ที่ผ่านมามีคอนเสิร์ตจากศิลปินต่างแดนมาทำการแสดงในบ้านเรามากมาย แต่สำหรับศิลปินจีนยังมีไม่มากนักงานนี้เมื่อ “อาเม่ย์ – จางฮุ่ยเม่ย” มีโปรแกรมจะเดินสายมาเปิดคอนเสิร์ตในไทยเพื่อฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงก็ทำเอาผู้ชื่นชอบในเพลงจีนและศิลปินมากความสามารถคนนี้ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า…ห้ามพลาด!!! ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ อาเม่ย์มีอะไรดีที่ดึงดูดให้คุณต้องตีตั๋วมาดู ใครที่ยังไม่รู้ก็จะได้รู้กันล่ะ

“อาเม่ย์ – จางฮุ่ยเม่ย” ซุป’ตาร์ ดีว่าสาวแห่งเกาะไต้หวัน เธอถูกยกย่องเป็นหนึ่งในนักร้องที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงจีน เป็น “ราชินีเพลงเปี่ยมความสามารถ” ที่มีความโดดเด่นที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางยุค 90 จนถึงปันจุบันของวงการเพลงจีน เทียบเท่ากับ มารายห์ แครี เซลีน ดิออน มาดอนน่า วิทนีย์ ฮูสตัน เจ้าแม่เพลงป๊อบสากลในยุคเดียวกัน เป็นนักร้องเพลงจีนหญิงที่ครองแชมป์สถิติยอดขายอัลบั้มและจำนวนผู้ชมคอนเสิร์ตมากที่สุดในเอเซียจนถึงปัจจุบันนี้ และยังไม่เคยมีใครทำลายสถิติได้

จางฮุ่ยเม่ย มีชื่อเล่นๆ ว่า “อาเม่ย์” มีชื่อเดิมว่า “Amit Kulilay “ ซึ่งเป็นภาษาของชาว “เปยหนาน” ชนกลุ่มน้อยในเมืองไถตงของไต้หวันที่เป็นบ้านเกิดของเธอนั่นเอง อาเม่ย์ก้าวเข้าวงการด้วยผลงานเพลงชุดแรก “เจี่ยเม่ย” (Sisters) ในปี 1996 ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกับวิธีการร้องเพลงของชนกลุ่มน้อย รวมทั้งพลังเสียงที่แกร่งกร้าวทรงพลัง และการแสดงบนเวทีสุดเร้าใจ จึงสร้างปรากฏการณ์ความร้อนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แถมผลงานเพลงก็มียอดขายถล่มทลายเกิน1 ล้านก็อบปี้ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการเพลงไต้หวันจึงทำให้เธอกลายมาเป็น“ราชีนีเพลงป๊อบภาษาจีน” ในเวลาอันรวดเร็ว    และเมื่อออกอัลบั้มที่สองเธอก็กลายเป็นนักร้องสาวคนแรกที่มียอดขายเกินหนึ่งล้านก็อบปี้ติดต่อกันสองอัลบั้มซ้อน    มาถึงวันนี้เธอก็มีผลงานเพลงออกมาถึง 18 อัลบั้ม โดยมียอดขายอัลบั้มทั่วโลกนับถึงปัจจุบันมากกว่า 100 ล้านก็อบปี้

อาเม่ย์ ตั้งแต่เข้าวงการจนถึงปัจจุบันเธอได้รับการเสนอชื่อและได้รางวัลจากงานประกาศรางวัลเพลงภาษาจีนที่สำคัญๆมากมาย โดยเฉพาะงาน Golden melody award งานประกาศรางวัลเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไต้หวันปรากฎว่าเธอเป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากที่สุดตั้งแต่มีการจัดมา เฉพาะรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 12 ครั้ง แต่เธอสามารถคว้ารางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีมาครองถึง 3 ครั้ง จากอัลบั้ม “เจินสือ” (Truth ) ในปี 2002 “Amit” ในปี 2010 และ “เพียนจื๋อเมี่ยน” (Faces of Paranoia ) ในปี 2015 โดยในปี 2009 ที่เธอออกอัลบั้ม “Amit” ยังสามารถทำลายสถิติได้รับรางวัลในสาขาต่างๆ มากที่สุดอีกด้วย

