ผลงานจากผู้สร้างฯ ชื่อดัง คริสโตเฟอร์ โนแลน (ภาพยนตร์เรื่อง “The Dark Knight”, “Inception”) กำกับนักแสดงระดับโลกในภาพยนตร์เรื่อง “Interstellar” เมื่อโลกเข้าสู่ห้วงสุดท้ายในยุคเรา ทีมนักสำรวจต้องรับภารกิจที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยการเดินทางสู่กาแล็คซี่อันไกลโพ้น เพื่อค้นหาความเป็นไปได้ว่าในอนาคตมนุษยชาติอยู่ท่ามกลางดวงดาวได้หรือไม่
ภาพยนตร์เรื่อง “Interstellar” นำแสดงโดยแมทธิว แม็คคอนอเฮย์ เจ้าของรางวัล Oscar (“Dallas Buyers Club”), แอนน์ แฮทธะเวย์ เจ้าของรางวัล Oscar “Les Miserables”), เจสสิก้า แชสเทน ผู้เข้าชิงรางวัล Oscar (“Zero Dark Thirty”), บิล เออร์วิน (“Rachel Getting Married”), เอลเลน เบอร์สติน เจ้าของรางวัล Oscar (“Alice Doesn’t Live Here Anymore”) และไมเคิล เคน เจ้าของรางวัล Oscar (“The Cider House Rules”) นักแสดงคนสำคัญคนอื่นยังรวมถึงเวส เบนต์ลีย์, แคซีย์ เอฟเฟล็ค, เดวิด ไกอาซี่, แม็คเคนซี่ ฟอย และ โทเฟอร์ เกรซ และ เดวิด จีอาซี่
กำกับฯ โดย คริสโตเฟอร์ โนแลน เขียนบทฯ โดย โจนาธาน โนแลน และ คริสโตเฟอร์ โนแลน ภาพยนตร์เรื่อง “Interstellar” อำนวยการสร้างฯ โดย เอ็มม่า โธมัส, คริสโตเฟอร์ โนแลน และ ลินดา ออบต์ อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย จอร์แดน โกลด์เบิร์ก, เจค ไมเยอร์ส, คิป ธอร์น และ โธมัส ทุล
ทีมงานเบื้องหลังของโนแลนนำโดยผู้กำกับภาพ ฮอยต์ แวน ฮอยทีมา (“Her”), ผู้ออกแบบฉากที่เข้าชองรางวัล Oscar นาธาน โครว์เลย์ (“The Dark Knight”), ผู้ลำดับภาพที่เข้าชิงรางวัล Oscar ลี สมิธ (“The Dark Knight”) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายที่เข้าชิงรางวัล Oscar แมรี่ โซเฟรียส์ (“True Grit”) เพลงประกอบภาพยนตร์โดย ฮานส์ ซิมเมอร์ เจ้าของรางวัล Oscar (ภาพยนตร์ไตรภาค “The Dark Knight”, “The Lion King”) พอล แฟรงค์ลิน เจ้าของรางวัล Oscar (“Inception”) ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ และสก็อตต์ ฟิสเชอร์ (“The Dark Knight Rises”) ควบคุมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส และ พาราเมาท์ พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์ร่วมกับ Legendary Pictures, a Syncopy/Lynda Obst Productions production ภาพยนตร์จากคริสโตเฟอร์ โนแลน เรื่อง “Interstellar”
“โลกใบนี้คือสมบัติอันล้ำค่า
แต่มันกำลังบอกเราว่า ตอนนี้เราต้องออกไปจากที่นี่พักหนึ่ง”
—คูเปอร์
มนุษยชาติมักกำหนดชะตากรรมโลกโดยการนำมันไปถึงขีดสุด ตั้งแต่เรือลำแรกที่ล่องไปไกลสุดขอบฟ้า จนถึงมนุษย์คนแรกที่ก้าวไปเหยียบดวงจันทร์ แต่อย่างไรก็ตามพรมแดนสุดท้ายก็ยังคงเป็นพื้นที่ที่เกินจะเอื้อมภาพยนตร์จากผู้กำกับฯ /ผู้เขียนฯ/ผู้สร้างฯ คริสโตเฟอร์ โนแลน เรื่อง “Interstellar” จึงจุดประกายคำถามของมนุษย์เรื่องดินแดนที่อยู่ท่ามกลางดวงดาวขึ้นมา
“สำหรับผมแล้วการสำรวจอวกาศคือขีดสุดของประสบการณ์ที่มนุษย์จะได้สัมผัส” โนแลนกล่าว “ทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับความพยายามกำหนดนิยามของชีวิตของเราในเชิงของจักรวาล สำหรับผู้สร้างฯ แล้วมันคือเรื่องเหนือธรรมชาติของมนุษย์บางคนที่ก้าวล้ำอาณาเขตที่มนุษยชาติเคยไปเยือนมาแล้ว หรือเป็นการเปิดรับโอกาสความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด ผมตื่นเต้นที่มีโอกาสสร้างหนังที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสกับนักสำรวจคนแรกที่ไปเยือนกาแล็กซี่ ซึ่งเป็นกาแล็กซี่อื่นผ่านสายตา นั่นคือการผจญภัยครั้งใหญ่เท่าที่เราจะจินตนาการได้เพื่อถ่ายทอดเรื่องราว”
เรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เมื่อปัญหาด้านการเกษตรส่งผลให้โลกมาถึงจุดวิกฤติ ภาพยนตร์เรื่อง “Interstellar” เป็นเรื่องราวของการทำภารกิจที่ต้องอาศัยความกล้าหาญ เพื่อเข้าถึงพรมแดนแห่งกาลเวลาและอวกาศเมื่อมนุษย์ต้องต่อสู้กับการสูญพันธุ์ “ผมให้ความสนใจมาโดยตลอดว่าวิวัฒนาการขั้นต่อไปของเราจะเป็นอย่างไร ถ้าโลกเปรียบเสมือนรังนก เราจะทำอย่างไรเมื่อถึงเวลาที่เราต้องย้ายรัง?”
