ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Mad Max: Fury Road ที่มีกำหนดเข้าฉาย 14 พฤษภาคมนี้ นอกจากจะมีเหล่านักแสดงชื่อดังที่ขนกันมาเสริมทัพกันในหนังเรื่องนี้แล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือเหล่าบรรดารถที่ใช้ถ่ายทำให้หนัง ยังยกขบวนกันมาเสริมความเร็วความแรง ความบ้าคลั่งให้กับหนังเรื่องนี้อีกด้วย มาทำความรู้จักกับเหล่ารถยนต์ในภาพยนตร์ Mad Max: Fury Road

1.อินเตอร์เซ็ปเตอร์
มัสเซิลคาร์ (muscle car) รุ่นแรกของแม็กซ์ (MAX) XB Falcon Coupe ที่มีชื่อเสียง เมื่อตอนนี้ราชาแห่งท้องถนนกลายเป็นสัตว์ร้ายแห่งดินแดนทุรกันดารและทะเลทราย ลุยบนทางที่ขรุขระ วิ่งบนล้อที่เหมือนผ้าขี้ริ้วเหม็นชุ่มไปด้วยน้ำมัน หมวกสก็อตและที่พ่นลมที่ขับเคลื่อนด้วยสายพานที่ใช้การได้แต่ถูกทำลาย ยางหลังเหมือนผ้าขี้ริ้วมากกว่าเป็นยาง มีสนิม ผ่านการซ่อมแซมหลายต่อหลายครั้ง ไม่เหลือชิ้นส่วนเดิมให้เห็น บอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมา แม้อยู่ในที่ห่างไกลแต่ไม่เคยมีปัญหา เรียบง่ายแต่ดีที่สุด

2.กิกะฮอร์ส
คาดิลแลค คูป เดอ วิลลส์คู่หนึ่งในแฟล็กแรนต์ เดลิคโตได้ถูกจับแยกกัน ทำให้กว้างขั้น ติดอันหนึ่งเข้ากับอีกอันหนึ่ง ติดล้อหลังคู่ขนาดใหญ่ที่มุมด้านที่สวยและขับเคลื่อนด้วย V8 คู่ที่ควบคุมด้วยกระปุกเกียร์ที่ทำด้วยมือที่สามารถบังคับและควบคุมกำลังที่ดีที่สุดของผู้นำที่ดีที่สุด ด้วยความที่เป็นเรือธงของอาร์มาดา (Armada) ของซิทาเดล (Citadel) กิกะฮอร์สจึงเป็นความทรงจำของความรุ่งเรืองในอดีตและความปรารถนาถึงชัยชนะในอนาคต มีฉมวกจับวาฬเป็นอาวุธและเครื่องพ่นไฟของปีศาจ กิกะฮอร์สน่าจะเป็นสิ่งแรกที่ท่านได้ยินและสิ่งสุดท้ายที่ท่านเห็นบนถนนที่เกรี้ยวกราด

3.นักซ์คาร์
ดิซคูป (Deuce Coupe) 5 หน้าต่าง ซูเปอร์เทอร์โบ ชาร์จ ไนตรัสบูสต์ ยานพาหนะชนิดนี้เป็นความฝันของคนขับตีนผีทุกคนและเป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักซ์ ผู้ที่ศรัทธาอย่างแท้จริงและคนขับรถยิงในซิทาเดลอาร์มาด้าที่สนุกกับใช้ชีวิตและผู้ที่เชื่อมั่นในกำลังของ วี 8 ว่าจะนำพาไปสู่วัลฮัลลาได้ นักซ์เป็นผู้ส่งมอบความตาย ผู้ที่คลั่งใคล้ บริวารผู้จงรักภักดีและผู้มีสติปัญญาและรถยนต์เป็นศิลปะ ความหวังและจิตวิญญาณของเขา เขาสวมหมวกแกะสลักและหน้ากากยามออกสู่สนามรบและบูชา โจ เทพเจ้าแห่งความเป็นอมตะ พระเจ้าที่แท้แจริงของนักซ์ได้แก่เครื่องยนต์และโบสถ์คือรถยนต์

4.วอร์ริก
รถลากจูงและพ่วงและตกแต่งจนกลายพันธุ์เพื่อเพิ่มสมรรถนะ ทวิน วี 8 จากหัวถึงท้าย ขับเคลื่อน 6 ล้อ รถขนาดมหึมาที่มี 18 ล้อ บรรจุด้วยของเหลวและอาวุธปืนที่ท่องไปสามเมืองของดินแดนที่ทุรกันดาร วอร์ริกแล่นไปบนถนนขรุขระ สัตว์ร้ายแห่งสงคราม บังคับโดยนักรบที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดและคนขับซิทาเดล ฟูริโอซ่า ทหารนับโหลกระโดดลงรถบรรทุกและรถพ่วงติดขนาดใหญ่นี้และรถคุ้มกันและรถจักรยานยนต์ข้ามทะเลทราย บ่ายหน้าไปตามบันทึกการเดินทางของศาสนาและความหายนะของมวลมนุษย์ วาดลวดลายออกมาเลย

5.เอฟดีเค
โฟล์คสวาเก้น วี 8 ซูเปอร์ชาร์จ เอฟดีเค ทำหน้า ที่เป็นรถคุ้มกันจากแก๊สทาวน์สำหรับเมอร์ซีเดสลีมูซีน หอที่กำลังแตกในแนวนอนที่เป็นรถบรรทุกเชื้อเพลิง รถสีเงินขัดเงา เชื้อเพลิงหลายถัง ท่อพ่นไฟคู่และท่อไอเสียสามท่อสำหรับระบายความร้อนและความควบแน่นและไอเสียจากเครื่องยนต์ขนาดมหึมา เสียงราวกับเสียงคำรามทั่วที่ราบที่ว่างเปล่าในการติดตามและปล้นสะดมภ์

6.แคร็งกี้แฟร็งก์
แร็ตร็อด (Rat Rod) ของโฮลเด้น เอฟเจ ที่ตัดด้าน บนออก ด้วยท่อ วี 8 ซูเปอร์ชาร์จ จำนวน 4 ท่อ คาร์บูเรเตอร์และที่พ่นลมที่ขับเคลื่อนด้วยสายพาน พร้อมด้วยเครื่องยิงด้านท้ายที่สูดฝุ่นและพ่นอินทผลัมและเกาลัดจากถาดหลัง แคร็งกี้แฟร็งก์เป็นคนชี้เป้าที่ไว้ใช้ได้แต่มีความผิดปกติทางจิตสำหรับผู้ติดตามของผู้ที่เป็นอมตะ ผู้คุ้มกันและนำทางให้กับกิกะฮอาร์ส สัตว์ร้ายที่มีแผลเป็นและทำให้เรื่องมีประโยชน์กลายเป็นเรื่องไร้ประโยชน์

7.พีซเมกเกอร์
ใครกล้าขับเมอร์ลิน วี 8 ที่ต้องใช้น้ำที่เย็นในทะเล ทรายที่แห้งแล้งตามบันทึกในศาสนา? ชายคนดิมที่ผูกพันกับมัสเซิลคาร์และปืนกล รถถังและตอร์ปิโด คลังแสง ชาวนาที่มีอาวุธ ความเร็วสูง มีชั้นเชิงในการวางกลยุทธ์ พาหนะที่ไปทุกหนทุกแห่งพร้อมปืนใหญ่ คลั่งไคล้ในความตาย ไม่รู้สึกผิดทางศีลธรรม พีซเมกเกอร์เป็นนักล่าวาฬสีบรอนซ์แห่งยุค 70 และนักล่าแห่งทะเลทรายและนักล่ามนุษย์

8.พลัฟบอย
อีเอช วาก้อน ที่แล่นไปตามท้องถนน ติดฉมวก และเครื่องไถไฮดรอลิกสำหรับตักและลากเหยื่อให้อยู่นิ่งกับที่และ ‘เก็บเกี่ยว’ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พลัฟบอยถูกขาย ขโมยหรือกู้และนำมาใช้อีกครั้งเป็นรถแทร็กเตอร์ในทุ่งนา แผ่นดินที่เต็มไปด้วยเลือด กระสุน โครงกระดูกและซากศพ

