รายการที่นี่หมอชิตวันอาทิตย์นี้  เป็นเทปพิเศษที่ทางรายการประเดิมพิธีกรหน้าใหม่ถึงสองคน  คนแรกกับ น้องเอม สรรเพชญ์ คุณากร ลูกชายสุดรักสุดหวงของคุณพ่อ ดู๋ สัญญาและคนที่สองน้องเจแปน อภิชา จรรยาธนากร ลูกชายของคุณพ่อ ใหญ่  ฝันดี  ที่วันนี้สองคุณพ่อขออยู่เบื้องหลังทำหน้าที่ป๋าดันส่งลูกชายลุยกันเองทำหน้าที่พิธีกรดูแลรายการในช่วงสัมภาษณ์แขกรับเชิญ  ชาริลชับปุยส์

ชาริลชับปุยส์เป็นนักฟุตบอลลูกครึ่ง สวิตเซอร์แลนด์ – ไทย ที่ล่าสุดทำผลงานเตะไว้อย่างโดดเด่นในกีฬา เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ แถมความหล่อยังทะลุจอมากระชากใจ แม่ยกทั้งชายไม่จริงหญิงแท้เทใจเชียร์ ชาริลชับปุยส์ กันสุดใจขาดดิ้น ปัจจุบันชาริลชับปุยส์เล่นให้กับ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ตอนนี้ยืมตัวไปเล่นให้ สโมสรฟุตบอลจังหวัดสุพรรณบุรี ใน ไทยพรีเมียร์ลีก ในตำแหน่งกองกลาง

เมื่อศึกษาประวัติแขกรับเชิญกันแล้ว  สองพิธีกรใหม่ของรายการ น้องเอมกับน้องเจแปน ก็บุกไปจังหวัดสุพรรณบุรีขอสัมภาษณ์ชับปุยส์กันถึงที่พักเลยที่เดียว  ซึ่งเป็นบ้านพักชั่วคราวที่เค้าพักขณะมาเก็บตัวฝึกกับทีมสุพรรณบุรีเอฟซีซัปปุยส์พาไปดูบ้านพักชั่วคราวไปดูมุมโปรดที่เค้าชอบเล่นเกมส์แข่งฟุตบอล  ห้องแต่งตัวที่เต็มไปด้วยรองเท้าคู่โปรด  หมวกบางส่วนที่เค้าสะสม  เสื้อผ้าที่ใช้ระหว่างการเก็บตัวซ้อม  ห้องนอน  และที่เค้าพกไปด้วยเสมอคือกรอบรูปตั้งโต๊ะที่มีรูปของเค้ากับเมลานีแฟนสาว  ซึ่งซัปปุยส์เล่าอย่างเปิดเผยถึงเรื่องราวความรักของเค้ากับแฟนสาว แถมยังบอกว่าเมลานีเป็นคนตัดผมให้เค้า  และเมลานีวางแผนจะย้ายมาอยู่เมืองไทยกับเค้าในปีสองปีนี้

ชมบ้านพักกันไปแล้ว   เจแปนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลก็อยากให้ ชาริลชับปุยส์ช่วยสอนและแนะนำเทคนิคในการฝึกกันนิดนึง   ทุกคนจึงไปรวมพลกันที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีน้อง Bigben ฤทธน ศิลปอาชา กับ  น้อง Austin ปฬมพร ศิลปะอาชา ลูกชายของ คุณท็อป วราวุธ ศิลปะอาชาประธานสโมสร สุพรรณบุรี เอฟซีมาร่วมฝึกกับ ชาริลชับปุยส์ด้วย

การถ่ายทำเทปนี้สำเร็จไปด้วยดี  แต่คนที่ตื่นเต้นและลุ้นยิ่งกว่าสองพิธีกรหน้าใหม่ของรายการคือ สองคุณพ่อที่คอยลุ้นกันอยู่ห่างๆ เพราะลูกๆ เกร็งไม่ยอมให้เข้ามาลุ้นใกล้ๆ  ต้องมาฟังความรู้สึกของสองคุณพ่อ  โดยเฉพาะคุณพ่อดู๋  ที่อยู่ๆทำไมเริ่มฝึกและปั้นคุณลูกเป็นพิธีกร  หรือจะเตรียมลามือส่งต่อหน้าที่พิธีกรให้น้องเอมมาฟังกันคะ

