หลายคนอาจไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อ “บรูซ ลาบรูซ” (Bruce LaBruce) มาก่อน แต่ในแวดวงภาพยนตร์อินดี้/อันเดอร์กราวน์ ชื่อของผู้กำกับสัญชาติแคนาดาผู้นี้เป็นชื่อที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะบรูซ ลาบรูซได้ชื่อว่าเป็นคนทำหนังอินดี้ที่เล่นกับประเด็นแรงๆ มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเหยียดผิว การเล่าเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงและผู้ชายขายตัว การใช้คาแรกเตอร์เกย์เป็นตัวละครหลักแต่เล่าในหนังตระกูลซอมบี้ และที่พบได้บ่อยครั้งที่สุดในหนังของลาบรูซก็คือ การนำเสนอเรื่องเพศอย่างตรงไปตรงมาจนทำให้หนังของเขามีเส้นแบ่งที่บางมากระหว่างการเป็นหนังอินดี้กับหนังโป๊ ฯลฯ

บรูซ ลาบรูซยังเป็นทั้งนักเขียน บรรณาธิการ ช่างภาพ และศิลปิน ผู้เป็นหัวหอกของขบวนการ “Queercore Movement” ที่ถือกำเนิดขึ้นในยุค 80 เพื่อโต้ตอบกับกระแสสังคมในการไม่ยอมรับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในยุคนั้น พูดได้ว่า แม้ผลงานของบรูซ ลาบรูซจะเต็มไปด้วยส่วนประกอบที่แรงในสายตาหลายๆ คน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่า หากพูดถึงความเคลื่อนไหวใน     แวดวง Queer Cinema ชื่อของบรูซ ลาบรูซต้องได้รับการพูดถึงเป็นชื่อแรกๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งหมดที่กล่าวมาคงจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ นิวยอร์ค (Museum of Modern Art New York: MoMA) เลือกนำผลงานภาพยนตร์ทั้งหมดของบรูซ ลาบรูซมาจัดแสดงรวมกันแบบ Retrospective เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และแน่นอน ภาพยนตร์ที่ฉายเปิดนิทรรศการครั้งนั้นย่อมต้องเป็น GERONTOPHILIA ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของลาบรูซ เจ้าของรางวัล Grand Jury Award จากเทศกาลภาพยนตร์ Milan International Lesbian and Gay Film Festival 2014 ที่เซอร์ไพรส์นักวิจารณ์และแฟนหนังของเขาทั่วโลก ด้วยการเป็น “หนังโรแมนติกคอมเมดี้” ที่ไม่มีฉากเซ็กซ์ซีนแรงๆ เลยแม้แต่ฉากเดียว!

บรูซ ลาบรูซ ให้ความเห็นถึง GERONTOPHILIA ในฐานะผู้กำกับและผู้ร่วมเขียนบทว่า “จริงๆ แล้วหนังของผมทุกเรื่อง ถึงมันจะรุนแรงหรือว่าโป๊ขนาดไหน หรือไม่ว่าหนังจะพูดถึงความสัมพันธ์ของคนอาชีพใดก็ตาม จะเป็นช่างทำผม เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงขายตัว เป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป หรือจะพูดถึงปมขัดแย้งทางเพศอย่างไร แต่ทุกเรื่องล้วนมีส่วนผสมของความเป็นหนังโรแมนติกอยู่ข้างใน สำหรับ GERONTOPHILIA ผมอยากผลักดันประเด็นโรแมนติกคอมเมดี้ของหนังให้ไปไกลและลึกขึ้นอีก เหมือนที่ผมไปสุดทางกับการทำหนังในแนวทางใดแนวทางหนึ่งในเรื่องก่อนๆ”

ที่บอกว่าสุดทางก็คือ ถึงแม้ว่า GERONTOPHILIA จะไม่มีฉากไหนรุนแรงหรือโป๊(มาก)เหมือนหนังของลาบรูซเรื่องก่อนๆ แต่ในหนังเรื่องนี้ บรูซยังคงความแรงในสไตล์ของเขาไว้ที่พล็อตเรื่อง ด้วยการเลือกประเด็น sexual taboo ที่หลายคนถอยหนี (GERONTOPHILIA แปลว่า “การมีความต้องการทางเพศกับผู้สูงอายุ”) มาบอกเล่าเรื่องราวของ “เลค” เด็กหนุ่มรูปหล่อที่พบว่าตนเองมีความรักความชอบในตัวชายสูงวัย นำไปสู่เรื่องราวความรักและการผจญภัยของสองหนุ่มต่างวัยแต่ใจตรงกันที่ดูสนุกไม่แพ้หนังโรแมนติกคอมเมดี้จากฮอลลีวู้ดที่ทุกคนคุ้นเคย

“พล็อตของ GERONTOPHILIA อาจจะฟังดูแปลกอยู่สักหน่อย แต่ความสนุกของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การติดตามเรื่องราวความรักของ 2 คาแรกเตอร์ที่มันต่างกันมากแต่ต้องมาอยู่ด้วยกันว่ามันจะเป็นยังไงต่อ” ฐปนัฬศ์ วิจิตรรัฐกานต์ พูดถึง GERONTOPHILIA หนังเรื่องที่ 2 ที่เขาทำหน้าที่ผู้จัดจำหน่ายในไทย หลังฝากความประทับใจมาแล้วจากหนังรักเล็กๆ จากบราซิลเรื่อง THE WAY HE LOOKS ที่หลายคนชอบกัน “ความเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ของหนังเรื่องนี้ชัดเจนว่าอยู่ในบริบทที่แตกต่างไปจากหนังฮอลลีวู้ดที่หลายคนเคยดู แต่ถามว่าดูจบแล้วรู้สึกยังไง ก็ตอบได้ว่ารู้สึกว่าเป็นหนังที่น่ารัก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นในหนังของคนที่ทำแต่หนังแรงๆ อย่างบรูซ ลาบรูซ อยากให้ทุกคนดูกันครับ”

GERONTOPHILIA พร้อมฉายให้ชมแบบจำกัดโรงที่โรงภาพยนตร์ลิโด้ สยามสแควร์ ตั้งแต่วันที่    10 กันยายน เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง GERONTOPHILIA สามารถเข้าไปดูได้ที่เพจเฟซบุ๊ค “ดูหนังทุกวัน”