มิวเซียมสยาม ชวนเที่ยวท่าเตียน เรียนรู้รากเหง้าก่อนเป็นกรุงเทพฯ จากเมืองท่า สู่เมืองเที่ยว ในนิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1”

แชร์ข่าวนี้

หากเรารู้จักรากเหง้าของตนเอง เราก็สามารถรับมือกับความเจริญที่คืบคลานเข้ามาได้เช่นกัน เหมือนเช่นงาน นิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” นิทรรศการแห่งบางกอกนคร ที่คนไทยควรได้ดู จัดโดย มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (Museum Siam: Discovery Museum) ภายใต้สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) ที่ได้นำเรื่องราวของท่าเตียน ชุมชนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม ที่มีมานาน 500 ปี นับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ปัจจุบันความเจริญอย่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกำลังจะเข้ามาสู่พื้นที่นี้ โดยท่าเตียนในอนาคตหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร นิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” จะทำให้ผู้ที่มาชมได้เห็นถึง รากเหง้าทางประวัติศาสตร์ และสามารถดำรงอยู่ได้ไปพร้อมกับกระแสของความเจริญที่เข้ามาอย่างไม่ลืมตัวตน ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยมี ราเมศ พรหมเย็น  ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดนิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” ณ มิวเซียมสยาม โดยจะเปิดให้ชมถึง 1 กุมภาพันธ์ 2558

museum (2)

ราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ เผยว่า “มิวเซียมจะมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนปีละ 2 ครั้ง และจะหยิบยกเรื่องราวที่ใกล้เคียงวิถีชีวิตคนเป็นหลักเพื่อนำไปสู่การต่อยอด โดยครั้งนี้ได้หยิบเรื่องราวของท่าเตียนมาทำเป็นนิทรรศการ โดยตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเจริญที่กำลัง คืบคลานเข้ามาสู่เมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้ อย่างรถไฟฟ้า การจัดนิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” ในครั้งนี้ ต้องการถ่ายทอดความรู้ เรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ ของท่าเตียน เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ รวมถึงประชาชนคนไทย  ได้เห็นถึงรากเหง้า ประวัติศาสตร์ของท่าเตียนที่มีมากว่า 500 ปี โดยมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นก่อนจะเป็นกรุงเทพฯ รวมถึงคำพูดที่คุ้นหู เช่น “วิก” ที่เกี่ยวกับการฉายภาพยนตร์ ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษ คำว่า “วีค” ที่แปลว่า สัปดาห์ ที่ในอดีตปรินช์เธียเตอร์ โรงละครเก็บค่าดูแห่งแรกในไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าเตียน จะแสดงเพียงเดือนละ 1 สัปดาห์ หรือคำว่า        “เจ้าชู้ประตูดิน” ที่มาจากสาวชาววังจะเดินออกมาจากประตูท้ายวัง ที่เรียกว่าประตูช่องกุด เพื่อมาซื้อของที่ตลาดท่าเตียน ก็จะมีบรรดาหนุ่มๆ มาแอบมอง เป็นต้น ซึ่งในนิทรรศการครั้งนี้จะมีหลายเหตุการณ์ และสถานที่สำคัญที่จะท้าทายให้ผู้ที่สนใจต้องมาชมด้วยตนเอง และเพื่อสร้างการเรียนรู้ให้ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจ

museum (1)

ไม่เพียงเท่านี้ นิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” ยังไม่ได้มีแต่ในมิวเซียมสยามเท่านั้น แต่ยังหมายถึงสถานที่ที่รายล้อมท่าเตียน ซึ่งนับเป็นนิทรรศการที่มีขนาดใหญ่ โดยมีมีอาณาเขตพื้นที่กว่า 10 ไร่ และยังได้นำเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) และ QR Code ไว้ในสถานที่สำคัญๆ ที่อยู่บริเวณโดยรอบของท่าเตียน โดยนำสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต มาเล่นกับนิทรรศการเพื่อให้เยาวชนเกิดความอยากเรียนรู้อย่างสนุกสนาน โดยทำให้ประวัติศาสตร์เคลื่อนไหว ผ่านโสตประสาทเพื่อเข้าสู่จิตใจ เข้าสู่ความทรงจำได้ ตระหนักถึงรากเหง้าของตัวเอง และนำไปปรับใช้กับความเจริญที่กำลังจะเข้าในอนาคตอันใกล้นี้อย่างไร เพราะการเรียนรู้ในวันนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในอนาคต”

museum (3)

ภายในนิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” ที่ไม่เพียงจะบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ 500 ปี ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาว่าเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ โดยมีป้อมวิไชเยนทร์เป็นด่านเก็บภาษี จนเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก และสร้างราชธานีใหม่ที่กรุงธนบุรี จนมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ยังคงเป็นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับ  วัง วัด ตลาด จึงทำให้ท่าเตียนเป็นพื้นที่ที่รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมตั้งแต่อดีต ทั้งทางด้านการคมนาคม การค้า ศิลปวัฒนธรรม การเมืองการปกครอง การศึกษา ผ่านการเปลี่ยนแปลงจากบางกอกมาสู่กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ที่แม้ว่าเวลานี้ท่าเตียนจะกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว แฮงค์เอ้าท์ บูติคโฮเต็ล ที่นักเดินทางทั้งไทยและต่างชาติไม่พลาด พร้อมชมภาพยนตร์สั้น เรื่อง “The Origin of Bangkok, The Origin of Love” ควบคุมงานสร้างโดย มะเดี่ยว-ชูเกียรติ  ศักดิ์วีระกุล หนังรักที่ผู้ชมจะต้องยิ้ม และอิ่มเอมใจไปกับเรื่องราวความรักของคนรุ่นใหม่ ที่พวกเขาอาศัยอยู่ในชุมชนท่าเตียนตั้งแต่เล็กจนโต และต้องร่วมแรงร่วมใจตามหาว่าอะไรคือ The Origin of Bangkok เพื่อทำรายงานส่งอาจารย์   จนในที่สุดกว่าที่พวกเขาจะรู้ว่า The Origin of Bangkok คืออะไร ก็ได้เจอกับ The Origin of Love ไปซะก่อน…

museum (4)

ปิดท้ายงานเปิดนิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” ด้วยการไปชมท่าเตียนพื้นที่จริงโดยใช้ AR (Augmented Reality) ผ่านสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดยดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น จาก App Store หรือ Google Play โดยพิมพ์  คำว่า “ท่าเตียน” หรือ “Tha Tian” แล้วนำสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตขึ้นมาส่องที่จุด AR ทั้ง 5 จุด ได้แก่ ป้อมวิไชเยนทร์    ที่จะเรียกเก็บภาษีจากเรือสินค้า ที่นำสินค้าทางการเกษตร ตลอดจนสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในเมือง โดยจะเห็น ภาพกราฟฟิกเรือสำเภา ลอยอยู่กลางแม่น้ำ พร้อมด้วยโซ่ขนาดใหญ่ที่ขึงกั้นทั้งฝั่งตะวันออก (ฝั่งพระนครในปัจจุบัน) และฝั่งตะวันตก (ฝั่งธนบุรี), ยักษ์วัดโพธิ์ ตำนานยักษ์วัดแจ้งและยักษ์วัดโพธิ์ตีกัน ซึ่งจะมองเห็นเป็นภาพกราฟฟิคของยักษ์ลั่นถันมาทวงเงินจากยักษ์วัดโพธิ์ที่ขอยืมไป, มหาวิทยาลัยแห่งแรก (วัดโพธิ์) รูปภาพของสรรพวิชาที่ได้จารลงหินอ่อน และสมุดไทย ติดประกาศไว้ที่วัดโพธิ์, ประตูช่องกุด คลิปวิดีโอเรื่องสี่แผ่นดิน ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของสาวชาววัง  ที่จะเดินผ่านประตูช่องกุดนี้ เพื่อไปซื้อของที่ตลาดท่าเตียน, วัดอรุณฯ – เขื่อนริมน้ำ ภาพบรรยากาศแบบพาโนรามา ที่ต้องมองสะท้อนมาจากทางฝั่งวัดอรุณฯ เผยให้เห็นความสวยงามของท่าเตียน ที่ครบองค์ประกอบ วัง วัด ตลาด และ  QR Code อีก 10 จุด ที่จะนำเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตของท่าเตียนให้กลับมาอีกครั้ง

นิทรรศการ “ท่าเตียน กรุงเทพฯ บทที่ 1” จัดแสดงและเปิดให้ชมแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 10.00 – 18.00 น. (ปิดวันจันทร์) ณ มิวเซียมสยาม (ท่าเตียน) รวมถึงอาณาบริเวณโดยรอบกว่า 10 ไร่   โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สนใจสอบถาม โทร. 02-225-2777 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.museumsiam.org  หรือ facebook.com/museumsiamfan

ที่มา:  แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
บันทึกภาพ:  แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง