นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องยอดนิยมระดับเอเชีย เป็นหนึ่งในนักแสดงภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกกับ ค่ายหนังอารมณ์ดี “จีทีเอช” ซึ่งเป็นโปรแกรมสุดพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองครบ 7 ปี จีทีเอช กับหนังรัก 3 รุ่น 3 วัย เรื่อง “รัก 7 ปี ดี 7 หน” ซึ่งรวมเหล่านักแสดงมากฝีมือ อาทิ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, คริส หอวัง, เก้า-จิรายุ ละอองมณี, สู่ขวัญ บูลกุล, สุทัตตา อุดมศิลป์, โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ ฯลฯโดยมีผู้กำกับ 3 รุ่น 3 สไตล์รวมอยู่ในเรื่องเดียว
ตอนแรกชื่อว่า “14” กำกับโดย กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา นำแสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี , ปันปัน- สุทัตตา อุดมศิลป์
ตอนที่ 2 “21/28” กำกับโดย ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ , คริส หอวัง
ตอนที่ 3 “42.195” กำกับโดย เก้ง-จิระ มะลิกุลที่รับหน้าที่ผู้กำกับอีกครั้งในรอบ 7 ปี นำแสดงโดย นิชคุณ หรเวชกุล ,สู่ขวัญ บูลกุล และ โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ
ซึ่งเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา นิชคุณ หรเวชกุล หนุ่มนักร้องไทยที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเอเชีย ได้เผยความในใจสุด Exclusive และเป็นกันเองเกี่ยวกับผลงานหนังไทยเรื่องแรก และถือได้ว่าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่น่าสนใจ และน่าจับตามองที่สุดในปี 2555
– อยากทราบว่าอะไรที่ปัจจัยหลักที่นิชคุณตัดสินใจรับหนังเรื่องแรกให้กับจีทีเอชในเรื่อง “รัก 7 ปี ดี 7 หน”
“ปกติแล้วคุณเป็นแฟนหนังของจีทีเอชอยู่แล้วนะครับตั้งแต่เรื่อง ชัตเตอร์ เรื่องแรกเลยนะครับ แล้วก็พอดีทางจีทีเอชติดต่อเข้ามาพอดีอยากให้ผมไปเล่นหนังก็รู้สึกดีใจมาก แล้วเค้าก็บอกว่าพี่เก้งเป็นคนกำกับก็เลยตอบตกลงเลยครับ พอดีมีคิวที่ติดกับทางบริษัท ทางวงต้องมีแสดงคอนเสิร์ตเล็กน้อย ก็เลยช้าหน่อยนะครับ”
– หลังจากที่ตอบรับแล้วได้บทมาอ่านแล้ว ชอบเลยไหมครับ
“ได้บทมาแล้ว ชอบเลยครับ เพราะว่าเป็นหนังที่น่าสนใจมากแล้วก็ไม่ใช่แค่แบบน่ารักกุ๊กกิ๊กธรรมดาแต่เป็นหนังที่ให้ข้อคิดดีมาก แล้วก็คุณเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคนได้นะครับ หวังว่าทุกคนจะชอบหนังเรื่องนี้กันครับ”
– แล้วตัวละครในเรื่องนี้มีความเหมือนหรือว่าแตกต่างกับคุณอย่างไรบ้างครับ
“จริงๆแล้วพี่เก้งบอกว่า ให้คุณแสดงเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดเพราะนี่เป็นหนังเรื่องแรกของผม แล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองแสดงได้ดีหรือไม่ดีขนาดไหนก็เลยพยายามแสดงเป็นตัวเองมากที่สุดครับ แล้วก็พี่เก้งเค้าเขียนบทนี้มาคุณโดยเฉพาะเลย ก็เลยเล่นเป็นตัวเองนิดนึง ก็น่าจะเหมาะนะครับ”
– ในเรื่องนี้รับบทเป็นนักวิ่งมาราธอน คุณได้อะไรกับการวิ่งมาราธอน แล้วก็รู้สึกอย่างไรบ้างครับ
