“บางทีมันก็ยากที่จะบอกความรู้สึกลึกๆ ในใจให้ได้รู้ ได้แต่ถามใจตัวเองว่า รึเปล่า? คิดไปเอง รึเปล่า? พี่เขาจะรู้สึกบ้าง รึเปล่านะ?” เป้ อารักษ์ กับบทที่สาวๆ จะต้องถามตัวเองด้วยประโยคข้างต้นถึงความรู้สึกของ “พี่มอร์” ผู้ช่วยผู้กำกับโฆษณาหนุ่ม ทั้งหล่อ ทั้งติสต์ ทั้งแนว พี่เทรนของ “เมโย” น้องนักศึกษาสาวฝึกงานสายมโนที่หัวใจฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งตั้งแต่สบตาเมื่อแรกเห็น กับ “แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ” ภาพยนตร์โรแมนติคอารมณ์ดีที่มีน้องเหมียวเป็นตัวชูโรง
Q.ภาพยนตร์ “แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ” หนังโรแมนติคคอมมิดี้เรื่องใหม่ ที่บอกว่างานนี้นอกจากประกบกับนางเอกน่ารักๆอย่างน้อง ใบเฟิร์น แล้ว ยังต้องประกบกับจอนนี่ แมวเซเลปสุดฮอตในโซเชี่ยลด้วย ก่อนอื่นอยากให้เล่าให้ฟังว่าเป็นไงมาไง
เป้ : พอดีเราเคยร่วมงานกับบริษัท หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม ซึ่งตอนนี้เป็นเวิร์คพอยท์พิคเจอร์สนะครับ ดีมากพี่โอ๋ (พาณิชย์ สดสี) โปรดิวเซอร์รวมถึง พี่ต้อย (กาญจนา ไทยถานันดร์) ไลน์โปรดิวเซอร์น่ารักมาก แล้วก็สหมงคลฟิล์มด้วย เป็นทีมงานที่เราแฮปปี้ทั้งเรื่องการโปรโมทการดูแล ก็เรื่องของความตั้งใจในการทำงานครับผม นี่ไม่ได้อวยนะ นี่พูดจริงๆ แล้วก็มีโอกาสที่จะได้เล่นกับพี่เท่งพี่โหน่ง ซึ่งก็เป็นดาราตลกอยู่แล้ว ก็ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าอยากจะเล่นหนังตลกอีกครั้งหนึ่ง ยอมรับว่าไม่ได้เล่นหนังตลกมานานแล้วครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรแมนติก คอมมิดี้ แต่เรื่องนี้คอมมิดี้นำโรแมนติกมาหน่อยหนึ่ง แล้วก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักแสดงที่เรียกว่าเป็นยอดฝีมือ ของยุคนี้ น้องใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ครับผม ซึ่งพออ่านบทแล้วก็ไม่ได้เป็นบทที่ไกลตัวผมมาก หรือว่ายากเกินไปอะไรอย่างนี้นะครับก็น่ารักดีครับ ก็คิดว่าทุกคนที่กำลังจะได้ร่วมงานกันก็น่าจะร่วมกันทำออกมาแล้วแฮปปี้ไปพร้อมกับตัวละคร
Q.แสดงว่าพออ่านบทแล้วคาแรคเตอร์หรือเรื่องราวของภาพยนตร์ต้องมีอะไรสะดุดใจที่ทำให้หนุ่มเป้รู้สึกอยากและตัดสินใจเล่น