ด้านการยอมรับจากนานาชาติเธอเป็นนักร้องชาวไต้หวันคนแรกที่ได้รับการสัมภาษณ์จากสถานีโทรทัศน์ CNN ของอเมริกา ได้ขึ้นปกนิตยสาร Time ฉบับภาคพื้นเอเชีย แถมยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 20 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของภาคพื้นเอเชีย และในปี 1998 อาเมย์ ยังได้รับรางวัลนักร้องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเอเชียจากนิตยสาร Billboard ของอเมริกา แล้วเป็นนักร้องเพลงจีนคนแรกและคนเดียวที่เคยได้รับรางวัล“World Peace Music Award” (2004)   ได้เป็นตัวแทนนักร้องไต้หวันไปร่วมงาน “Asia Live Dream” ที่จัดโดยสถานีโทรทัศน์ NHK ของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2006 เธอยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหกบุคคลสำคัญของไต้หวันเพื่อเข้าร่วมรายการ “Portraits Taiwan” ซึ่งเป็นรายการเชิงอัตชีวประวัติของสถานีโทรทัศน์ Discovery รวมทั้งเป็นนักร้องไต้หวันเพียงคนเดียวในซีรี่ส์ “BIO People”ทางช่อง “BIO‘’ และด้วยความสามารถด้านการร้องเพลงที่หาตัวจับได้ยากของอาเมย์ เธอจึงได้ท้าทายตัวเองกับบทบาทนักแสดงละครเพลงซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่าง มากจากการดัดแปลงละครเพลงเรื่อง “Carmen” บทประพันธ์เลื่องชื่อของ Georges Bizet จนได้รับคำเชิญจากสถานีโทรทัศน์ TBS ของญี่ปุ่นให้รับบทนำในละครเพลงภาษาญี่ปุ่นเรื่อง “ตูรันโด”(Turandot) ที่มีการทัวร์แสดงทั่วประเทศญี่ปุ่นมากถึง 59 รอบ

นอกจากนี้ อาเม่ย์ ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยสังคม ความที่เธอเป็นชาวชนกลุ่มน้อย เธอจึงพยายามทำให้เกิดนักร้องที่มีชื่อเสียงของไต้หวันที่มาจากชนกลุ่มน้อยรุ่นหลังตามมาอีกจำนวนมากและยังเป็นผู้ที่คอยดูแลสนับสนุนเรื่องการศึกษาของเด็กเล็กรวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ทั่วไปของชนกลุ่มน้อยในไต้หวันอีก นอกเหนือจากนี้อาเม่ย์ยังให้ความสำคัญกับปัญหาข้อโต้แย้งในเรื่องคนรักเพศเดียวกันอย่างจริงจัง เธอเป็นผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนเรื่องสิทธิของคนรักเพศเดียวกันจนกลายเป็น “ทูตสีรุ้ง” คนแรกในงานพาเหรดชาวไม้ป่าเดียวกันที่ถูกจัดขึ้น   จึงทำให้เธอเป็นที่ชื่นชมของเหล่าคนหัวสมัยใหม่แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกต่อต้านจากฝั่งผู้ที่มีความคิดแบบอนุรักษ์ด้วย

ทางด้านผลงานเพลงในปี 2009 อาเม่ย์ ได้ใช้ชื่อเดิมของเธอ “Amit” เป็นชื่อในการออกอัลบั้มใหม่ โดยเธอบอกว่า ”ถ้าจางฮุ่ยเม่ย เป็นสีขาว Amit ก็คือสีแดง” ทั้งนี้เพื่อสื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแนวดนตรีจากเพลงซึ้งและเพลงเต้นมันส์ๆ มาเป็นแนวร็อค ที่ผสมผสานกลิ่นไอของเพลงชนพื้นเมืองเข้าไป ทำให้เกิดเป็นดนตรีแนวใหม่จนเป็นที่ชื่นชมและชื่นชอบของผู้คนจำนวนมากส่งผลให้คว้ารางวัลอัลบั้มยอดขายสูงสูดแห่งปีไปได้ และในปี 2015 เธอก็กลับมาใช้ชื่อ Amit อีกครั้งพร้อมเปิดทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลก ซึ่งก็มีชื่อประเทศไทยรวมอยู่ด้วยเป็นครั้งแรก

โดยบริษัท วัน ซีสเท็มส์ โปรดักชั่น ( One Systems Production) นำพาคอนเสิร์ต A-MEI | Amit “ UTOPIA 2016 World Tour ” มาให้ได้มันส์กระจายฉลองเทศกาลสงกรานต์ในวันเสาร์ที่ 16 เมษายน 2016 เวลา 20.00 น. ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน บัตรราคา 6,500 (บัตรยืน) / 6,500 / 5,500 / 4,500 / 3,500 / 2,500 บาท ใครที่ยังไม่มีบัตรก็สามารถจองบัตรได้ที่ ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โทร. 02-262-3456 หรือเว็บไซต์www.thaiticketmajor.comและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/AmeiLiveinBangkok2016 งานนี้ผู้จัดการรันตีจัดเต็มไม่น้อยหน้าประเทศอื่นแน่