“ได้หุ่นที่เพรียวสวยงามนะครับ แล้วก็ได้วิ่งครับ คือปกติเป็นคนไม่ชอบวิ่งครับ ชอบเล่นกีฬาแต่ไม่ชอบวิ่ง พอมาได้เล่นบทนี้ก็ได้ไปฝึกวิ่งกับโค้ชที่ทางจีทีเอชจัดมาให้ครับ รู้สึกถึงเสน่ห์ของการวิ่งได้เลยว่าทำไมคนถึงยอมสละเวลามาวิ่ง 42.195 กิโลเมตรในงานวันมาราธอน รู้สึกได้ว่าเค้าคิดอะไรกันอยู่เวลาวิ่งกัน ก็รู้สึกดีครับเพราะมันดีต่อสุขภาพด้วยได้ทำงานไปด้วย”
– คุณคิดว่าการถ่ายหนังมีเสน่ห์มากไหมครับ
“การถ่ายหนังก็มีเสน่ห์นะครับ เพราะว่าเป็นอะไรที่ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ถ้าสมมติค้นพบตัวเองเจอว่าเราเป็นคนยังไง เราจะเล่นบทนี้ยังไง แต่ยังอีกไกลสำหรับผมนะครับ ผมอยากจะเป็นนักแสดงที่ดี หนังเรื่องนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากของผมนะครับ แล้วมาเริ่มต้นที่เมืองไทยด้วยก็ยิ่งดี แล้วก็มีพี่เก้ง มีพี่สู่ขวัญ ช่วยกันในจุดเริ่มต้นของผม ผมรู้สึกว่าดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากครับ”
– เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกที่คุณแสดงหนังแบบเต็มตัว มีความยากง่ายยังไงบ้างครับ
“ยากครับ ยากมากครับ แล้วก็กดดันมากเพราะเป็นหนังที่พี่เก้งกำกับด้วย คือไม่อยากทำให้พี่เก้งต้องผิดหวังที่มาเลือกผมให้เป็นตัวพระเอกนะครับ หนังเรื่องแรกก็พยายามแสดงให้เต็มที่ เต็มที่มากจนพี่เก้งบอกกว่า เลิกแสดงได้แล้ว เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ประมาณนี้ครับ ใช้เวลาปรับตัวอยู่พักนึงเหมือนกัน เพราะรู้ว่าการแสดงเป็นอะไรที่น่าสนใจ อยากแสดงไปเรื่อยๆ”
– การร่วมงานกับพี่เก้งเป็นอย่างไรบ้าง
“พี่เก้งเป็นคนใจดีมากเลยครับเหมือนคุณพ่อเลยครับ เหมือนคุณพ่อมากำกับหนัง คือรู้สึกสบายใจเวลาทำงานกับพี่เก้ง เพราะพี่เก้งเป็นคนใจดีแล้วก็นิ่ง สอนตลอดเวลาควรจะทำอย่างนี้อย่างนั้น ก็รู้สึกดีครับที่ได้มาร่วมงานกับพี่เก้งครับ”
– นอกจากการแสดงแล้ว การถ่ายหนังเรื่องนี้ คุณได้ประสบการณ์อะไรบ้างมากกว่าการแสดงไหมครับ
“การถ่ายหนังเรื่องนี้นะครับ อย่างที่บอกเป็นจุดเริ่มต้นของผม รู้เลยว่าตัวเองชอบการแสดงและก็อยากจะเก็บประสบการณ์ทางด้านนี้ พยายามฝึกภาษาไทยให้มากขึ้น แล้วก็ฝึกหลายๆอย่างครับ เพื่อที่จะแสดงได้ดีขึ้น ได้รู้จักคนดีๆที่ปรึกษาดีๆแบบพี่เก้ง และอะไรอีกเยอะแยะเต็มไปหมด ดีใจมากที่ได้มาร่วมงานกับโปรเจ็คท์นี้ครับผม”
– การทำงานร่วมกับพี่สู่ขวัญเป็นอย่างไรบ้างครับ
“ก่อนอื่นเลยนะครับ พี่สู่ขวัญนี่ตอนที่มาเริ่มเข้าฉากด้วยกัน ไม่น่าเชื่อเลยครับว่าพี่เค้าไม่เคยแสดงมาก่อน พี่เค้าเป็นโปรเฟสชั่นนอลมากเลยครับ ตรงต่อเวลา เวลาติดขัดซีนไหนก็จะคอยช่วยเหลือตลอดเวลานะครับ เป็นคนไนซ์มาก สนุกสนานกัน ถ่ายไปก็คุยเล่นกันไปเหมือนพี่น้อง สนุกสบายมาก พี่โอปอล์นี่ก็ตามที่เค้าบอกกันนะครับ แย่งซีนไปทุกคนเลยแสดงตลกขบขัน คือเป็นตัวของพี่โอปอล์ตอนถ่ายด้วยกันคือสนุกมาก เสียดายที่ได้ถ่ายกับพี่โอปอล์นิดเดียวครับ”
– อยากจะทราบถึงความประทับใจต่อหนังเรื่องนี้ครับ “รัก 7 ปี ดี 7 หน”
“ประทับใจมากๆครับ ก็ตั้งแต่อ่านบท แล้วก็มีโอกาสได้เจอพี่เก้ง พี่สู่ขวัญ นะครับ เป็นหนังที่ไม่ใช่แค่น่ารักกุ๊กกิ๊กธรรมดา เป็นหนังที่ให้ข้อคิดแล้วก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนด้วยว่า ในชีวิตคนเราเนี่ยถึงแม้ว่าจะรู้สึกว่าตกต่ำหรือเศร้าขนาดไหนแต่สมมติเราสามารถเปิดใจรับสิ่งที่ดีดีที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของเราซึ่งแค่เราเปิดใจรับชีวิตเราก็จะดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อได้นะครับ”
