ถ่ายทำมาสักระยะกันแล้ว สำหรับ ภ. Yes or No 2.5 กลับมา เพื่อรักเธอ จากค่าย คัมออน สวีท (ComeOn Sweet) ซึ่งได้ ติ๊นา ศุภนาฏ จิตตลีลา และ ปีเก้ พิมพกานต์ บางชะวงษ์ พร้อมด้วยอีก 1 คู่จิ้น นัน สุนันทา ยูรนิยม และ หงหยก จันษกร กิตติวัฒนากร ที่มีข่าวเป็นคู่จิ้นกันมาตั้งแต่ยังอยู่ในบ้าน AF 10 มาแสดงนำร่วมกัน  โดยเนื้อเรื่องใน Yes or No 2.5 กลับมา เพื่อรักเธอ นี้ไม่ได้ต่อเนื่องจากทั้งสองภาคที่ผ่านมา แต่เป็นเรื่องราวของ 2 เพื่อนซี้สาวหล่อ ไวน์ (ติ๊นา ศุภนาฏ) ช่างภาพมาดเท่ กับ พี (นัน AF10) เชฟยอดฝีมือ ที่มีความรักความหลัง ความสับสนในหัวใจต่อ พิม (ปีเก้ พิมพกานต์) รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย และ ฟ้า (หงหยก AF10)เพื่อนสนิทของพิม ส่วนใครจะคู่ใครคงต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งตอนนี้ได้ดำเนินการถ่ายทำไปแล้วเกือบ 90 %

โดยในฉากที่เปิดให้ได้เข้ากองในวันนี้เป็น ฉากที่ ไวน์ แวะมาบ้านของ พิม เพื่อที่จะตัดใจจากพิมที่ต้องเข้าพิธีหมั้นเพราะถูกที่บ้านบังคับ แต่แล้ว พี เมื่อเห็นเพื่อนยืนเศร้าอยู่หน้าบ้าน ก็เลยเข้าไปปลอบใจ ให้ตัดใจจากพิม โดยการแกล้งลวนลามให้ไวน์ขำ ซึ่งฉากนี้ 2 สาวหล่อ ติ๊นา และ นัน ต้องเล่นกึ่งเลิฟซีนกันกลางแจ้ง โดย นัน จะเป็นเล่าถึงฉากนี้ว่า

“…ฉากนี้เป็นฉากที่ พี พา ไวน์ มาบ้านของ พิม เพื่อที่จะตัดใจเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นเพื่อนเศร้าเราก็เข้าไปปลอบ ให้ตัดใจซะ โดยการเสนอตัวเอง (หัวเราะ) จริง ๆ อยากให้เพื่อนเลิกเศร้ามากกว่า ก็เลยทำอะไรให้เพื่อนหลุดจากอารมณ์นั้นออกมา ก็มีเลยมีจุ๊บ ๆ กันหน่อย (หัวเราะ)  แรก ๆ ก็ขนลุกดี แต่สักพักก็ชินค่ะ ถือว่าไม่ยากเท่าไหร่ อีกอย่างคือด้วยความที่พีจะเป็นเพื่อนสนิทกับไวน์ จนบางทีสนิทกันจนเส้นแบ่งความเป็นเพื่อนมันไม่ชัดเจน ก็ต้องคอยติดตามดูว่าความสัมพันธ์ของตัวละครคู่นี้ค่ะ ว่าจะสนิทแนบแน่นกันขนาดไหนค่ะ

ด้าน ติ๊นา ก็มาปิดท้ายถึง Yes or No 2.5  ว่า

“…เรื่อง นี้จะไม่ต่อเนื่องจากเรื่องก่อน ตัวละครคนละตัว เนื้อเรื่องคนละเรื่องกัน อย่างบท ไวน์ ที่ติ๊นาได้รับก็โตขึ้นจากภาคที่ผ่านมา คือเหมือนภาคหนึ่ง ภาคสองยังเป็นนักเรียนกันอยู่ แต่ภาคนี้โตขึ้นมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ก็จะมีมุมมองความรักที่โตขึ้น อยากขอบคุณทุกคนที่รักหนังพวกเรา ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนด้วย ถ้าไม่มีแฟน ๆ ซัพพอร์ทก็คงไม่เกิดมาถึงภาคนี้ อยากให้ทุกคนติดตามและให้การสนับสนุนค่ะ…”

คอยติดตามชม Yes or No 2.5 กลับมา เพื่อรักเธอ ภาพยนตร์จะทำให้จิ้นฟินเวอร์ โดยผู้กำกับฝีมือดีอย่าง “กิรติ นาคอินทนนท์” ที่เคยผ่านผลงานมาแล้วมากมาย อาทิ รักสุดท้ายป้ายหน้า, ตีสาม 3D, ตีสาม คืนสาม 3D พร้อมฉายปลายพฤษภาคมนี้