9.บวิก
สมบุกสมบัน ขัดเงา เป็นลายทาง เปล่งประกาย บวิกเป็นมาตรฐานและผู้อารักขาส่วนตัวสำหรับกิกะฮอร์สและเทพเจ้าโจ มีทหารที่ไว้วางใจได้เป็นกองหนุนคอยยิงคุ้มกันจากป้อมปืนและปืนต่อต้านอากาศยาน ที่พร้อมสนับสนุนหรือแก้แค้น

10.แม็ค
แม็คเป็นรถบรรทุกลาก เป็นสุนัขบุลด็อกที่ทำหน้าที่ กวดล้างที่อยู่เบื้องหลังการเก็บและการรีไซเคิลของเสียจากสงครามและการบรรทุกรถหลังจากเสร็จสิ้นการกู้ภัย แม็คเป็นยานพาหนะเก็บกู้สำหรับงานหนักที่ไม่ติดอาวุธและใช้ฉมวกและกระสุนปืนและต้องระวังบนท้องถนนที่เกรี้ยวกราด

11.บักกี้ หมายเลข 9
เพอเรนต์ติ ((Perentti) ตัว t สองตัวเช่นเดียวกับ คอร์เว็ตต์ (Corvette) เป็นความผิดพลาดของออสเตรเลีย รถสปอร์ตที่สร้างแบบขึ้นหลังจากรถมัสเซิลของอเมริกัน ที่มีตัวถังไฟเบอร์กลาสและออกจำหน่ายในช่วงวิกฤติของตลาด ในบันทึกทางศาศนา ที่ซึ่งมนุษยชาติอยู่ร่วมกันในยุควิกฤต เพอเรนติดูเหมือนจะเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นปืนใหญ่ที่ได้รับความเห็นชอบและความไว้วางใจบนท้องถนน

12.เอลวิส
จีเอ็มซี 6 หนึ่งคู่ที่มีเชือกจากปลายด้านหนึ่งถึงปลาย อีกด้านหนึ่งบนรางคัสซีที่ยืดออกของคูเป้สามหน้าต่างที่สร้างขึ้นสำหรับให้เกิดเสียงสำหรับ วี 12 ด้วยหัวฉีดไนตรัสและลำปืนเดี่ยวที่รักษากำลังให้ได้สัดส่วนกับน้ำหนักที่เหมาะสมกับเอลวิสเพื่อใช้ลุยนอกถนนด้วยความเร็วสูงสำหรับเป็นรถคุ้มกันในสนามรบ จังหวะการเต้นของหัวใจของคนขับบนท้องถนนที่ขรุขระ

13.ด็อดจ์
รถติดอาวุธปืนรุ่นแรกของซิทาเดล สุนัขจู่โจมพ่นไฟ ‘หลุด’ มาจากแก๊สทาวน์ บ้าคลั่งกับการไล่ล่า เป็นรถสำหรับลุยแบบดั้งเดิม ติดท่อพ่นลมที่ด้านหน้าหม้อน้ำ ดูดอากาศและฝุ่น มีถุงน่องหนึ่งคู่เป็นเครื่องกรอง ด้วยคนขับที่เก่งฉกาจเสริมด้วยกำลังจากไนตรัส ด็อดจ์จึงได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของนักซ์ ที่สามารถวิ่งไปถึงเหมืองแร่ได้อย่างรวดเร็ว

14.ปริ๊นซ์แวเลียนต์
มัสเซิลคาร์ (muscle car) วี 8 แบบพ่นไฟที่เป็นมรดกของชาวออสเตรเลีย สีรถแทบจะมองไม่เห็นเนื่องด้วยทรายที่ติดอยู่เต็มจากการวิ่งฝ่าพายุทราย ด้วยความเร็ว และสนิมที่เกาะติด รถยนต์ติดท่อพ่นไฟแรงสูงและลูกระเบิดโมโลทอฟและทหารสามนายที่พร้อมจู่โจมและไล่ล่าด้วยความเร็วสูง