“คือจริงๆก็ไม่ได้จะปั้นให้เป็นตัวแทนอะไรเลยครับ  ผมก็ยังทำรายการต่อไป  แต่สำหรับเทปนี้มันเป็นความบังเอิญมากกว่าว่าแขกรับเชิญของเราเป็นคุณชาริลชับปุยส์และทราบมาว่าเค้าพูดไทยได้บ้าง แต่ถนัดพูดภาษาอังกฤษมากกว่า  ตัวผมก็พูดได้  แต่น้องเอมจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่า  และเค้าก็อยู่ในวัยที่สนใจพวกเรื่องกีฬา  แต่น้องเอมก็ไม่ได้ถนัดเรื่องฟุตบอล  และถ้าน้องเอมคนเดียวก็กลัวว่าจะสัมภาษณ์กันไม่สนุกจะเกร็งๆ  ก็ส่งน้องเจแปน  ลูกของคุณใหญ่ ฝันดี เข้าไปเสริมทัพ  ซึ่งน้องเอมกับเจแปนก็รู้จักเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว  และน้องเจแปนก็ชอบฟุตบอลและเป็นนักฟุตบอลอยู่แล้วก็น่าจะมีเรื่องให้ได้คุยและถามแขกรับเชิญมากขึ้น   ก็เมื่อจังหวะมันได้ก็อยากให้โอกาสเค้าได้ลองทำดู  เพราะปกติน้องเอมก็จะได้ไปมีส่วนร่วมในรายการบ้างอยู่เรื่อยๆ แล้ว  แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เค้าไม่มีพ่อร่วมอยู่ในรายการด้วย   ก่อนวันถ่ายทำก็แนะนำเค้าหลายเรื่อง  ทั้งเรื่องการพูดให้เสียงดังฟังชัดให้คนดูรู้เรื่อง  ชวนแขกคุยให้เป็นกันเองแขกจะได้ไม่เกร็ง  รายการจะได้ออกมาสนุก  แต่เค้าจะเอาไปใช้และทำได้แค่ไหนนี่ผมก็ไม่แน่ใจ  เพราะตอนถ่ายทำสองลูกให้ทีมงานมาบอกให้พ่อๆออกไปจากที่ถ่ายทำ  เพราะเค้าจะเกร็งพ่อและพูดไม่ออก  ส่วนผลออกมาแล้วให้คะแนนเท่าไหร่นี่  อืมไม่อยากจะพูดเลย(หัวเราะ) เอาเป็นว่า ผมฝากผู้ชมให้คะแนนการเป็นพิธีกรครั้งแรกของน้องเอมและน้องเจแปนด้วยแล้วกันครับผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าเลยครับ   ส่วนจะมีครั้งต่อไปมั๊ยก็ดูที่โอกาสที่เหมาะสม  แต่จริงๆก็เคยคิดอยากให้เค้าทำพิธีกรพวกสารคดีชีวิตสัตว์อะไรพวกนี้มากกว่า  เพราะน้องเอมเค้าชอบสัตว์น่าจะทำได้ดีกว่าในสิ่งที่เค้าชอบ…อันนี้เป็นสิ่งที่เคยคิดทำรายการแบบนี้ให้เค้า…ตอนนี้ไม่คิด….แต่อนาคตก็ไม่แน่ครับ”

จากความในใจของพ่อดู๋ของน้องเอมแล้ว  มาฟังคุณพ่อใหญ่ ฝันดี ของน้องเจแปน ที่วันนี้ยกทีมมาเชียร์ลูกชายกันทั้งครอบครัวเลยทีเดียว    “สำหรับน้องเจแปน  ผมก็แนะนำคล้ายๆพี่ดูเรื่องการพูดให้เสียงดังฟังชัดถ้อยชัดคำ  เพราะผมก็ได้รับการแนะนำมาจากพี่ดู๋มาแบบนี้ตั้งแต่สมัยเริ่มทำพิธีกร  สำหรับน้องเจแปนก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันกับงานพิธีกรครับ  ขอบคุณพี่ดู๋ที่ให้โอกาสเจแปน  ผมและครอบครัวก็มีหน้าที่สนับสนุนเค้าให้ทำให้ดีที่สุดกับโอกาสที่ได้มา  และถ้าเค้าทำแล้วและชอบทางนี้ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเค้าต่อไปครับ “

ฝากสองหนุ่มน้อยน้องเอมและน้องเจแปนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าตื่นเต้นมากกับการทำหน้าที่พิธีกรสัมภาษณ์คุณ แขกรับเชิญกันเองโดยไม่มีพ่อร่วมในรายการ  ก็มีผิดบ้างพลาดบ้างก็ขออภัยกันล่วงหน้า  และสัญญาว่าถ้ามีโอกาสได้ทำอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง  สัญญาว่าจะพัฒนาตัวเองและทำให้ดีกว่านี้แน่นอน สำหรับเทปแรกของพวกเขาติดตามชมกันได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” คืนวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ทางช่อง 7