“ผู้หญิง” และ “ความงาม” นับเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหญิงสาวส่วนใหญ่ ใฝ่ฝันหาความงามที่เป็นอมตะ หากย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอดีตที่จักรพรรดินีในดินแดนต่างๆ อาทิ อาณาจักรอียิปต์โบราณ, กรีซ, โรมัน ฯลฯ ล้วนสรรหาวัตุดิบต่างๆ เพื่อมาปรนนิบัติความงามให้กับผิวในแบบเฉพาะตัว รวมไปถึง “ดอกกุหลาบ” ราชินีแห่งมวลพฤกษชาติตัวแทนแห่งความเลอค่าและงดงามเหนือกาลเวลา ที่ได้รับคำเปรียบเปรย ให้เป็นดอกไม้ตัวแทนแห่งราชนิกูลผู้สูงศักดิ์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวแทนความงดงามตามแบบฉบับของหญิงสาวทั่วโลกด้วยเช่นกัน แท้จริงแล้ว ดอกกุหลาบ มีคุณค่าในด้านความงามมากกว่าการเป็นดอกไม้ประดับ เพราะยังเป็นที่เลื่องลือว่า เป็นส่วนผสมชั้นเลิศที่ทรงประสิทธิภาพในการเนรมิตความขาว กระจ่างใสเปล่งประกายให้กับ หญิงสาวในราชสำนักชั้นสูงโดยเฉพาะ
ในปัจจุบัน หากจะพูดถึงดอกกุหลาบที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก คงต้องยกให้ “พรรณกุหลาบบัลแกเรีย” เนื่องจากประเทศบัลแกเรียมีดินและสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกกุหลาบจนได้ชื่อว่า ดินแดนแห่งพรรณกุหลาบ ด้วยอุณภูมิที่เหมาะสมกระตุ้นให้ดอกกุหลาบผลิตน้ำมันออกมาปริมาณมากและมีคุณภาพยอดเยี่ยม จนได้รับสมญานามว่าเป็น Liquid Gold หรือทองคำเหลว เพราะการจะสกัดน้ำมันดอกกุหลาบบัลแกเรียได้ 1 กิโลกรัมนั้น ต้องใช้ดอกกุหลาบถึง 3,000 กิโลกรัม โดยมีความนิยม และมีการวิจัยในการนำสารสกัดจากดอกกุหลาบบัลแกเรียมาใช้ในวงการเครื่องสำอางและสกินแคร์กันเพิ่มขึ้นอย่างกว้างขวาง
มร.ฮุน แด โช (Hyun Dae Cho) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แห่ง แบรนด์เครื่องสำอางมิลเล่ เครื่องสำอางเวิลด์คลาสชั้นนำอันดับหนึ่งจากประเทศเกาหลี กล่าวว่า “ทางทีมวิจัยได้มีการคิดค้นและนำ Rosa Damascena Flower Water หรือสารสกัดจากน้ำกุหลาบบัลแกเรีย มาใช้ตั้งต้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยพบว่ามีส่วนช่วยในการตราตรึงความอ่อนเยาว์ รวมถึงเข้าฟื้นฟูเซลล์ผิวคล้ำเสีย เสื่อมสภาพ เสริมสร้างความแข็งแรงของไฟเบอร์และความยืดหยุ่นให้ผิวที่ขาดคอลลาเจน เรียกได้ว่า Bulgaria Rose นั้น เมื่อนำไปสกัดจนได้สารสกัดที่เข้มข้นจะทรงประสิทธิภาพล้ำค่า เปรียบเสมือนอาวุธลับในการปรนนิบัติผิวพรรณชั้นเลิศที่ทรงคุณค่า ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนับเป็นภูมิปัญญาความงามโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยแบรนด์เครื่องสำอางมิลเล่ (Mille) คือแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่สามารถไขความลับอันทรงคุณค่าและพัฒนาต่อยอดด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำจนนำไปสู่ประสิทธิภาพเหนือระดับที่ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตและฟื้นฟูเซลล์ผิวชั้นนอกที่ได้รับความเสียหายจากการรุกรานของแสงแดดและมลภาวะได้ดียิ่งขึ้นถึง 3 เท่า”
มร.ฮุน แด โช กล่าวเพิ่มเติมว่า “โดยนอกเหนือจากสารสกัดน้ำพรรณกุหลาบบัลแกเรียแล้ว ยังมีการวิจัยและพบว่ามีเคล็ดลับความงาม ที่ช่วยในเรื่องของความขาวกระจ่างใส อาทิ Whitening Moringa Pterygosperma Seed (สารสกัดจากเมล็ดมะรุม) ที่ช่วยขจัดสิ่งตกค้างและความมันที่จะเข้าอุดตันและยึดพื้นที่ของรูขุมขน ที่ส่งผลเสียถึงปัญหาสิว ความหมองคล้ำและไม่สดใสอีกด้วย รวมถึง Rice Bran (จมูกข้าว) ที่ได้รับการเพาะปลูกแบบออร์แกนิค ผ่านการคัดสรรและผ่านกระบวนการคัดกรองผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพจากผู้ผลิตอันดับหนึ่งของประเทศเกาหลี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยพลิกฟื้นความชุ่มชื้นได้ทันทีที่สัมผัสลงสู่ผิว สร้างสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยยับยั้งการก่อตัวของกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน อันทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดสารอุดตันในชั้นรูขุมขน”
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ ที่มีส่วนผสมต่างๆ ควรเลือกจากแบรนด์หรือผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ และได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำ อาทิ ISO14001: 2004, ISO9001: 2008, ISO22716: 2007 ฯลฯ ก็เป็นอีกหนึ่งข้อในการเลือกซื้อ เพื่อผู้หญิงทุกคนจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และหลีกเลี่ยงต่อการแพ้
สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากทราบเคล็ดลับความงามจากดอกกุหลาบบัลแกเรีย เพื่อให้ผิว เปล่งปลั่งเป็นประกาย พร้อมสวยสดใสในสไตล์เวิลด์คลาสแบบเกาหลี ร่วมค้นพบความงามได้ที่ เคาน์เตอร์แบรนด์ “Mille” (มิลเล่) เครื่องสำอางเวิลด์คลาสชั้นนำอันดับหนึ่งจากเกาหลี ชั้น M พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์
บันทึกภาพ: ประชาสัมพันธ์