15.บิ๊กฟุต
อาวุธให้เลือกสำหรับริกตัสและอิเร็กตัส บุตรคนที่หนึ่งและบุตรที่พิการของเทพเจ้า โจ ด้วยความสูงเกือบ 7 ฟุต นักรบผู้นี้จำเป็นต้องใช้ยานพาหนะจำนวนมาก เหล็กกล้าที่ตีในยุค 40 ของคอกม้าใช้งานฟาร์โก ซูเปอร์ชาร์จ วี 8 ที่ควบคุมด้วยเครื่องส่งกำลังอัตโนมัติเทอร์โบ 400 ขับเคลื่อนยางเทอร์ร่า 66 นิ้ว ผ่านชุดดุมล้อลดเกียร์แนวราบจากตัวถังแบบซุปเปอร์ที่เคยใช้ในกองทัพมาก่อน ชุดส่งกำลังสี่ฟุตและเครืองส่งกำลัง 600 ลูกบาศก์นิ้วทำให้ยานถาหนะนี้สามารถปีนภูเขาที่ลาดชันที่เทพเจ้าประจำอยู่ที่นั่งคนขับและบุตรชายถือฉมวกและปืนกลคาดที่มีลูกกระสุนเต็มสายพาน จบลงด้วยน้ำตา

16.ไฟร์คาร์หมายเลข 4
โฮลเด้น เอชแซด ยูทีอี ของยุค 70 แต่งขอบยาง เรเดียลและกระดูกฟอก ยานพาหนะไล่ล่าแห่งแก๊สทาวน์ ที่สร้างขึ้นสำหรับความโหดร้ายและบีบีคิว สายฟ้าจากด้านหน้าและเครื่องยิงและเครื่องพ่นไฟจากถาดหลัง คนขับ ปืนสั้น ทหารมือถือทวนและคนยิงปืน ทีมจมและเชื่องช้า เปิดโอกาสให้แมวป่าตามมา ขโมยและปล้น

17.พลีมัธร็อค
นกแร้งเป็นเจ้าถิ่นของดินแดนแห้งแล้งทุรกันดาร ไฮยีน่าเป็นนักล่าที่มีเล็บที่ยาว อยู่รวมกันเป็นฝูง แยกเขี้ยว คำรามไล่ตัวที่โง่พอให้ออกไปอยู่ในดินแดนที่แห้งแล้งรอบถนน สัตว์ที่กินซากสัตว์เป็นอาหาร ต้องการพ่อค้าไม่ใช่เครื่องจักรกล ไม่แสวงหาการช่วยให้พ้นภัยและเกิดใหม่แต่เป็นวัตถุดิบเพื่อบริโภค เล็กกล้าไม่ใช่ซีดาน เนื้อสัตว์ไม่ใช่คน

18.ดูฟวาก้อน
ทุกกองทัพจะมีเด็กตีกลอง ที่คอยปลุกขวัญกำลังใจ และไม่ยกเว้นแม้ทหารในพื้นที่ทุรกันดาร คนตีกรองประจำตำแหน่งเพื่อตีกลองให้เสียงดังกระหึ่มผ่านเครื่องที่สร้างด้วยท่อลม ในขณะที่นักรบดูฟกำลังอยู่ในภาวะคับขัน ไร้ทิศทางและกระจัดกระจาย นายทหารจะโรยตัวลงมา กระจายไปที่ด้านหน้าเครื่องขยายเสียง เคลื่อนที่ไปบนทะเลทรายไปยังรถบรรทุกขีปนาวุธ 8 x 8 เสียงร้องโหยหวน เรียกหาอาวุธ นอนจมกองเลือด เสียงดนตรีแว่วเข้าหู ท่วงทำนอง เพลง เสียงกรีดร้อง ซาวน์แทร็ค จนสิ้นสุดยุคแห่งความศิวิไลซ์ แต่เราออกไปเต้นรำ

ยึดเบาะให้แน่น แล้วโลดแล่นไปกับยุคหลังโลกาวินาศของแมดแม็กซ์ ถนนโลกันตร์ ที่ซึ่งรถไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะที่เอามาอวดกัน แต่ถูกสร้างและดัดแปลงให้ตะลุยผาดโผนระดับมหึมา พบกับความอลังการอันบ้าคลั่งนี้ได้ใน Mad Max: Fury Road แมดแม็กซ์ ถนนโลกันตร์ 14 พฤษภาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://vehicleshowcase.madmaxmovie.com/intl/th/หรือ https://www.facebook.com/MadMaxMovieThailand