การเล่นกับโอกาสอันไร้ขีดจำกัดของการผจญภัยสู่ดวงดาวที่มีการเดิมพันสูงครั้งนี้ โนแลนเปิดเผยว่าแรงผลักดันในท้ายที่สุดของหนังคือเรื่องส่วนตัวของมนุษย์เป็นประเด็นหลัก “ผมรู้สึกว่าความยิ่งใหญ่และงดงามของห้วงจักรวาลมีความสนใจมากพอๆ กับการศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีอิทธิพลและมีความหมายต่อเรามาก และจะได้เห็นว่ามันสัมพันธ์กับโลกของเราในจักรวาลอย่างไร”
ประเด็นสำคัญของหนังคือเรื่องความผูกพันที่เกิดขึ้นกับทุกครอบครัว “จากภาพโดยรวมภาพยนตร์เรื่อง ‘Interstellar’ คือการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นที่ได้เดินทางสู่ห้วงจักรวาล” เอ็มม่า โธมัส ผู้สร้างฯ กล่าว “แต่ประเด็นหลักคือเรื่องสะเทือนใจระหว่างพ่อลูก มีการถ่ายทอดถึงความรักในครอบครัว ทัศนคติเรื่องความรับผิดชอบและความเสียสละ และจิตใต้สำนึกของเราต่อมนุษย์คนอื่น”
แมทธิว แม็คคอนอเฮย์ประทับใจกับการผสมผสานอารมณ์ที่เป็นพื้นฐานของความอลังการในมุมมองของมนุษย์ “สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่งคือความตื่นเต้นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีทั้งการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและการค้นพบสิ่งลึกลับ สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในตัวคริส โนแลนคือความเป็นมนุษย์ที่เขาถ่ายทอดลงไปในหนังของเขา” นักแสดงกล่าว “ไม่มีใครรับมือกับโลกที่ยิ่งใหญ่อย่างเขาได้ เพราะมันจะกลายเป็นความผูกพันและความสนิทขึ้นมา”
แอท แฮทธะเวย์มีคุณสมบัติตรงกับหนังของโนแลนที่ให้ความสนใจเรื่องการเดิมพันของมนุษยชาติเช่นเดียวกับความพยายามของมวลมนุษย์ “ตั้งแต่ช่วงแรกที่พยายามขยายโลกของเราหรือขับเคลื่อนอารยธรรมของเราต้องอาศัยการอุทิศตนของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งยอมเสี่ยงเพื่อสิ่งที่ดีกว่าหนังเรื่องนี้คือการยกย่องผู้ที่กล้าหาญพอที่จะทำแบบนั้น”
เจสสิก้า แชสเทนกล่าวเสริมว่าหนังเรื่องนี้ยังเป็นการยกย่องผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องพวกเราเอาไว้ด้วย “หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความหวังและเรื่องสะเทือนใจ แต่ประเด็นสำคัญคือความคิดอันงดงามที่กล่าวว่า หากความรักคือสิ่งที่เราสามารถจับต้องได้ มันคือสิ่งที่คงอยู่กับเราไม่เวลาหรือระยะทางจะยาวนานแค่ไหน”
ไมเคิล เคนร่วมงานกับโนแลนมาอย่างยาวนาน เขาสังเกตเห็นความเป็นมนุษย์ตลอดทั้งเรื่อง “Interstellar” ที่สะท้อนถึงบุคลิกของคนที่เป็นผู้นำ “ในชีวิตส่วนตัวคริสก็เป็นหัวหน้าครอบครัวคนหนึ่ง และไม่ว่าเขาจะทำหนังระทึกขวัญหรือหนังผจญภัยในยานอวกาศ หนังของเขาจะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่สำคัญของเขาเสมอ”
โนแลนยืนยันว่าถึงแม้เขาจะจินตนาการถึงการก้าวข้ามความศรัทธาสู่ความลึกลับ แนวคิดเรื่องครอบครัวยังคงอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริงอยู่ “ภาพยนตร์เรื่อง ‘Interstellar’ เกี่ยวข้องกับทุกประเด็น เช่น เราเป็นใคร เราจะไปที่ไหน แต่สำหรับผมแล้วมันเกี่ยวกับเรื่องของความเป็นพ่อ ให้ความสำคัญกับไอเดียเหล่านั้นมากที่สุด มากกว่าความสนุกสนานกับสิ่งต่างๆ บนห้วงอวกาศ”
