เรียกได้ว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ “รวมพลเจแปนเลิฟเวอร์” ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของเหล่าบรรดาสาวกแดนปลาดิบ ที่มารวมตัวกันในงาน “เจ ซีรีส์ เฟสติวัล 2016” (J Series Festival 2016) ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ภายใต้การสนับสนุนจาก กระทรวงมหาดไทย การสื่อสารประเทศญี่ปุ่น และ International Drama Festival Executive Committee โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อโปรโมทซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องเยี่ยมที่คัดสรร พร้อมนำเสนอแก่สายตาผู้ชมชาวไทย ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย–ญี่ปุ่นแล้ว ยังถือเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านการร้อยเรื่องราว และแนวคิดที่น่าสนใจที่สอดแทรกไปในบทบาท การนำเสนอ สู่การถ่ายทอดออกมาเป็นละครชิ้นเยี่ยมที่พร้อมอวดสายตาประชาชนชาวไทย สำหรับซีรีส์ที่เลือกสรรมานั้น มีหลากหลายแนวทั้งละครสะท้อนปัญหาสังคม ความสนุกตื่นเต้นกับอาชีพที่หลากหลาย ละครแนวลึกลับและละครที่สร้างพลังแห่งความสมหวังและกำลังใจ จนไปถึงซีรีส์ที่จะเรียกเสียงหัวเราะและความสนุกแบบไม่ต้องบรรยายอะไรมากมาย
เปิดฉากความฟินระดับประเทศไปกับ Vocaloid (โวคาลอยด์) “CUL” ตัวแทนแห่งวัฒนธรรมในอันดับต้นๆ ที่ทำเอาคนในฮอลล์ตาไม่กระพริบ จากนั้นก็ต่อด้วยขบวน เจ ซีรีส์สุดฮอต ที่ยกทัพมาให้แฟนคลับได้ชมอรรถรสกันเต็มอิ่มถึง 20 เรื่อง หลากหลายแนว แค่ได้ชมตัวอย่างก็สามารถเรียกกรี๊ดจากแฟนคลับกันเป็นระยะ
แล้วก็มาถึงช่วงพร้อมใจเรียกเสียงกรี๊ดดดด…กันสนั่นลั่นฮอลล์เกือบแตก!!! เมื่อสองไอดอลสุดฮอต Yuko Oshima (ยูโกะ โอชิมะ) และ Daiki Arioka (ไดกิ อาริโอกะ) สมาชิกวง Hey!Say!JUMP ปรากฏโฉมบนเวที ซึ่งในงานนี้ได้สองพิธีกรฝีปากเก่ง ดีเจ. ดาด้า กับ ดีเจ.อ๋อง ช่วยป้อนคำถามเป็นระยะๆ ซึ่งสองไอดอลก็ร่วมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง พร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆ ตลอดการสัมภาษณ์ทำเอาแฟนคลับฟิน ฟิน แล้วก็ฟินกันสุดๆ เลยจ้ะ…!!!
ส่วนแฟนคลับของผู้ประกาศข่าวหนุ่ม Daijiro Enami (ไดจิโร่ เอนามิ) ทูตพิเศษการท่องเที่ยวญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย) ก็ไม่น้อยหน้า!!! พอเจ้าตัวก้าวออกมาก็เรียกเสียงกรี๊ดดกันแน่น!!! ทำเอาหนุ่มไดจิโร่ เอนามิ ถึงกับปลื้มปริ่มยิ้มแก้มไม่หุบเลยทีเดียว โดยหนุ่มไดจิโร่ รับทำหน้าที่แนะนำรายการญี่ปุ่นที่ออนแอร์ในบ้านเราซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็มีรายการที่พ่อหนุ่มรับหน้าที่ดำเนินรายการด้วย
ความสุขและความสนุกยังคงเสิร์ฟให้แฟนคลับฟินกันอย่างต่อเนื่องแบบนันสต๊อป โดยจากนั้นเป็นหน้าที่ของ MICHI (มิจิ) ศิลปินผู้ขับร้องเพลงอะนิเม่จากเเดน โอกินาว่า นักร้องสาวเสียงดีที่เดบิวท์อย่างยิ่งใหญ่ก็นำเพลงไตเติ้ล และเพลงจบของอนิเมะเรื่อง Rokka no Yuusha ชื่อเพลง Cry for the Truth และเพลง Secret Sky มาร้องโชว์ให้ฟังกันสดๆ ด้วยน้ำเสียงหวานๆ ลีลาพลิ้วบวกกับหน้าตาสวย ก็ทำเอาภาพตรงหน้าสวยงามมาก แถมยังร้องเพลงคลอตามโบกมือเป็นจังหวะไปมากันอย่างสนุกสนาน
