จะเป็นอย่างไรเมื่อรายการ แฉแต่เช้า ออกอากาศทางช่องGMM25 ท้าปะทะฝีปากกับแขกรับเชิญพูดตรง แรง ชัดเจนเจ้าของฉายา “ซือเจ้สั่งลุย”อย่าง “บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี”ดีกรีว่าที่ดุษฎีบัณฑิตปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยรังสิตที่จะเข้ารับปริญญาบัตรในวันอาทิตย์ที่22กุมภาพันธ์นี้ เดี๋ยวนี้เวลาปรากฏตัวงานไหนก็จะมีแต่คนเรียก “ด็อกเตอร์บุ๋ม” แถมยังเป็นผู้ก่อตั้ง “องค์กรทำดี”ที่รวบรวมเหล่าคนบันเทิงและพรรคพวกช่วยเหลือสังคมและรณรงค์ช่วยเหลือคนเดือดร้อนหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่าถูกข่มขู่จากคนแปลกหน้าหลายต่อหลายครั้งทั้งทำรถทะเบียนปลอมเป็นของตนวางระเบิดทางภาคใต้และยังมีข้อความปริศนาขู่ลักพาตัวลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน “น้องอันดา” ทำเอาตอนนี้เจ้าตัวต้องปรับเปลี่ยนกิจวัตรเพื่อเป็นการป้องกันเลยทีเดียว ซือเจ้จะกลัวต่อการข่มขู่ครั้งนี้ไหมและหวั่นใจหรือไม่ต้องไปเคลียร์กันรวมถึงกระแสบางกลุ่มที่ต่อต้านเธอว่าตั้งองค์กรณ์ทำดีเพื่อสร้างภาพและกุยทางเพื่อลงการเมืองจริงไม่ ปิดท้ายด้วยประเด็นที่ในช่วงหลังซือเจ้มักสื่อสวนกลับพร้อมฉะหากสื่อใดเขียนข่าวไม่ถูกใจจนถูกเม้าท์ว่าชอบทะเลาะกับสื่อและเรื่องชีวิตคู่หลังแต่งงานจะดีขึ้นหรือแย่ลงเดี๋ยวเราไปคุยกับเธอแบบพิเศษที่นี้ทีเดียวกันเลย
ประเด็นข่าว
“บุ๋ม ปนัดดา”ลั่นไม่สนหากคนหาว่าทำดีสร้างบอกยินดีรับสร้างภาพดีให้คนบันเทิง โอดเบื่อข่าววงการบันเทิงที่มีแต่เรื่องฉาวบอกข่าวหนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ปัดสร้างองค์กรทำดีเพื่อเตรียมลงเล่นการเมืองเผยตนเคยเป็นนักวิชาการที่ปรึกษารัฐมนตรีมาแล้วหลายรัฐบาลเพียงแต่ไม่มีคนรู้ ย้ำชัดไม่ชอบให้ใครมาจูงมือเดินและยังรักงานในวงการบันเทิงมอบความสุขให้ประชาชนมากกว่า รับถูกข่มขู่จากโครงการต่างๆที่ตนดูแลลั่นไม่กลัวเพียงแต่ระมัดระวังตัวมากขึ้นส่วนลูกก็ต้องมาปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อความปลอดภัยแต่เชื่อคนที่ขู่เป็นพวกโรคจิตมากกว่า ส่วนเรื่องที่มักโพสท์ข้อความตอบโต้สื่อที่เขียนข่าวที่ตนไม่พอใจนั้นบอกเป็นตอนนี้ตนมีIGเป็นพื้นที่ส่วนตัวหากใครร้ายมาก็ต้องสู้แต่ถ้าดีมาก็ดีกลับเพียงเท่านั้นเอง ด้านชีวิตหลังแต่งงานโวแอปปี้มากเพราะหวานกว่าเดิมชมฝ่ายชายให้เกียรติกันมากขึ้นและทั้งคู่ใจเย็นมากขึ้นทำอะไรในที่สาธารณะได้สบายใจขึ้น
บทสัมภาษณ์ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
เป็นแขกรับเชิญแฉแต่เช้ารู้สีกอย่างไรบ้าง?