– นอกจากเล่นหนังแล้ว โปรเจ็คท์อื่นๆต่อไปในปีนี้มีอะไรบ้างครับ
“อาทิตย์หน้ามีคอนเสิร์ตเปิดตัวที่ญี่ปุ่น แล้วก็มีออกอัลบั้มที่ประเทศญี่ปุ่น ออกอัลบั้มใหม่ที่เกาหลีก็น่าจะภายในปีนี้ อย่าลืมติดตามกันด้วยครับ”
– แล้วกิจกรรมที่เมืองไทยล่ะครับ
“กิจกรรมที่เมืองไทยเหรอครับ อาจจะมีมาโปรโมทโฆษณามาเจอแฟนๆอะไรอย่างประมาณนี้ครับ แล้วก็คงจะได้มาดูหนังกับแฟนๆด้วย รอบเพรสประมาณนี้ครับ หวังว่าวันนั้นพวกเราก็จะไปดูหนังด้วยกันนะครับ และก็สนุกด้วยกันนะครับ”
– คุณกดดันไหมครับ มีคนรอดูหนังเรื่องนี้เยอะมากๆเลยครับ
“กดดันครับ กลัวจะแพ้หนังเรื่องอื่นของจีทีเอชนะครับ แล้วก็พยายามทำลายสถิติให้ได้เหมือนกัน แต่ก็คงไม่เป็นไรเพราะมีอีกสองทีมคอยช่วยเหลืออยู่เหมือนกัน ทั้งพี่คริส หอวัง พี่ซันนี่ และน้องเก้า กดดันด้วยเล็กน้อยครับเพราะเป็นหนังเรื่องแรกของตัวเองด้วย แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองแสดงได้ดีมากน้อยขนาดไหน แต่ก็สนุกกับงานนี้ครับ หวังว่าทุกคนจะชอบครับ”
– อยากให้พูดถึงมุมมองของความรักในเรื่องนี้ด้วยครับ
“เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณค่าความรักไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องหวังอะไร แค่อยู่ข้างๆกัน เพื่อนกัน คอยสนับสนุนกัน คอยเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกันแค่นั้นมันก็เป็นความรักได้นะครับ ซึ่งอาจจะเป็นความรักแบบรุ่นใหญ่หน่อย ความรักอย่างนี้ก็มีด้วยนะครับผม”
– รู้สึกอย่างไรบ้างครับ ที่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการกลับมาเมืองไทยแล้วก็อยู่เมืองไทยได้นานที่สุดในรอบ 5 ปี
“ภาคภูมิใจมากครับ ระยะเวลาในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ประมาณ 20 วัน ก็ได้กลับมาเมืองไทย 2 – 3 อาทิตย์เป็นครั้งแรกในระยะเวลา 4 – 5 ปีที่ได้กลับมาอยู่เมืองไทยยาวๆขนาดนี้ รู้สึกดีมากครับแล้วก็รอลุ้นผลของหนังเรื่องนี้อยู่ว่าจะออกมาเป็นยังไง พี่เก้งก็โชว์ให้ดูแล้วบ้างเล็กๆน้อยเพราะอาจจะมีอัดเสียงเพิ่มบ้าง ได้มีการโชว์โทนของหนังเรื่องนี้แล้ว ดูแล้วน่าดูมากๆครับ หวังว่าทุกคนคงจะชอบกัน”
– สุดท้ายนี้อยากจะให้คุณฝากหนังเรื่องนี้ให้แฟนๆหน่อยนะครับ “รัก 7 ปี ดี 7 หน”
“ครับผม แฟนๆหนังของจีทีเอช แล้วก็แฟนๆของคุณด้วยนะครับ หนังเรื่องนี้นะครับ รัก 7 ปี ดี 7 หน เป็นหนังสั้นที่แบ่งเป็น 3 ตอนนะครับ มีความรักแบบ 3 วัยครับ อยากให้ทุกๆคนมาดูกันแล้วก็หวังว่าทุกคนจะได้ข้อคิดดีๆจากหนังเรื่องนี้ไปและขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงครับ ขอบคุณครับ”
อย่าลืมติดตามผลงานของนิชคุณกับการเล่นหนังเรื่องแรกตามที่หนุ่มนิชคุณชวนนะคะ โดยหนังเรื่องนี้เป็นโปรเจ็คท์พิเศษ ฉลอง 7 ปีของค่ายหนัง จีทีเอช (GTH) อีกด้วยค่ะ กำหนดฉาย 26 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
บันทึกภาพ: STARUPDATE.COM