แล้วต่อด้วยสองสาวจากวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น Akamaru Dash ☆ (อะคะมารุ แดช ☆) ปรากฏตัวบนเวที ซึ่งทำเอาแฟนคลับส่งเสียงกรี๊ดกันจนลืมเหนื่อย และจากความน่ารักสดใสก็เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่แฟนคลับนั่งนิ่งๆไม่ได้ขอโบกมือโยกตัวไปตามเสียงเพลงกันอย่างพร้อมเพรียงเลยจ้า
ก่อนตบท้ายด้วยกิจกรรมสนุกๆ สำหรับผู้โชคดีได้รับตุ๊กตา และถ่ายรูปร่วมกับศิลปินทั้งหกท่าน รวมไปถึงศิลปินก็ขอเก็บภาพประทับใจกับแฟนคลับและแขกที่เข้าร่วมงานเป็นที่ระลึกกันอีกเช่นเคย ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่สร้างความประทับใจกันแบบไม่รู้ลืม พร้อมหวังว่าจะได้พบกันใหม่กับ “เจ ซีรีส์ เฟสติวัล 2017” (J Series Festival 2017) ในปีหน้ากันอีก!!! สามารถติดตามภาพบรรยากาศงานได้ที่ www.gyucreative.com และที่ www.facebook.com/jseriesfestival
หลังจากนั้นก็ต่อด้วยช่วง 2 ไอดอล Yuko Oshima (ยูโกะ โอชิมะ) และ Daiki Arioka (ไดกิ อาริโอกะ) สมาชิกวง Hey!Say!JUMP ออกมาให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ แม้เวลาจะมีไม่มากแต่ทั้งคู่ก็สร้างรอยยิ้มให้กับสื่อมวลชนไปได้ไม่น้อยเหมือนกันนะ ทั้งนี้การสัมภาษณ์เริ่มจากสาวย
ทราบว่าคุณมาเมืองไทย 2 ครั้งแล้ว ไม่ทราบว่ามาครั้งแรกกับครั้งที่สอง ต่างกันอย่างไร
ยูโกะ : ครั้งแรกฉันมาภูเก็ต ก็จะเห็นทะเล ธรรมชาติ ความงดงามต่างๆ มันจะเป็นคนละบรรยากาศ ส่วนครั้งที่ 2 มากรุงเทพ ก็จะเป็นบรรยากาศในเมือง มีตึกสูงต่างๆ เป็นอีกนึ่งบรรยากาศนะถือว่ามีความต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ใหญ่โตมากๆเลยค่ะ
แฟนๆต่างก็ให้การตอนรับคุณอยากอบอุ่น คุณอยากจะส่งข้อความอะไรให้กับแฟนๆชาวไทยบ้าง
ยูโกะ : ตลอดเวลาฉันคลุกคลีกับวงการของเพลงและละคร โดยเพลงภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่ไพเราะสวยงาม ฉันอยากให้ทุกคนหรือแฟนๆคนไทยได้รับรู้ภาษาญี่ปุ่นผ่านเพลงนะ ส่วนเรื่องซีรีส์ ก็อยากจะฝากให้แฟนคนไทยได้ชมซีรีส์ของญี่ปุ่นกันเยอะๆ เพราะจะมีการพูดถีงวัฒนธรรมเรื่องของอะไรต่างๆมากมายเลย ฉันอยากให้ทั้งเพลงทั้งซีรีส์ของญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้นค่ะ
หลังจากที่จบการศึกษาจากAKBมาแล้ว 2ปี ในระหว่าง 2 ปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ยูโกะ : ก่อนหน้าที่จะจบการศึกษาจากAKB ก็เคยคิดว่าตัวเองถ้าไม่ได้อยู่ AKB จะเป็นอย่างไร จะอยู่ได้หรือไม่ และค่อนข้างจะคิดหนักเกี่ยวเรื่องนี้ แต่พอจบแล้ว ผ่านมา 2ปีแล้ว ก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวมากๆ ในช่วง2ปีที่ผ่านมาฉันก็ได้ลองทำอะไรหลายอย่างเช่น เล่นละคร ที่ได้ดูตัวอย่างกันไป แล้วนี่ก็ยังได้มาร่วมงาน j series ที่เมืองไทย ซึ่งจัดเป็นครั้งที่3 ก็ดีใจมากๆ ซึ่งก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนไทยด้วยนะคะ
จะมีโอกาสได้เห็น โอชิมะซัง ในฐานะ ศิลปินโซโล่เดี่ยวหรือไม่ อย่างเช่นออกเป็นซิงเกิ้ล หรือ ร้องเพลงประกอบหนัง ซี่รีย์
ยูโกะ : ฉันรู้สึกว่าเป็นคนที่ร้องเพลงไม่เก่ง โดยที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งที่ดีที่ได้ลองทำอะไรหลายอย่าง ส่วนเรื่องออกซิงเกิ้ล หรือโซโล่ ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น แต่ว่าอนาคตอยากมาร่วมงานอีเว้นท์ในประเทศไทยอีก เพราะก่อนหน้านี้ไม่คิดเลยว่า จะมีแฟนไทยที่รู้จักตัวเองเยอะขนาดนี้นะ
สุดท้ายมีอะไรอยากจะพูดกับแฟนๆมั้ย
