หลังจากญี่ปุ่นประกาศยุติสงครามในจีน กลุ่มโจรกบฏได้ยึดครองป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนผาพยัคฆ์และเข่นฆ่าชาวบ้านละแวกนั้น หน่วยรบ 203 แห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจึงได้เข้ามาเพื่อที่จะวางแผนยึดป้อมบนผาพยัคฆ์คืนโดยการส่งสายลับเข้าไปแทรกซึกกับกลุ่มโจร แล้วสงครามระห่ำแห่งการชิงไหวพริบจึงเริ่มขึ้น
ภาพยนตร์เรื่อง The Taking of Tiger Mountain ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมชื่อดังของ ฉู โบ ในชื่อ “Track in the Snowy Forest” เป็นเรื่องราวในช่วงสงครามกลางเมืองในปี คศ. 1946 เมื่อกลุ่มโจรที่ปกครองแผ่นดินในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจีนได้คุกคามชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนในแถบนั้นนำโดยผู้นำจิตใจโหดเหี้ยมอย่าง “ประมุขเหยี่ยว” (โทนี่ เหลียง กา ไฟ) เขาได้ยึดป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งอยู่บนผาพยัคฆ์ พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์การตั้งรับอย่างสมบูรณ์แบบ
หน่วยรบ 203 ของกองกำลังปลดปล่อยประชาชน นำโดย “ผู้กอง 203” (หลิน เกิงซิน) กำลังเดินทางข้ามดินแดนแห่งทิศอีสานแห่งประเทศจีน เขาได้ปะทะกับกลุ่มโจรของประมุขเหยี่ยวที่กำลังปล้นชาวบ้านทำให้เขาได้รู้ว่าที่แห่งนี้กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ทำให้เขาตัดสินใจที่จะอยู่และต่อสู้กับกลุ่มโจรกบฏนี้
ทางการได้ช่วยเหลือหน่วยรบ 203 โดยส่งสายลับผีมือดีเข้ามาช่วย “หยาง” (จาง ฮั่นหยู) เพื่อเข้าแทรกซึมเข้าไปอยู่ในกลุ่มโจรของประมุขเหยี่ยว หน้าที่ของเขาคือการล้วงความลับและศึกษาจุดอ่อนของป้อมปราการแห่งนี้เพื่อให้ผู้กอง 203 ได้นำทัพมายึดภาพยัคฆ์นี้ให้ได้
ฉีเคอะ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวว่า “ครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับเรื่องราววรรณกรรมของ Track in the Snowy Forest คือเมื่อครั้งที่ผมไปดูในโรงละครโอเปร่าเมืองปักกิ่ง เรื่องราวของมันคือการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบระหว่างทหารและกลุ่มโจร และสิ่งที่ทำให้ผมทึ่งก็คือเรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมจะไม่สร้างให้มันดูเป็นภาพยนตร์เชิงประวัติศาสตร์ หรือ ให้มันออกเป็นแนวละครเวที ตรงกันข้าม ผมจะสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เป็นภาพยนตร์ร่วมสมัย และเชื้อเชิญคนดูทุกรุ่น ทุกสมัยให้มาสัมผัสกับเรื่องราวและการถ่ายทอดอารมณ์ของเรื่องที่เกิดขึ้น ในโลกปัจจุบัน
เราทุกคนมีฮีโร่ที่เรารักและรู้จัก แต่ยังมีฮีโร่บางคนที่เรานั้นอาจไม่เคยรู้จักหรือหลงลืมไป ซึ่งคนๆนั้นก็เป็นคนที่ยอมทุ่มเทเสียสละทั้งชีวิตเพื่อปกป้องเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ผมเชื่อว่าผู้คนหลายคนหลงลืมชื่อฮีโร่ไปอย่างง่ายดาย และการที่เขาตัดสินใจสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ The Taking of Tiger Mountain นี้ ก็เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรำลึกถึงพวกฮีโร่เหล่ากล้ากลุ่มนี้”
บันทึกภาพ: Mono Group