เป้ : ผมรับบทเป็น มอร์ ครับเป็นผู้ช่วยผู้กำกับโฆษณาในบริษัทสติ ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดย คุณชัยโดด หรือว่าพี่โดด (เท่ง เถิดเทิง) เป็นผู้กำกับมือรางวัล รุ่นใหญ่มีผีมือมาก แล้วก็จะมาพร้อมกับตากล้องคู่ใจ พี่เฟี๊ยต (โหน่ง ชะชะช่า) หนุ่มหนวดขาว ก็จะมีความกวนๆ แบบเพี้ยนๆ นิสัยบางอย่างก็อาจเกิดขึ้นจริงกับคนในกองโฆษณาครับผม แล้วก็จะมีคุณมอร์คนเดียวที่คอยเป็นทั้งมือขวา เท้าขวา มือซ้าย เท้าซ้าย ของคุณโดด คือสั่งอะไรก็ต้องทำ จะเห็นว่าเขาจะเป็นคนที่เสียงดังที่สุดในกองคอยจัดการทุกอย่าง พี่โดดอยากได้อะไรก็ต้องทำให้ได้นะครับ ทนอกจากเรื่องงานแล้วก็ยังมีเรื่องความรักของตัวมอร์ครับผม มอร์ก็เคยมีแฟนคนหนึ่ง ตอนนี้กลายเป็นคนโสด เขาก็เป็นคนที่สาวๆ ออฟฟิศก็ชอบมาเกี้ยวเขาเหมือนกันนะ จนวันหนึ่งมีน้องฝึกงานหน้าใสเข้ามาคนหนึ่ง ชื่อน้องเมโย มาฝึกงานในออฟฟิศสตินี้ มอร์ก็เป็นพี่เทรนก็เป็นคนสอนน้องเขาว่า ทำอะไรยังไง แล้วด้วยความที่เป็นกองโฆษณา มันสอนธรรมดาก็ไม่ได้ ก็จะกวนๆ แกล้งๆ กันตลอด สั่งอะไรน้องก็ต้องทำ แต่น้องก็เหมือนจะติ๋มนะ แต่ความจริงก็ไม่ คือแบบกวนกลับมาตลอด ก็มีความกุ๊กกิ๊กกันเกิดขึ้นในกอง มาถึงวันหนึ่งที่มอร์ก็มีโอกาสที่จะได้ก้าวขึ้นเป็นผู้กำกับ เนื่องจากว่าโฆษณาชิ้นต่อไปที่เขากำลังจะทำกับบริษัทสตินี้ มีลูกค้าเป็นนักธุรกิจญี่ปุ่นอาจจะออกแนวยากูซ่านิดๆ มาจ้างให้กำกับโฆษณาโดยใช้แมวเป็นตัวเอก แล้วพอดีว่าพี่โดดนี่กลัวแมวครับ ก็เลยทำให้มอร์ได้กำกับหนังโฆษณาเป็นครั้งแรก เขาจะเอาแมวของเขาชื่อว่า จอนนี่ เป็นแมวศุภลักษณ์ตัวใหญ่ 10 กิโล ไม่ค่อยฟังใคร แล้วก็ถูกดูแลประคบประหงมอย่างลูกชายมาโดยตลอด มอร์ก็ต้องบังคับเจ้าจอนนี่ฟันดาบ กระโดดได้ กินบะหมี่ ยากมากครับ ซึ่งกลายเป็นว่าเรื่องราวความรักของมอร์ และเมโยจะเกิดขึ้นได้ราบรื่น ก็เพราะว่าแมวให้ความร่วมมือครับ
โดยที่มอร์รับหน้าที่กำกับ เมโยเป็นคนที่ถูกกับสัตว์ ก็รับหน้าที่แคสติ้งดูแลแมวไป แล้วก็ถ้าเกิดว่ามันราบรื่น ความรักของเขาก็น่าจะสมหวังได้เร็วขึ้น แต่ก็มีปัญหามากมาย จนปัญหาสุดท้ายที่มันเกิดขึ้นก็คือแมวพระเอกหายไป มันมีเหตุการณ์ทำให้ได้เห็นใจกันมากขึ้น อย่างนี้จังหวะมันก็จะพาไปเป็นเรื่องของความรักมากขึ้น บวกกับความกวนของคนรอบข้าง ที่ไม่ใช่แค่พี่เท่ง-พี่โหน่ง ทั้งพี่โจ๊ก (อัครินทร์) ที่โผล่ออกมา น้องแอมป์แปรอะไรอย่างนี้ ซึ่งแมวแต่ละตัวก็ไม่ใช่ย่อยครับผม
Q.ฟังๆ ดูแล้วเรื่องราวความรักแบบฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้ง ของน้องฝึกงานกับพี่เทรนที่น่าจะใกล้ตัวกับวัยรุ่นยุคนี้ แถมยังมีเรื่องราวของผู้คนรอบตัว น่าจะเป็นหนังรักยิ้มๆ อารมณ์ดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