“เช้ามากค่ะ แล้วก็นังมอเตอร์ไซค์มาด้วยวันนี้ แต่ก็ได้เจอะเจอเหมือนเพื่อนเก่า ก็เฮอา ไม่เหมือนมาออกรายการ เหมือนมาเจอเพื่อนมากกว่า เหมือนเอามาโดนด่าในรายการ แต่ไม่กลัวอยู่แล้ว (หัวเราะ)”
ปกติเราก็เจอข่าวแรงๆมาตลอด?
“ใช่ คือก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเราต้องโดนข่าวแรงๆเสมอ แม้ว่าเราจะทำความดีก็ยังต้องโดนด่า โดนกระแหนะกระแหน โดนเข้าใจผิดอะไรแบบนี้ ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ใครที่ดีมากก็โดนดึงมั้ง หรือว่าใครดีมากก็จะโดนหมั่นไส้อะไรแบบนี้ค่ะ แต่เพียงแต่ว่าบุ๋มเชื่อว่าระยะเวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์อะ และสิบกว่าปีที่บุ๋มอยู่ในวงการเนี่ย 15ปีแล้วนะ แล้วเราเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น มดดำถึงบอกว่ามันทำของมันมาตั้งนานแบบนี้”
องค์กรณ์ทำดีเปิดมานานแค่ไหนแล้ว?
“ประมาน7เดือนเท่านั้นเอง แต่เป็น7เดือนที่ทรงคุณค่ามาก เป็น7เดือนที่กระแสแรงมาก ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราทำแล้วเห็นผลเร็ว ประสบความสำเร็จเร็วแล้วก็หลากหลายเคสด้วย ทั้งหมา ทั้งแมว ทั้งคน ทั้งเรื่องของการต่อสู้อะไรหลายๆอย่าง ก็เลยดูเหมือนว่าองค์กรณืทำดีค่อนข้างมาเร็วมากค่ะ”
มีคนบอกว่าทำตรงนี้เพื่อสร้างภาพ เพื่อที่จะเข้ามาเล่นการเมือง เรารู้สึกอย่างไรบ้าง?
“เอิ่ม.. แยกเป็น2ประเด็นก่อนละกัน ถ้าเกิดบอกถึงการสร้างภาพบุ๋มว่าก็ไม่เป็นไรหรอกมั้งถ้าใครจะมองว่าสร้างภาพ เพราะบุ๋มกำลังสร้างภาพที่ดีให้กับดารา สร้างภาพที่ดีให้กับคนที่มีศักยภาพที่จะช่วยเหลือคนได้ จะให้แต่คนอ่านแต่ข่าวเม้าท์ ข่าวแง่ลบของดาราคงจะไม่เหมาะอะนะค่ะ ข่าวพวกนั้นก็เยอะพออยู่แล้ว ข่าวดีๆมีบ้างก็ไม่เป็นไรมั้ง ดังนั้นถ้าทำความดีให้มีพลังได้ก็ทำไปเถอะ เพียงแต่ถ้าใครจะหาว่าสร้างภาพ อืมม.. ถ้าเป็นภาพดีๆ ดูบ้างนะคะ! อยากให้เป็นกำลังใจในการที่ว่า คนที่งานเยอะเนี่ย ก็ยังทำความดีได้ เพียงแต่ว่าถ้าพูดถึงการกรุยทางเพื่อการเมืองเนี่ย บุ๋มก็ทำงานการเมืองมาบ้าง เพียงแต่บุ๋มทำงานในส่วนของนักวิชาการ เป็นถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่เคยมีใครรู้เรลยนะ เคยเป็นมาแล้วค่ะ สมัยท่านนายกอภิสิทธิ์ สมัยของท่านทักษิณก็เป็นผู้ชำนาญการคณะกรรมการเศรษกิจ ก็ไม่มีใครรู้เลยอยู่ขั้วไหนดิฉันไม่เกี่ยว แต่เราวางตัวเป็นนักวิชาการ เพราะเราเรียนมาสูงขนาดนี้แต่เพียงแต่ว่าจะให้เป็นนักการเมืองไม่เอา เพราะว่ามันเหมือนกับ ถ้าเป็นนักการเมืองเนี่ยมันเหมือนกำโดนจำกัดแนวความคิด ว่าเราจะต้องเดินตามใครสักคนนึง เขาคิดไม่ดี เราก็ต้องเป็นไปตามนั้นซึ่ง ณ วันนี้บุ๋มโดนคนรักทั้งประเทศ ในฐานะเป็นดาราของประชาชน บุ๋มแฮ๊ปปี้ตรงนี้มากกว่า”
แล้วไม่มีเล่นแน่นอนในอนาคต?
“คือถ้าให้ทำงานเป็นนักวิชาการ ให้เข้าไปทำวิจัยเหมือนที่ผ่านๆมาหรือบินไปทำอย่างตอนนู้นไปทำสนธิสัญญาให้กับประเทศไทย ที่อเมริกาใต้ อย่างงั้นไป อันนั้นเราถือว่า เราทำแล้วได้ใช้ความรู้ของเรา แต่เพียงแต่ว่าถ้าเกิดมาให้เล่นการมืองไปเลยโดยทิ้งงานละครไรไม่เอาอะฉันรักงานละครฉัน ได้ตบนางเอกฉันชอบ (หัวเราะ)”
มีหลากหลายมุมมากกว่าใช่ไหม?
“ใช่ มันอย่างงี้ได้ดีกว่าที่ผ่านมาก็แฮ๊ปปีแล้ว ถ้าเกิดเป็นนักการเมือง เราไม่ใช่คนที่จะไปฉวยโอกาส ไม่รวย ทำงานดาราได้ตังกว่า ทำธุรกิจของตัวเอง ได้ตังค์กว่าค่ะ”
แต่มันก็เหมือนมีช่วงนึงที่พี่บุ๋มเวลามีข่าวเกิดขึ้นมา ข่าวไหนไม่พอใจเราจะโพสต์ตอบโต้เลย หลายคนเลยมองว่าเป็นการตีกับสื่อไหม?
“บุ๋มว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป อย่างสมันก่อนบุ๋มโดนข่าวขายตัวบ้าง เป็นเมียน้อยบ้าง เป็นน้อยสี่เหล่าทัพบ้าง คำพูดพวกนั้น ถามว่าบุ๋มไม่แคร์เลยมันก็ไม่ใช่นะ เราเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ เราก็ต้องแคร์ความรู้สึกของพ่อแม่เราเหมือนกัน เค้าอุส่าห์เลี่ยงเรามาขนาดนี้ใช่ไหมคะ แต่เพียงแต่ว่าที่ผ่านมา ไม่มีโอกาสช่องทางที่เราจะตอบโต้ เพื่อเป็นตัวของตัวเอง แต่ปัจจุบันมีไอจี ซึ่งชาวบ้านก็เห็นว่าเราเลี้ยงลูก ซึ่งสมัยก่อนไม่มีใครเห็นว่าบุ๋มเลี้ยงลูกเองรึเปล่า แต่บุ๋มไม่ใช่ที่จะเอาลูกมาโชว์ไง ไม่ใช่คนที่เอาภาพพรีเซนต์ว่าฉันเป็นแม่อะไรอย่างเงี๊ยะ ก็คือในปัจจุบันเค้าก็จะเห็นว่า เอ๊อะ มันเลี้ยงลูกหวะ สอนการบ้านลฃูกทุกวัน มันก็ทำงานของมันเต็มที่ ไม่เห็นมันจะแรดไปไหนนี่ ไม่เห็นไปเจอผู้ใหญ่ที่ไหน คือเราโพสต์ได้ตลอด ดังนั้นพอมีข่าว เราก็อัดกลับ เพราะมันเป็นพื้นที่ของเรา และบุ๋มเชื่ออย่างหนึ่งว่า บุ๋มเป็นคนจริงใจ ดังนั้นประชาชนปัจจุบัน เวลาคุณดูข่าวใครที่ให้สัมภาษณ์อย่างเงี่ย เวลาเราดู สื่อเองเช่นคุณ เวลาคุณยื่นไมค์สัมภาษณ์คุณก็เห็น เป็นพี่เป็นน้องกันค่ะ คุณยังเบือนหน้าหนีเลยถูกป่ะ ประชาชนก็รู้เรามอง โห โกหกอะ ดังนั้นบุ๋มไม่ต้องการขายจุดนั้น บุ๋มขายของจริงใจของบุ๋มตลอด ดังนั้น บุ๋มเอง ดีมาก็ดีกลับ ช่วยเหลือกลับ แต่ถ้ามาร้ายบุ๋มก็สู้ เพราะบุ๋มถือว่าการเป็นคนดีต้องไม่เป็นคนโง่ การที่โดนคนอื่นเอารัดเอาเปรียบตลอดนั่นคือคนโง่ ซึ่งมันจะทำให้อยู่ในสังคมได้ยาก ”
อย่างองค์กรณ์ทำดีเองล่าสุดเห็นว่ามีโดนข่มขู่ด้วย เราโดนอะไร?
“ส่วนใหญ่โดนที่บุ๋มมากกว่า ในส่วนของบุ๋มเนี่ย บุ๋มไปยุ่งกับการค้ามนุษย์ ก็คือไปดึงเด็กกลับอะไรยังเงี่ย ก็ค่อนข้างจะหนัก อย่างเรื่องของที่เราไปทำห้องเรียนทางไกหลที่ภาคใต้ อันนันก็คือเป็นการดึงเยาวชนหัวกระทิกลับทาสู่ประเทสไทนย ดังนั้นก็เหมือนกับว่า เค้าก็เอารถบุ๋มไปวางระเบิดที่บิ๊กซีปัตตานีเป็นชื่อเป็นระทะเบียนปลอม แม้กระทั่งหนังสือจดแจ้งปลอมหนักมาก คือเราก็เลยรู้สึก อืม โอเค ต้องระมัดระวังตัวในระดับนึง แต่เพียงแต่ว่า ถามว่าภูมิใจไหมกับสิ่งที่ทำ ณ วันนี้ ที่ทำให้กับประเทศไทย มันภูมิใจ”
เห็นว่าลามถึงครอบครัวเราเลย น้องอันดาต้องเปลี่ยนชีวิตประจำวันไหม?
“บุ๋มว่าคงเป็นพวกโรคจิตมากกว่า เพราะว่าคนที่เค้าจะทำจริง มาเฟียจริง เค้าไม่ขู่หรอกค่ะ”
อย่างนี้คต้องมีการจ้างบอดี้การ์ดไหม?
“ไม่ๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ว่าก็ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น ก็คิดรอบคอบกันมากขึ้น ว่าเออ ต่อไปลูกจะอยู่อย่างไร บุ๋มจะอยู่ตรงไหน แค่นั้นเองค่ะ ก็คือไม่ได้ถึงขนาดคิดมากจนเกินไป ไม่งั้นก็ใช้ชีวิตทำความดีแบบไม่มีความสุขอ่ะ”
เร็วๆนี้จะรับปริญญาเอกแล้วด้วย?
“ใช่ 22 นี้ยังไงเรียนเชิญสื่อด้วยนะคะ 22 กุมภาพันธ์นี้ค่ะช่วง 9.00-11.00 น. เช้า รับคู่กะณเดช”
ต่อไปนี้จะเปลี่ยนเป็น ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดีเลยมั้ย?
“ตอนนี้เขาเปลี่ยนให้แล้วค่ะ ก็คือไม่เกี่ยวกับรอรับปริญญาวันไหน เกี่ยวกับทรานสคริปต์ออกวันไหน ตอนนี้ทรานสคริปต์ออกแล้ว เป็น ดร.ปนัดดาเรียบร้อยแล้วค่ะ(ยิ้ม)”
เกียรตินิยมรึเปล่า?
“อย่าเกียรตินิยมเลย เรียนจบก็บุญแล้วมั้งคะ (หัวเราะ) ละครหนักขนาดนี้ ปีที่แล้ว 8 เรื่องนะคะ”
ทุกวันนี้งานยังเยอะ ไม่คิดจะพักผ่อนบ้างหรอ?
“คนเรามันก็มีช่วงเวลาพักบ้าง เพียงแต่ว่าคุณจะใช้เวลาสักกี่ชั่วโมงหรอในการพัก บุ๋มได้อยู่กับครอบครัวบุ๋มก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนของบุ๋มแล้ว บุ๋มอยู่นิ่งๆไม่ได้ บุ๋มไม่ใช่เป็นคนนอนเยอะ เป็นคนที่แบบหาไรทำ อ่านการ์ตูนของบุ๋มไปสนุกดีค่ะ”
หลังแต่งงานหวานกว่าเดิมมั้ย?
“หวานกว่าเดิม แปลกมากทั้งๆที่ตอนแรกก็คิดว่าอยู่ด้วยกันเฉยๆก็ได้มั้ง ไม่ต้องแต่งงานก็ได้มั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าพอแต่งแล้ว ความรู้สึกของเรา 2 คนมันผูกพันธ์กันมากขึ้น ให้เกียรติกันมากขึ้น แล้วก็ใจเย็นกันมากขึ้น มันเหมือนกับว่าหมดความระแวงอ่ะ ว่าคนจะมีฉันมั้ย จะอะไรรึเปล่า ปัญหาตรงนั้นมันก็จะตัดไป แล้วก็ไปไหนมาไหนเดินจูงมือกันได้เต็มที่ ไม่ต้องมาเขิน เกรงใจอะไรอย่างเนี้ยค่ะ มันก็เลยรู้สึกว่าเออ น่าจะแต่งกันได้ตั้งนานแล้ว ก็คุยกันอย่างนี้ด้วยซ้ำ”
หลายคนถามว่าพี่บุ๋มไม่เปลี่ยนไปใช้นามสกุลพี่เอกหรอ?
“วงศ์ผู้ดีคนรู้จักแล้วค่ะ อีกอย่างในตระกูลวงศ์ผู้ดีมีอยู่ไม่กี่คน ให้บุ๋มใช้วงศ์ผู้ดีต่อไปดีกว่าค่ะ เพราะว่าถ้าเปลี่ยนปุ้ปมันเปลี่ยนหลายๆอย่าง เอกสาร ที่ บ้านทุกอย่าง มันเปลี่ยนเยอะอ่ะมันวุ่นวาย คือถ้าตราบใดที่กฏหมายวุ่นวายขนาดนี้ใช้เหมือนเดิมดีกว่า เพราะว่าสังคมก็รับรู้อยู่แล้วว่าแต่งงานกัน”
ฝากถึงองค์กรหน่อยว่าถ้าหากใครที่ลำบาก จะติดต่อพี่บุ๋มได้ยังไง?
“สำหรับองค์กรทำดีนะคะ ติดต่อได้ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook ของทางองค์กรทำดี สามารถเข้าไปบอกเรื่องราวได้ สำหรับในส่วง Instagram ของบุ๋มเองนะคะ @Boompanadda ก็สามารถเข้าไปบอกได้ว่าตอนนี้เดือดร้อนเรื่องอะไร ยกเว้นที่จะไม่ช่วยจริงๆคือหนี้นอกระบบ เพราะว่าทุกคนเป็นหนี้ดิฉันก็ยังผ่อนบ้านอยู่ (หัวเราะ) เพราะว่าองค์กรทำดีเป็นองค์กรที่จะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ ที่ลำบากจริงๆ แต่ไม่ใช่ธนาคารหรือไฟแนนซ์นะคะ ไม่ต้องมาขอกู้ยืมเงินหรือขายที่ขายบ้าน ไม่รับทั้งสิ้นค่ะ”
บันทึกภาพ: GMM25