ยูโกะ : รู้สึกขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ตัวฉันเองชอบทานอาหารไทย มาครั้งนี้ที่ได้ทานอาหารไทยแทบทุกมื้อ ชอบมากเลย และฉันก็อยากให้ทุกคนได้รับรู้ในเรื่องของประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง และขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนฉันด้วยดีตลอดมาขอบคุณค่ะ
จากนั้นก็มาถึงหนุ่ม Daiki Arioka (ไดกิ อาริโอกะ) สมาชิกวง Hey!Say!JUMP ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนบ้าง
มาเมืองไทยหลายครั้งที่แล้ว ไดกิเองคิดว่าเสน่ห์ของประเทศไทย ในการมาแต่ละครั้งแตกต่างกันอย่างไร
ไดกิ : ผมมาเมืองไทยถึง 4ครั้ง ไม่สามารถเล่าเรื่องราวได้ไม่หมด เพราะทุกครั้งที่มาเมืองไทย ก็จะได้พบเรื่องราวใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งในเรื่องของวัฒนธรรม บ้านเมือง ตึกราม บ้านช่อง โบราณสถาน แต่ว่ามีกิจกรรมหนึ่งที่อยากจะมาร่วมมากๆ ก็คือ เล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะมาร่วมเล่นน้ำ และอยากจะมาเมืองไทยบ่อยๆครับ
แฟนๆชาวไทยจะได้มีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ต Hey!Say!JUMP ! ที่เมืองไทยหรือไม่
ไดกิ : อยากมามากๆเลยครับ ที่ผ่านมาวงเราก็เคยมาร่วมอีเว้นท์ที่ประเทศไทย และได้มาร้องเพลงในอีเว้นท์นั้น ซึ่งในส่วนของคอนเสิร์ต ทราบว่าแฟนๆชาวไทยก็เฝ้ารออยู่ ยิ่งทำให้อยากมาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทยมากๆ และถ้ามีโอกาสก็จะมาอย่างแน่นอนครับ
อยากให้คุณไดกิ แสดงความเห็นทั้งในฐานะนักแสดงและผู้ชม ว่าวงการซีรีส์ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงจากอดีตอย่างไรบ้าง
ไดกิ : ในฐานะผู้ชม ตั้งแต่ดูละคร ซีรีส์ต่างๆ ก็ยังไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ยังคงความเป็นญี่ปุ่นเสมอมา ส่วนในอนาคตผมก็จะพยายามสร้างผลงานที่ดีๆออกมาให้ได้ติดตามกัน ก็ขอฝากแฟนชาวไทยให้ช่วยติดตามกันด้วยนะครับ
อยากทราบว่าเป้าหมายแรกที่เข้ามาในวงการบันเทิงคืออะไร และในอนาคตมีเป้าหมายอย่างไร
ไดกิ : สำหรับที่ผ่านมาผมได้ทำอะไรหลายอย่าง ได้ทำวาไรตี้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ได้ และในอนาคตก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย
คุณไดกิคิดว่านักร้องกับนักแสดงแตกต่างกันอย่างไร และตัวเองชอบงานด้านไหนมากกว่ากัน
ไดกิ : ในเรื่องความแตกต่างของงานต่างๆค่อนข้างพูดยากมากครับ แต่สิ่งที่ผ่านมาก็ได้เรียนรู้จากรุ่นพี่ ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้ตัวเองได้ก้าวมาถึงทุกวันนี้
คุณไดกิอยากฝากอะไรถึงงาน J Series บ้าง
ไดกิ : ผมอยากให้เพิ่มในส่วนของรายการวาไรตี้ ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากขึ้น หรือวาไรตี้ที่นำเสนอประเทศญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ๆ ซึ่งผมก็หวังว่าแฟนๆชาวไทยจะให้การตอบรับเป็นอย่างดีครับ
สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนชาวไทยและผู้ชมที่มีความชื่นชอบในประเทศญี่ปุ่น
ไดกิ : ผมขอขอบคุณแฟนๆชาวไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่ครั้งที่ได้มาเมืองไทยจะรู้สึกอบอุ่น อยู่สบาย ทำให้อยากมาเมืองไทยอีกนะ และในอนาคตตัวผมจะนำเสนอผลงานที่ดีๆออกมาให้ได้ติดตามกัน และถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาเมืองไทยอย่างแน่นอน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์