เป้ : เราตั้งใจ จะเป็นการล้อเลียนกองโฆษณาซึ่งจะมีผู้กำกับที่ บางทีแล้วดุๆ แต่ความจริงแล้วก็คืออยากได้อะไรก็ต้องได้อย่างนั้น จะมีทีมอาร์ตที่ดูเพี้ยนๆ จะมีตากล้องที่เพี้ยนกว่าอะไรอย่างนี้ครับ ของจริงเรื่องงานมันนำไง แล้วความแปลกๆ ของสิ่งที่ทีมเขียนบทเขาได้เจอในกองโฆษณามา มาล้อเล่นอะไรอย่างนี้
Q.ร่วมงานกับน้องใบเฟิร์นครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง
เป้ : น้องเขาเก่งมากนะครับ ค่อนข้างจะซีเรียสจริงจัง มีความรู้เรื่องการแอคติ้งเยอะมากครับ เยอะกว่าผม เพราะว่าเขาเป็นนักเรียนทางการแสดงด้วยซ้ำ แต่ว่าตัวจริงนอกกองเขาตลกมากครับ เขาจะกวนไปทุกคน แกล้งทุกคน ดูมีความสุขที่อยู่ในกอง ทำให้บรรยากาศรอบข้างมันสดใสขึ้นครับ
Q. หลายๆ คนที่ได้ร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบทเมโย ที่ใบเฟิร์นถ่ายทอดออกมาจะทำให้คนดูโดยเฉพาะแฟนๆ มีกรี๊ดแน่ๆ ประมาณว่าใครที่รักน้ำในสิ่งเล็กเล็กฯ นั่นเลย รวมไปถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ในแบบมโนๆ ของน้องฝึกงานกับพี่เทรนด้วย
เป้ : คือผมมองว่ามันเป็นรีแอ็คชั่นนะครับ ต่อการกระทำของตัวละครรอบข้าง น้องใบเฟิร์นทำได้ดีมากครับ ในเรื่องนี้ใครดูก็คงต้องชอบเขานะ เพราะน่ารักมากในเรื่อง หน้าตาแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้ โผล่มาในกองแล้วทำมาเป็นชอบเรา โดนหมดอ่ะ โดนชอบกลับหมดนะ
Q.เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ทำงานกับ 2 ตลกซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยอย่างพี่เท่ง เถิดเทิง และพี่โหน่งชะช่า
เป้ : ยอมรับก่อนว่า พอรู้ว่าหนังเรื่องนี้มีพี่เท่งพี่โหน่งเล่นด้วย ในใจเราก็คิดว่ามันต้องตลกแน่นอน โดยพาร์ทที่เราเล่นจะเป็นตัวที่นำเสนอในเรื่องราวของความรัก ที่ไปควบคู่กับความตลกของพี่เท่งโหน่ง ก็รู้สึกว่าน่าจะลองดู เราก็ไม่ได้เล่นหนังตลกแบบจริงๆ มานานนะ ยิ่งรู้ว่าเป็นหนังตลกโรแมนติก แล้วก็มีนางเอกที่เก่งกาจมากคนหนึ่งอย่างน้องใบเฟิร์น แล้วพี่เท่งพี่โหน่งก็อยากเจอด้วย แล้วอีกอย่างหนึ่งคือผมชอบภาพยนตร์สาระแนที่ออกมา ที่เป็นพี่สตาร์บัคส์กับพี่หลังเลนส์เล่น ผมว่ามันคลาสสิคนะ เพราะหนังเรื่องนี้มีพี่เป้นฤบดีกับพี่เท่ง เถิดเทิงช่วยกันกำกับด้วย
Q.พูดได้ว่าคงเป็นนักแสดงไม่กี่คนอย่าว่าแต่ในระดับประเทศเลย ระดับโลกเลยก็ว่าได้ที่จะได้ทำงานร่วมกับแมว
เป้ : ตอนแรกที่อ่านบท เรื่องเล่นกับแมว แมวจะแสดงได้มั้ยนั้นผมไม่ติดลยครับ ผมนึกว่ามันฝึกได้ มารู้ทีหลังว่าแมวฝึกไม่ได้ แล้วยิ่งเป็นแมวเลี้ยงธรรมดายิ่งฝึกไม่ได้ แล้วซึ่งอันนี้มันเป็นเรื่องของผู้กำกับแล้วครับ เราก็อาศัยความอดทนเข้าไว้ ตอนที่ถ่ายจะติดที่มันช้าบ้าง ก็จะมีตอนแมวนี่ล่ะครับ แบบว่าทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีนะ เพราะว่าพี่เป้ นฤบดี เขาเป็นคนค่อนข้างเป๊ะ คมกับสิ่งที่เขาต้องการจะใช้ ก็อาจจะต้องช่วยๆ กัน ในหลายๆ ด้านครับทั้งนักแสดงเอง หรือเจ้าของแมวหรือทางด้าน CG อย่างนักแสดงก็ต้องรอจังหวะ พอสั่งแอ็คชั่นดังเกินแมวก็หนี แมวพวกนี้มันเป็นแมวคุณหนูไง มันกินมาอิ่มแล้ว จะมาป้อนในฉากมันไม่กิน เลือกยี่ห้อ ก็สนุกดีครับ ผมเองก็ไม่เคยเลี้ยงแมวด้วยไงครับ แถมในหนังเราไม่ได้มีแมวแค่ตัวเดียวนะครับ มีเป็นสิบ เวลาเราถ่ายหนังจริงๆ มันไม่ได้จบแค่ถ่ายในสตูดิโอนะครับ มันมีการตามหาแมวซึ่งมันค่อนข้างจะยากลำบาก มีการผจญภัยนิดหน่อยเข้ามาเกี่ยวด้วย มีการลุ้นระทึกตามจังหวะของตัวละครก็อยากจะบอกพี่ๆ ที่อยากจะทำหนังแมวนะครับว่า ไม่เขียน CG ก็เอาแมวที่มันฝึกได้มาแต่ผมว่ามันยากครับแต่ว่าตัวนี้มันก็พิเศษไง จอนนี่ หรือว่าตัวชาลีที่เข้าฉากมันน่ารักมาก
Q.พูดถึงนักแสดงคนแล้วคราวนี้มาพูดถึงนักแสดงแมวบ้าง จอนนี่แมวศุภลักษณ์สุดฮอตที่มีคนกดไลก์ในแฟนเพจมากกว่า 400,000 ไลก์
เป้ : จอนนี่ มันเป็นแมวที่จะมีจังหวะนิ่ง คือจับใส่อะไรมันก็ใส่ได้ นั่งท่านี้ไม่มีแมวตัวไหนนั่งได้ ดัวยความที่มันคงอ้วนมั่งครับ เลยเป็นแมวที่สเปเชียล แมวทุกตัวมันก็ไม่ค่อยฟังอยู่แล้วล่ะ ก็จะมีความดุออยู่บ้าง ก็จะเป็นเสน่ห์ของเขาครับ จริงๆ แล้วการที่ต้องแสดง หรือกำกับจอนนี่ นี่เป็นไปไม่ได้เลยดีกว่าครับผม แค่อยากทำให้เขานิ่งได้ ก็แค่เปิดเครื่องปั่นนะ จอนนี่จะกลัวเสียงเครื่องปั่น ชอบเดินเข้าบ้าน บ้านกระเป๋าเขา คือต้องบอกว่าโชคดีมากที่ จอนนี่กับชาลี (แมวสีขาว) จะนิ่งครับผม คือเขาสามารถนั่งอยู่ในเซทได้ครับ ทาโร่ หมดสิทธ์ครับหนีแบบกลัวตัวสั่นตลอด ส้มจี๊ด นี่ยังโอเคก็มีหนีมั่ง นิ่งบ้าง อ๋อ นอกจากนี้มันจะมีแมวอีกตัว เป็นแมวพันธุ์สฟิงซ์ครับ จะกลัวมากตัวสั่น แล้วมันก็โดดหนีครับ แล้วปีนแบล็คดร็อปกระดาษขาดหมดเลย
Q.มีฉากไหนที่ต้องเข้าฉากกับแมวแล้วมีวีรกรรมเด็ดที่ต้องพูดถึงไหม
เป้ : ก็มีเยอะครับอย่างฉากที่ผมกับเฟิร์นต้องเข้าฉากร่วมกับแมวเยอะที่สุดเป็นสิบตัวครับ ซึ่งเป็นช่วงที่เมโยกับพี่มอร์ต้องช่วยกันแคสท์ติ้งแมวครับผมก็จะมีแมวหลายชนิดมากๆ มาให้ดู ก็ยากในการที่เราต้องจับเขาไว้ เพื่อให้เข้าฉาก เราก็ให้ใบเฟิร์นที่เล่นเป็นเมโยแนะนำตัวแมวว่า แมวตัวนี้เป็นตัวอะไร เพศอะไร นิสัยยังไง จะเอาไปเล่นบทไหน แต่ว่าจังหวะก็จะมีแบบเราก็ต้องอิมโพรไวส์ตามแมวที่เขาจะเดินทำอะไร ซึ่งก็เป็นคาแรคเตอร์ของตัวพี่มอร์ที่จะสั่งน้องฝึกงานแบบกวนๆ แกล้งๆ อะไรอย่างนี่ครับ แล้วก็มีเอาแมวไปอาบน้ำ ซึ่งแมวตัวนั้นก็คือจอนนี่ไปอาบน้ำ เจ้าของบอกว่าจอนนี่ชอบเล่นน้ำนะ พอแช่มันหนีตลอดเลย แมวมันควบคุมไม่ได้จริงๆ ครับก็ แฟนๆ จอนนี่น่าจะได้เห็นอะไรที่มันเยอะ
Q.ต้องเข้าฉากกับแมวเยอะที่สุด เรียกได้ว่าแทบจะแค่สองคนกับใบเฟิร์น ตกลงมีรอยรักฝากเล็บจากจอนนี่บ้างไหม
เป้ : มันโดนแต่ว่ามันไม่เจ็บครับ มันกัดผมวันแรกเลย มันหันมา แง่ม เราพยายามจับมันใส่เสื้อครับวันแรก ยังไม่ได้ถ่ายนะครับ เป็นการฟิตติ้ง ผมก็อุ้มไปก็ตะปบผ่านหน้าใบเฟิร์นหนึ่งที่ ใบเฟิร์นก็โดนแต่ว่ามันไม่ได้กางเล็บออกมาแค่ขู่ แล้วก็ตอนหลังผมคงจับมันแรงไปมั่ง มันงับเบาๆ ทีหนึ่ง ทักทาย อย่ามายุ่งอะไรอย่างเนี่ยะครับ ไม่ครับไม่ยุ่ง ใบเฟิร์นนี่กรี๊ดไหว้เลยครับ ไหว้แมว
Q. พูดถึงผู้กำกับ กำกับแมว
เป้ : พี่เป้เป็นคนที่เขารู้ว่าเขาต้องการอะไรครับ แล้วก็รู้ว่าจะตัดแบบไหน ประสบการณ์เขาเยอะมาก แล้วเขาก็ไม่ถ่ายเยอะ เรื่องการถ่ายแมวเขาก็ค่อนข้างจะให้เวลากับมัน คือเขาจะเซ็ทเวลา คือถ้ามีแมวแล้วมันต้องนานแน่นอน แล้วเขาก็พยายามจะกำกับในแบบที่ จังหวะแมวเป็นแบบนี้เราก็ทำตามแบบนี้ ทำให้มันเป็นตามนั้นครับ แต่บางทีมันก็ยากอยู่ดี ไม่ใช่คนธรรมดากำกับไม่ได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาถึงจะกำกับแมวได้
Q.ทำไม “แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ” เป็นหนังที่ต้องดู
เป้ : ใครที่เข้าไปดูก็จะรักเมโยนะ ผมรู้สึกว่าตอนที่เล่นกับน้องแล้วรู้สึกว่าน่ารักจริงๆ พี่เท่ง-พี่โหน่งเขาไม่ยอมกันเลย ไม่ยอมหยุดในการปล่อยมุก ต้องฮาแน่นอนครับ แล้วก็คนที่ชอบแมว ก็คงได้ไปดูแมวในแอ็คชั่นต่างๆ ก็อยากจะให้ลองไปชมโรแมนติกคอมเมดี้แบบเมี้ยวๆ เรื่อง แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ นี้ 4 มีนาคมนะครับ รับรองว่า เรื่องนี้จะทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มออกมาแล้วก็ สนุกสนานแน่นอน สำหรับคนที่เป็นแฟนแมวเรื่องนี้ไม่น่าจะพลาดนะครับ เพราะว่าเราได้นำแมวซุปเปอร์สตาร์ระดับหลากหลายตัวมาร่วมในฉากหนังเรื่องนี้ คือแมวนี่มันสั่งให้เดินยังยากเลยครับผม อยากจะให้ทุกคนลองมาชมกันดูนะครับว่าทำยังไงให้โรแมนติกคอมเมดี้แบบเมี้ยวๆ เรื่องนี้
บันทึกภาพ: Sahamongkolfilm