ใจแลกกับหนังสือเรียนเก่าสมัยประถมหรือมัธยม เพื่อส่งต่อหนังสือเหล่านั้นให้กับนักเรียนระดับประถมและมัธยมต่อไป 

ปัจจุบันสมชายกำลังจะได้มีผลงานของตัวเองในฐานะศิลปินอย่างเต็มตัวของบีอีซี เทโร มิวสิค กับซิงเกิ้ลแรกของเขาอย่างเพลง “พรุ่งนี้ยังมีคนดีที่รักเธอ” และยังคงแต่งเพลงให้กำลังใจคนไทยอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเพลงให้กำลังใจคนกู้ภัย หรือล่าสุดกับการประกาศแต่งเพลงให้กับแชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 4 อย่างน้อง ๆ ทีมวีลแชร์แดนซ์ในฐานะฮีโร่ของคนพิการไทยที่ร่างกายล้ม แต่ใจไม่ล้ม พร้อมสู้จนไปถึงฝันที่ตั้งใจไว้อีกด้วย

วีลแชร์แดนซ์ กับบีบอยขั้นเทพบนวีลแชร์: เดอะ วินเนอร์คนล่าสุดของ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 4-4D: กล้าได้อีก ทำได้อีกกับเรโซนา”

มาถึงปีล่าสุดกับกระแสตอบรับที่โด่งดัง กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์แทบทุกอาทิตย์กับหลากหลายความสนุกที่ทำให้คนไทยติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นกับการยกเครื่องปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของรายการทั้งตัวพิธีกร รางวัลเงินสดเน้น ๆ มูลค่า 10 ล้านบาท แอพพลิเคชั่น ScanAd บนมือถือ ภายใต้ชื่อสโลแกนใหม่ว่า “กล้าได้อีก ทำได้อีก” ที่พร้อมสนับสนุนให้คนไทยเชื่อมั่นว่า หากเรากล้าลงมือทำในสิ่งที่เรารัก เราจะทำมันได้ดีและดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับเดอะ วินเนอร์ล่าสุดของรายการอย่างทีม “วีลแชร์แดนซ์” กลุ่มเด็กนักเรียนวีลแชร์จากโรงเรียนศรีสังวาลย์ จ.เชียงใหม่กับโชว์เต้นบีบอยที่พวกเขาพยายามทุ่มและฝึกฝนอย่างหนักมาตลอด 3 ปีจนคนไทยทั้งประเทศต้องยกนิ้วและกดโหวตให้กับความกล้าได้อีก ทำได้อีกของพวกเขาในที่สุด

พวกเขาได้กลายเป็นตัวอย่างของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิต และได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับใครอีกหลายคนที่กำลังท้อแท้ในชีวิตให้ลุกขึ้นสู้ต่อไป อย่าล้มง่าย ๆ หรือล้มได้ แต่ต้องลุก สำหรับเงินรางวัลมูลค่า 10 ล้านบาทนั้นพวกเขาตั้งใจว่าจะนำเงินดังกล่าวไปเป็นทุนการศึกษาและเป็นค่าอาหารกลางวันให้กับน้อง ๆ ในโรงเรียน รวมถึงเป็นทุนสนับสนุนความสามารถพิเศษให้น้อง ๆ กล้าลุกขึ้นมาสู้เหมือนพวกเขา หลังจากนี้พวกเขาก็ตั้งใจที่จะเดินสายให้กำลังใจผู้อื่นด้วยทาเลนต์ที่พวกเขารักและทุ่มเทอย่างการเต้นต่อไป โดยสิ่งสุดท้ายที่พวกเขาอยากฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้คือ“ถ้าเกิดว่าท้อแท้ในชีวิตให้ดูพวกเขาเป็นตัวอย่าง ขอเพียงแค่กล้าคิดและกล้าลงมือทำ เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิด”