เรียกได้ว่าแฮปปี้อินเกมแอน์ดซักซี้ดอินเลิฟกันเลยทีเดียวสำหรับสาวมัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย เพราะจูงมือแฟนหนุ่มเข้าประตูวิวาห์ พร้อมกับเปิดค่ายเพลงของตัวเอง และมีซิงเกิ้ลใหม่มาให้แฟนๆ ได้ฟังเสียงเพราะๆ แล้ว “พันท้ายนรสิงห์” ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตที่เรียกได้ว่าโปรดักชั่นสุดพิถีพิถัน เพราะคือผลงานการกำกับระดับครูใหญ่ของวงการภาพยนตร์ไทย ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ศิลปินแห่งชาติ ในโปรแกรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 30 ธันวาคมนี้
โดยเฉพาะบท “แม่นวล” หญิงสาวชาวบ้านแห่งเมืองวิเศษชัยชาญ ผู้ซึ่งเป็นที่รักหญิงของ “สิน” หรือ “พันท้ายนรสิงห์” คือผลงานการแสดงภาพยนตร์ที่มัดหมี่ทุ่มสุดตัวเป็นตัวละครที่มัดหมี่รักมากที่สุด อินกับคาแรคเตอร์ที่สุดแล้ว ยังเป็นผลงานการแสดงที่เรียกได้ว่าท้าทายที่สุดในชีวิต เพราะนอกจากต้องเปลี่ยนลุคตัวเองเป็นสาวชาวบ้านสมัยพ.ศ. 2231 ในช่วงปลายของกรุงศรีอยุธยา ด้วยการยอมหั่นผมสวยๆ ของตัวเองสั้นเป็นทรงดอกกระทุ่ม นุ่งผ้าแถบ กว่าจะได้เปิดกล้องถ่ายทำต้องถูกส่งเข้าไปเรียนหลักสูตรพิเศษใน “โรงเรียนท่านมุ้ย” ขี่ม้า ขี่ควาย ฝัดข้าว พายเรือ อาบน้ำในคลอง ยังไม่รวมกับที่ต้อง เรียนรำ ร้องเพลงฉ่อย โดยได้ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน–อีแซวปีพ.ศ. 2539) อย่าง แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์มาเป็นติวเตอร์อย่างเข้มข้นทั้งในสตูดิโอและกองถ่ายที่กาญจนบุรีเลยทีเดียว
“ก็ต้องบอกว่าดีใจมากเลยคะ เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของมัดหมี่ด้วย ตัวมัดหมี่เองก็อยากเห็นการแสดงของตัวเองที่เล่นไป คนรอบตัวทุกคนก็อยากดู ดีใจที่ภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์จะได้ฉายแล้ว โดยส่วนตัวรู้สึกเลยค่ะว่ามัดหมี่รักตัวละครแม่นวลมาก แล้วเชื่อว่าแต่ละตัวละคร นักแสดงทุกคนที่เล่นเรื่องนี้เขาก็รักตัวละครของเขา ทุกครั้งที่เล่นเสร็จเราจะมานั่งคุยกัน แชร์ความรู้สึกกันว่าเป็นยังไง รู้สึกยังไง ยอมรับว่าเล่นจบไปแล้วเราก็รู้สึกว่ายังติดความเป็นแม่นวลอยู่บ้างค่ะ ยังจำได้เลยว่าตอนแรกเลย พอได้ทราบว่ามาแคสท์เป็นแม่นวลในพันท้ายนรสิงห์ ตื่นเต้นสุดเลย คือตอนแรกทำอะไรไม่ถูกเลย แล้วเราก็ไม่มีประสบการณ์ทางด้านการแสดงมาก่อนด้วยยิ่งพอรู้ว่าผู้กำกัคือท่านมุ้ยซึ่งท่านเป็นถึงผู้กำกับมือ1ของประเทศไทยด้วย มัดหมี่ก็ตื่นเต้นมาก ถามว่าหลักสูตรโรงเรียนท่านมุ้ยสอนอะไรบ้าง ในภาพยนตร์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ นวลจะต้องทำเป็นทุกอย่างเลยคะ ซึ่งในชีวิตจริงมีบางอย่างที่ตัวมัดหมี่เองอาจทำไม่เป็นบ้างนะคะ (หัวเราะ) อย่างเช่นต้องฝึกร้องเพลงฉ่อยกับแม่ขวัญจิต ซึ่งแม่ขวัญจิต ก็จะน่ารักมากคือเดินทางมาไกลเลยนะคะ มาจากสุพรรณฯแล้วก็มาสอน ทั้งที่สตูดิโอที่กรุงเทพด้วย แล้วก็มีทั้งไปที่กาญจนบุรีด้วยเลย ยากมากค่ะเราอาจจะมีพื้นฐานจากทางด้านการร้องเพลง แต่เพลงฉ่อยต้องเอื้อนเยอะแล้วต้องจำคำอะไรหลายๆ อย่าง แล้วไม่ได้แค่ร้องเพลงอย่างเดียว ต้องมีทำกิจกรรมไปด้วยอย่างเช่นมีการรำ ฝัดข้าว ขี่ควาย พายเรือ ขี่ม้า ซึ่งมัดหมี่ ตกม้ามาแล้ว ตกควายมาแล้วด้วยค่ะ ทำกับข้าวนี่เป็นคนที่ไม่ถนัดเลย ต้องไปเรียนกับหม่อมบี๋ (หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสร้าง) ก็จะช่วยสอนด้วยค่ะ มีซักผ้าแบบโบราณด้วยค่ะ เอาง่ายๆ คือต้องเป็นแม่บ้านถึงที่สุดแบบย้อนยุคกลับไปหลายร้อยปีที่แล้วด้วย”
บันทึกภาพ: สหมงคลฟิล์ม