เป็นความคลาสสิคที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริงสำหรับ “พันท้ายนรสิงห์” บทพระราชนิพนธ์อิงประวัติศาสตร์จากฝีพระหัตถ์ของ “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล” ที่จะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ ภาพยนตร์แอ็คชั่น-โรแมนติคอิงประวัติศาสตร์ จากผลงานการกำกับภาพยนตร์โดย ท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล โดยมี ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี รับบท “พระเจ้าเสือ” พร้อมด้วย 2 นักแสดงรุ่นใหม่มากฝีมืออย่าง เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์ และ มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย คู่พระนางที่จะมาถ่ายทอดความรักที่แสนลึกซึ้ง กินใจ และเต็มไปด้วยความเสียสละของพันท้ายนรสิงห์ และแม่นวล ทุกฉากล้วนผ่านความทุ่มเท และเต็มไปด้วยความปราณีตบรรจงที่ได้ทรงนำเสนอออกมาเป็นภาพที่งดงาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เพลง “น้ำตาแสงไต้” เพลงรักอมตะสุดคลาสสิคที่อยู่คู่กับ “พันท้ายนรสิงห์” มากว่า 7 ทศวรรษจากผลงานการสร้างสรรค์ของเหล่าศิลปินระดับครู ตั้งแต่การประพันธ์คำร้องโดย “ครูมารุต” (ทวี ณ บางช้าง ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยสาวเครือฟ้า , สันติ-วีณา รวมทั้งเป็นผู้แต่งเพลง และกำกับภาพยนตร์อมตะอย่าง “ชั่วฟ้าดินสลายฉบับปีพุทธศักราช 2498” และ “พันท้ายนรสิงห์ฉบับพุทธศักราช2493” ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 25 ภาพยนตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติประจำปี2558 และ “ครูเนรมิต” (อำนวย กลัสนิมิ) ศิลปินแห่งชาติสาขา ศิลปะการแสดง (ผู้สร้างภาพยนตร์และผู้กำกับภาพยนตร์) ประจำปีพ.ศ.2538 ผู้บุกเบิกการสร้างภาพยนตร์ไทยด้วยฟิล์ม 16 ม.ม. ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย อาทิ โบตั๋น,ผู้ชนะสิบทิศ ภายใต้การประพันธ์ทำนองโดย “ครูสง่า อรัมภีร” ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล) ประจำปีพุทธศักราช 2531 มีผลงานประพันธ์เพลงมากกว่า 2,000 เพลง รวมทั้งเพลงประกอบละครและภาพยนตร์กว่า 250 เรื่อง เป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลงอมตะหลายเพลงรวมทั้ง “เรือนแพ”
บทเพลง “น้ำตาแสงไต้” ที่ช่างไพเราะ ซาบซึ้ง ทุกครั้งที่ถ้อยคำของบทเพลง “นวลเจ้าพี่เอย คำน้องเอ่ยล้ำคร่ำครวญ ถ้อยคำเหมือนจะชวน ใจพี่หวนครวญคร่ำอาลัย” ดังขึ้นมา เหมือนกับที่นักแสดงมากฝีมือระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง นิรุตติ์ ศิริจรรยา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยรับบทพันท้ายนรสิงห์มาก่อน และในภาพยนตร์ฉบับพุทธศักราช 2558 ในบท พระยาราชสงคราม ตัวละครสำคัญที่ พระเจ้าเสือ และพันท้ายนรสิงห์จะต้องรับมือ ยกให้เพลงน้ำตาแสงไต้คือบทเพลงแห่งความประทับใจตลอดมา
“ทุกครั้งที่พูดถึง พันท้ายนรสิงห์ ผมจะนึกถึงเพลง น้ำตาแสงไต้ ก่อนเลย น้ำตาแสงไต้เป็นบทเพลงที่ยังคงซึ้งและครองใจผม แม้นจนกระทั่งปัจจุบัน ผมได้ยินเมื่อไหร่ผมจะต้องหยุดฟังก่อน วิทยุมาผมจะไม่เปลี่ยนไปไหน หรือถ้าเปิดซีดีฟังเวลาขับรถไปต่างจังหวัดผมก็ต้องฟังซ้ำอีกสองสามหน คือผมชอบทั้งในท่วงทำนอง คำร้องและเสียงของคนร้องมาก หรือเวลาไปนั่งฟังเพลงหรือว่าในคาราโอเกะที่ไหนก็ตามก็ต้องร้องเพลงนี้กัน หรือผมร้องเพลงไม่เป็นผมก็มักจะชอบขอน้ำตาแสงไต้ก่อน เขาก็ร้องให้ฟัง นั่นเป็นสิ่งที่ยังคงประทับใจผมอยู่ ผมเองก็จะ 70 อยู่แล้ว คนรุ่นใหม่อาจบอกว่าฉันไม่เคยได้ยิน แต่ขอให้ลองฟังดูทั้งเนื้อร้องทำนอง แล้วคุณจะซาบซึ้งในบทเพลงและคุณจะเข้าใจความหมายของความรักระหว่างผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยอมเสียชีวิตเพื่อหน้าที่ได้”
ผู้ชมภาพยนตร์ ตลอดจนนักฟังเพลง จะได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวมิตรภาพ ความผูกผัน ความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ของ พันท้ายนรสิงห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรัก ความเสียสละที่มีต่อนวลหญิงคนรัก พร้อมกับบทเพลง “น้ำตาแสงไต้” โดยได้นักร้องนักแสดงรุ่นใหม่มากความสามารถอย่าง “กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” มาเป็นผู้ถ่ายทอดบทเพลงรักอมตะ ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงหวานเศร้าสุดโรแมนติค ได้อย่างไพเราะจับใจประกอบในภาพยนตร์ซึ่งตอนนี้ทาง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และพร้อมมิตรโปรดักชั่น ได้ส่งมิวสิควิดีโอ“น้ำตาแสงไต้” พร้อมภาพสวยๆ จากภาพยนตร์ให้ทุกท่านได้สัมผัสกับเรื่องราวความรักที่แสนกินใจของพันท้ายนรสิงห์และนวลได้แล้วโดยคลิ้กไปที่
บันทึกภาพ: สหมงคลฟิล์ม