โจนาธาน โนแลน ผู้ร่วมเขียนบทฯ ยอมรับว่า มุมมองต่างๆ เกี่ยวกับจักรวาลที่ดูแล้วคล้ายกับเป็นเรื่องเหลือเชื่อได้นำพวกเขาสู่การเล่าเรื่องราวบางอย่างที่น่าสนใจ “เรื่องจริงของจักรวาลคือขณะที่มันดูงดงามและสร้างความพิศวงขึ้นมา มันทั้งเยือกเย็น ขาดอากาศบริสุทธิ์ และกว้างใหญ่ไพศาลกว้างใหญ่มากจนเรานึกไม่ออกว่าจริงๆ แล้วมันกว้างใหญ่ขนาดไหน” เขากล่าว “ฉะนั้นต้องอาศัยการลองจินตนาการครั้งใหญ่ขึ้นมา และอิงบนพื้นฐานความเป็นไปได้มากที่สุด และเราจะสัมผัสได้ว่าการเดินทางผ่านห้วงอวกาศระหว่างดวงดาวจะรู้สึกแบบไหน มันไม่ใช่แค่การสัมผัสประสบการณ์เท่านั้น แต่หากพูดถึงผลลัพธ์ทางจิตใจแล้วมันเป็นการเดินทางที่ยากลำบากและมืดหม่นอย่างที่ควรจะเป็นของมนุษย์ด้วย”
ด้านความพยายามของพวกเขาสำหรับการสร้างอวกาศให้ดูมีชีวิตสมจริงมากที่สุดเทียบเท่ากับเรื่องราวที่มีความแปลกใหม่และตัวละครต่างๆ ผู้สร้างฯ ต้องอาศัยคิป ธอร์น ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในงานของนักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีระดับแถวหน้าที่เปิดเผยความเร้นลับของจักรวาลเพื่อสร้างบทภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ขึ้นมา “คิปเป็นทั้งนักเขียน นักวิชาการศึกษา และเป็นผู้ทรงอัจฉริยะที่สุดคนหนึ่งในโลก” ลินดา ออบต์ ผู้อำนวยการสร้างฯ กล่าว “ผลงานของเขาได้พบคลื่นแห่งแรงโน้มถ่วงที่เขาได้พบกับแรงปะทะของหลุมดำและเข้าใจถึงความเป็นไปได้ของเรื่องรูหนอนไชเป็นอย่างดี แนวคิดเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าศึกษาเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว”
สำหรับธอร์น หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างบริหารของภาพยนตร์ ขั้นตอนการทำงานมีความสนุกสนานมาก “เนื้อเรื่องเกิดขึ้นจากจินตนาการอันกว้างไกลของบรรดาผู้เขียนบทฯ แต่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือคอนเซ็ปต์ที่สมเหตุผลเหนือขอบเขตทางความรู้ของเรา”
คริสโตเฟอร์ โนแลนเล่าว่าธอร์นใช้เวลาทดสอบแต่ละไอเดียที่มีการบอกเล่ามา เพื่อสร้างความแน่ใจว่ามันสอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์ “ในฐานะที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความรับผิดชอบ คิปมักกังวลตลอดเวลาว่าทุกสิ่งที่เขาบอกผมอาจผิดพลาดได้ วิทยาศาสตร์โดยเฉพาะระดับที่คิปกำลังทำงานอยู่ได้ให้ความคิดเห็นถึงความเป็นไปได้ที่น่าอัศจรรย์จากมุมมองการบอกเล่า เพราะเรากำลังพูดถึงนักวิทยาศาสตร์ซึ่งความเป็นไปได้เหล่านั้นแผ่กระจายตลอดเวลาผมพบว่ามันเป็นบรรยากาศการทำงานที่มีความสร้างสรรค์มากครับ”
ภารกิจสำหรับการแปลงบทภาพยนตร์สู่สัมผัสแห่งการชมภาพยนตร์ที่มีความยิ่งใหญ่และตื่นเต้น ซึ่งจะทำให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการผจญภัยของการสร้างภาพยนตร์ที่ยกระดับและทำลายกฏเกณฑ์ทั้งหมด ถึงแม้จะสร้างขึ้นบนโกลก็ตามจะมีการเดินทางที่พวกเขานำเสนอบนจอภาพยนตร์อย่างสมจริง “สิ่งที่ผมให้ความสนใจในการทำหนังเรื่องนี้ คือการพยายามพาผู้ชมสู่ห้วงอวกาศ” โนแลนยืนยัน “ให้พวกเขาได้สวมบทบาทของนักอวกาศที่ต้องเดินทางไปสำรวจโลกใบใหม่และกาแล็กซี่ใหม่ๆนั่นคือสิ่งที่ผมตื่นเต้นมากครับ ผู้ชมจะได้สัมผัสการเดินทางระหว่างดวงดาวที่มีความตื่นเต้นเป็นพิเศษ”
บันทึกภาพ: ประชาสัมพันธ์