เรียกได้ว่าช่วงนี้มาแรงแซงโค้งจริงๆ สำหรับ วง “Helmetheads” (เฮลเมทเฮดส์) หลังจากปล่อยเพลง 2 เพลงฮิตอย่าง Instagram (อินสตราแกรม) และ “UNFRIEND” (อันเฟรนด์) ออกมาให้ได้ฟังจนกลายเป็นกระแสทาง Social ที่ถูกพูดถึงกันกระหึ่มเมืองทั้งในเรื่องของเนื้อหาที่โดนใจ มิวสิควีดิโอที่ยิ่งชมก็ยิ่งอิน ตลอดจนช่วยกันออกไอเดียเพลงต่อไปให้กับวงอีกด้วย งานนี้ทั้ง 4 หนุ่ม จิ้ง – ชตารัช ศรีดำรงรักษ์ (ร้องนำ – กีตาร์), เดียว สุวีระ (เบส), ซัม – สดายุ สวรรณจุณีย์ (กลอง) และ นัท – ณัฐพงศ์ เลิศศรีนวล (กีตาร์)” ไม่ปล่อยให้แฟนๆ รอนาน ล่าสุดส่งเพลง และมิวสิควิดีโอ Empty Room (เอมตี้ รูม) ออกมาให้ได้ฟังกันอย่างต่อเนื่อง โดยพูดถึงการบอกลา ของคนหมดใจกับคำพูดง่ายๆ เพียงแค่เราเข้ากันไม่ได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะมีบางอย่างที่มากกว่านั้น และต่อให้รั้งไว้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันเหมือนเดิม เพลงนี้แต่งโดย จิ้ง (นักร้องนำ) ร่วมกับ เป้ (วงมายด์) ที่ยังยังหยิบยกเรื่องจริงของสังคมปัจจุบันที่ใช้ Social เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น เมื่อคนสองคนเดินมาถึงทางตัน พอยิ่งยื้อ…ก็ยิ่งเจ็บ บางทีการ Read หรือ Left Chat โดยไม่ตอบอะไร อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการบอกเลิก เพื่อไม่ให้ทุกอย่างมันแย่ไปมากกว่านี้ นอกจากเพลงจะเศร้าสุดๆ แล้วในส่วนของมิวสิควิดีโอก็เฮิร์ทกระแทกใจเช่นกัน โดย นัท (มือกีตาร์) รับหน้าที่เป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือความสวยงามของสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งยกกองไปถ่ายไกลถึง สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี แต่ทำไมถึงต้องเดินทางไปถ่ายทำกันไกลขนาดนี้ต้องลองไปฟังคำตอบจากพวกเขาดู
“การถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลงนี้พวกเราทำเองในทุกขั้นตอนเช่นเดิม ซึ่งผมรับหน้าที่เป็นผู้กำกับ คิดสตอรี่ขึ้นมา ไอเดียการทำมิวสิควิดีโอเพลงนี้เราต้องการให้ออกมาเป็นกึ่งมินิซีรี่ย์ต่อจาก 2 เพลงที่แล้ว โดยนำเอาจุดเชื่อมโยงของแต่ละเพลงมาใส่ไว้อย่างตอนของอินสตราแกรมภาพจำคือการส่องภาพ อันเฟรนด์ก็จะเป็นซีนชิงช้าสวรรค์แต่ในมิวสิควิดีโอนี้เราเปลี่ยนมาเป็นม้าหมุน ถ้าใครได้ชมมิวสิควิดีโอก็จะเห็นตัวละครจากอันเฟรนด์ในมิวสิควิดีโอเพื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของแต่ละคนว่าข้องเกี่ยวกัน และอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนจะได้เห็นในมิวสิควิดีโอของเราคือตอนไลน์ซิงที่เน้นเป็นธรรมชาติให้เห็นถึงความสวยงามของแต่ละที่ ซึ่งครั้งนี้เราไปเลือกถ่ายที่ สามพันโบก ที่ถึงแม้จะติดขัดไปบ้างในเรื่องสภาพอากาศบ้างแต่ก็ได้ภาพที่ออกมาเป็นที่พอใจมากครับ นอกจากที่อุบลฯ ก็ยังมีถ่ายทำในได้เดินทางไปถ่ายทำในหลายโลเคชั่นทั้งในกรุงเทพ, หัวหิน และจังหวัดอุบลราชธานี เรียกเป็นการถ่ายทำที่สมบุกสมบันมากครับ (หัวเราะ) แต่ก็ได้ภาพที่ออกมาสวยงามอย่างที่หวังไว้ เรียกว่าเหนื่อยแต่คุ้มครับ” นัท กล่าว
ด้าน จิ้ง กล่าวเสริมว่า “สำหรับเพลง เอมตี้ รูม เราต้องการที่จะเล่าเรื่องของความรักของสังคมในปัจจุบันที่มี Social เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิต เราสามารถเห็นไลฟ์สไตล์ของทุกคนผ่านทาง Social ความรักก็เช่นกัน โดยเล่าเรื่องผ่านคู่รักที่คบกันมานานจนวันที่ความสัมพันธ์เดินมาถึงทางตันจึงต้องเลิกรากันไป แม้ใจจะอยากกลับคบกันแต่ก็รู้ว่าถ้ากลับไปก็คงจะเป็นเหมือนเดิม สู้จบกันตอนนี้ยังดีกว่าทนฝืนต่อไป ซึ่งผมเชื่อน่าจะแอบไปตรงใจใครหลายๆ คนไม่มากก็น้อย ส่วนพาร์ทดนตรีเราอยากให้มีกลิ่นอายยุค 90’s ผสมผสานกับความดิบของดนตรีในแบบน้อยๆ เน้นไปที่เนื้อเพลงที่พูดแบบตรงไปตรงมาเข้าใจง่าย ซึ่งหลังจากที่เราปล่อยเพลงไปเพียง 5 วันก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจนทำให้ตอนนี้ยอดวิวมิวสิควิดีโอขึ้นไปกว่า ล้านวิวแล้ว!! ขอบคุณมากๆ ครับที่ให้การสนับสนุนพวกเราอย่างมากมายขนาดนี้ครับ”
บันทึกภาพ: สไปร์ซซี่ ดิสก์