พูดได้ว่าเข้าตา ท่านมุ้ย-หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เข้าอย่างจัง ทั้งบุคลิก หน้าตา หน่วยก้าน ความสามารถเฉพาะตัวในเรื่องการแสดง ตลอดจนความสามารถทางด้านกีฬา ทั้งว่ายน้ำ, เทนนิส, ไอซ์สเก็ต, บัลเล่ต์ โดยเฉพาะยิมนาสติก ที่มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬาทีมชาติที่ผ่านการฝึกฝนมาตั้งแต่อายุเพียง 7 ปี เรียกได้ว่าสอดคล้อง และมีพื้นฐานตรงกับการเลือกให้มาถ่ายทอดตัวละคร เม้ยมะนิก ลูกครึ่งมอญ-พม่า ราชธิดาของ พระเจ้าศิริสุธรรมราชา เจ้าเมืองเมาะตะมะ ผู้อาสา และนำไพร่พลชาวมอญรามัญ เข้าร่วมสมทบกับกองทัพพระนเรศวรมหาราช เป็นสหายศึกร่วมกับอโยธยาเพื่อบุกหงสาวดีและตองอู เป็น1ตัวละครใหม่ ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญร่วมกับนักแสดงรุ่นใหญ่ระดับฝีมือแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง นิรุตติ์ ศิริจรรยา,รณ ฤทธิชัย, สะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์, ดามพ์ ดัสกร, รัชนี ศิระเลิศ, อรรถพร สุวรรณ (อาร์ทบิวตี้ฟูล บ๊อกเซอร์), แฟรงค์ สมศักดิ์ แก้วลือ, ไกรลาศ เกรียงไกร ร่วมกับนักแสดงหลักชุดใหญ่ที่มีบทบาทต่อเนื่องมาทุกภาค ของตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำเอา ปันปัน “เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ลูกไม้หล่นใต้ต้นของนักร้องสาว ฐิติมา สุตสุนทร ถึงกับยอมรับว่าการที่ท่านมุ้ยได้ให้โอกาสตนเอง เข้ามาร่วมปิดตำนานอภิมหากาพย์ภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่อย่างตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นการสานฝันที่เคยตั้งใจไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้วเป็นจริง
“ได้ทราบมาว่าท่านมุ้ยกำลังหานักแสดง หรือว่านางเอกที่เป็นนักกีฬา เพราะว่าท่านมุ้ยแพลนไว้ว่าบทนี้มันต้องบู๊หนักมาก จริงๆ ท่านก็มีดูไว้หลายๆ คน มีไปเล็งนางเอกอินเตอร์ไว้ด้วยค่ะ มีทีมงานติดต่อผ่านมาทางคุณแม่ พอรู้เราก็ตื่นเต้นมากๆ เลย เพราะว่าเราเป็นแฟนคลับของตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ มาตั้งแต่ภาคแรก แล้วตัวละครที่เก้าเล่นก็มีอายุพอๆ กัน ก็เลยรู้สึกว่าเป็นหนังประวัติศาสตร์ที่ดูไม่เบื่อเลย หลังจากนั้นก็ดูมาตลอดภาค 2-3 ดูต่อมาเรื่อยๆ ก็ไม่คิดว่า 10 ปีผ่านไป จากที่ภาคแรกเข้าฉายเราจะได้มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้
แน่นอนว่าหนังเรื่องแรกในชีวิตของนักแสดงแต่ละคนคงแตกต่างกันแต่สำหรับปันปันเต็มฟ้านอกจากจะเป็นหนังเรื่องแรกที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับระดับครูแถวหน้าของเมืองไทยอย่างท่านมุ้ยแล้วยังเป็นหนังพีเรียดย้อนยุคกลับไปถึง 400 กว่าปีที่ต้องจัดหนักจัดเต็ม ทั้งบทดราม่า และแอ็คชั่นแบบเต็มๆ ตัว
“สำหรับหนังเรื่องแรกของปันปันค่อนข้างหนักค่ะ เราต้องทำกิจกรรมต่างๆ ที่เราไม่เคยทำมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้าฟันดาบ สู้บนหลังม้า หรือว่าใช้อาวุธต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะธนูแล้วเราจะต้องโปรมาก มีคทา คืออาวุธเยอะมาก แล้วเราต้องขี่ม้าแบบโปร ถึงแม้ว่าเราจะเป็นนักกีฬายิมนาสติก แต่ยังไม่เคยต้องจับอาวุธ ขี่ม้าเร็วอะไรอย่างนี้นะค่ะ ก็มีเวลาสองอาทิตย์ที่จะต้องทำทุกอย่าง เลยต้องพัฒนาตัวเองเป็นสองเท่า แล้วก็พยายามตั้งสติว่าอันนี้ถือว่าเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเรานะ ถึงแม้ว่าเราจะมีเวลาน้อย แต่ว่าถ้าเราทำให้ดีที่สุด แล้วเราตั้งใจก็คงไม่มีอะไรเกินความสามารถไปได้ ก็ค่อนข้างยากค่ะ เพราะนอกจากที่ต้องแสดงอารมณ์หรือว่าที่ต้องบู๊หนักแล้ว ยังมีเรื่องบทเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยว่าบทที่ไม่ใช่ภาษาวัยรุ่นทั่วไปที่พูดกัน เราต้องไปฝึกพูดซ้ำเพื่อที่ให้เราได้ชินภาษาที่ในประวัติศาสตร์ช่วงนั้นเขาพูดกัน แต่ว่ายังโชคดีที่เราเป็นแฟนคลับนเรศวรมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยรู้ว่าถ้อยคำหรือวิธีการพูดเขาพูดเขาทำกันยังไง แต่ว่าในเรื่องของอารมณ์ก็คิดว่าเราก็พยายามจะเข้ามาเป็นตัวละครให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ พยายามไล่เรื่องราวของตัวละครมานอกเหนือจากบทที่ให้ไว้ค่ะ พยายามคิดว่าตั้งแต่เด็กๆ มีแบคกราวด์ชีวิตเป็นอย่างไร คิดมาตั้งแต่เริ่มต้น เกิดมาเป็นเจ้าหญิงนะพ่อแม่เราถูกฆ่าตาย เป็นลูกกำพร้า ต้องอพยพไปอยู่ในป่า ต้องสู้เพื่อประชาชนทุกอย่าง เรารักประชาชนของตัวเอง รักประเทศของตัวเองมาก แล้ววันหนึ่งถ้าสิ่งที่เรารักมากๆ มันสูญเสียไปหมดเลยเราจะรู้สึกอย่างไร”
เตรียมพบกับอีกหนึ่งสีสันแห่งความเข้มข้นของอีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่จะเผยให้เห็นถึงบทบาทของชาวมอญรามัญในการศึกครั้งสำคัญของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชใน อวสานหงสา 9 เม.ย.นี้ทุกโรงภาพยนตร์
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์