ถึงเวลาเติมอรรถรสความเข้มข้นในการรับชมบนหน้าจอ ที่จัดเตรียมเสิร์ฟละครดราม่ารสแซ่บ  นารีริษยา ของผู้จัดมากฝีมือ ไก่-วรายุฑ มิลินจินดา โดยนำพระ-นางสายเลือดใหม่ มาร์ค คนัสนันท์,  บอล จิตรภาณุ,โอม คณิณ ที่ควงสามนางเอกสาว เบนซ์ ณัฐธิดา,ลีน่า ลลินา,พิมพ์ พิมพ์ลภัส รับหน้าที่ถ่ายทอดความสนุกเข้มข้นแบบชนิดจัดเต็ม พร้อมทีมทัพนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ

ผู้จัด ไก่ วรายุฑ เผยว่า “นารีริษยาเป็นละครอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสนุกเข้มข้น เรื่องนี้จะไม่เวอร์วังอลังการเป็นละครแนวที่ดูง่าย สำหรับคนดูที่ชอบแนวนี้ถูกใจแน่นอน แซ่บมาก สำหรับตัวพี่ไก่เองการมาทำเรื่องนี้ก็ไม่ได้กดดันอะไร เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเคยผ่านมือเรามาหมดแล้ว เป็นละครอีกหนึ่งรูปแบบที่เราต้องการจะนำเสนอให้กับคุณผู้ชม อยากฝากให้ทุกคนช่วยติดตามชมด้วยครับ”

ด้านพระเอกหนุ่ม มาร์ค คนัสนันท์ เผยว่า “ผมรับบทเป็นภูดิสครับ คาแรคเตอร์จะเป็นสุภาพบุรุษ มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นหนุ่มมาดนักธุรกิจ เรื่องนี้จะโตขึ้นจากเรื่องแรก เพราะว่าตัวภูดิสเขาต้องคิด ทำอะไรหลายๆอย่าง เป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกมาโดยตรง ชอบเก็บอารมณ์ไว้ข้างในซะมากกว่า ยากขึ้นด้วยสำหรับ ตัวผมเหมือนกันและการแสดงพีเรียดเรื่องแรกของเราด้วย ฝากติดตามนารีริษยาด้วยนะครับ เป็นเรื่องที่ แซ่บมากมีครบทุกรสชาติจริงๆ”

            นารีริษยา เรื่องราว ชีวิตครอบครัว คุณท่านแม้นเทพ (รับบบทโดย ศุกล ศศิจุลกะ) แอบไปมีความสัมพันธ์กับพิมพ์นิภา (รับบทโดย นฤมล พงษ์สุภาพ) น้องสาวของพิมพ์นารา ภรรยา จนพิมพ์นิภาเกิดตั้งท้องขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจ ท่านชายจึงได้ตัดสินใจพูดกับคุณพิมพ์นาราโดยคิดว่าน่าจะเข้าใจ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เธออาละวาดด่าทอท่านชายแม้นเทพอยู่หลายครั้ง สายป่าน (รับบทโดย ณัฐธิดา ตรีชัยยะ) ลูกสาววัยอายุ 6 ขวบ ที่เห็นเหตุการณ์ เฝ้ามองด้วยความน้อยใจ อาการป่วยของคุณหญิงกำเริบขึ้น เธอสอนให้ลูกเกลียดพิมพ์นิภาและลูกสาว จนกระทั่งวันหนึ่งเธออาการกำเริบหนักมากจนเสียชีวิต

ภายในงานศพสายป่านอาละวาดกรีดร้องด่าพิมพ์นิภาว่าทำให้แม่เธอต้องตาย นรินทร์ (รับบทโดย คณิณ สแตนลีย์) พี่ชายที่ไปเรียนต่อเมืองนอกและต้องกลับมางานศพแม่ด้วยความสะเทือนใจ แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายทำให้เขาไม่ถือโทษโกรธพ่อกับน้าสาว พิมพ์นิภามีลูกสาวชื่อ ปณิดา (รับบทโดย ลลินา ชูเอ็ทท์) ด้วยความคิดที่ว่าตนเองมีความผิดไม่น้อย เธอพยายามทำความดีดูแลเอาใจใสสายป่านและนรินทร์ทุกอย่าง แม้ว่าสายป่านจะกลั่นแกล้งลูกสาวมาโดยตลอด เธอยังสอนให้ลูกสาวของเธอยอมและสงสารพี่สาว เพราะเขากำพร้าแม่ ไม่เหมือนกับเธอที่มีทั้งพ่อและแม่

ป้านุ่น (รับบทโดย ปวีณา ซารีฟสกุล) แม่บ้านประจำบ้านแม้นเทพได้นำ ณภัทร (รับบทโดย จิตรภานุ กลมแก้ว) และ ปอแก้ว (รับบทโดย พิมพ์ลภัส จึงสุระ) ซึ่งเป็นหลานมาเลี้ยง เพราะแม่ของทั้งสองมีปัญหากับสามีที่ทอดทิ้งไป ท่านชายแม้นเทพก็ส่งเสียให้เรียนเทียบเท่ากับลูกตนเอง ทางด้านนรินทร์ใจดีกับปอแก้วมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอปลื้มพี่ชายคนนี้มาโดยตลอด จนนรินทร์ไปเรียนต่อเมืองนอก เรียนจบ และกลับมารับราชการด้านกฏหมายอที่ปักษ์ใต้ เมื่อถึงเวลาย้ายกลับเข้ามาประจำการที่พระนคร เขาเกิดความรู้สึกดีๆกับปอแก้ว แต่ต้องหักห้ามใจ ด้านณภัทรเองก็แอบหลงรักปณิดา เพราะเธอเป็นหญิงสาวที่น่ารักและแสนดี แต่ความรักของเขาไม่มีวันจะสมหวังเพราะปณิดาไม่เคยมีใจให้เขาเลยนับถือเป็นเพียงพี่ชาย

ในงานเลี้ยงฉลองวันเรียนจบของสายป่านกับปณิดา ท่านแม้นเทพเชิญแขกคนพิเศษมาร่วมงาน คือ ภูดิส (รับบทโดย คนัสนันท์ นักตะเฆ่) หนุ่มหล่อดีกรีนักเรียนนอก ผู้บริหารบริษัทยาลูกกลอน ภักดีโอสถ ซึ่งเป็นคู่หมั้นคู่หมายของปณิดา สายป่านรังเกียจภูดิส เพราะเขาชอบปณิดาจึงถือเป็นศัตรู ภูดิสตั้งใจไว้ว่าหากปณิดาเรียนจบจะให้แม่มาสู่ขอ แม้นเทพและพิมพ์นิภาไม่คิดกีดกันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ท่านชายแม้นเทพกลับไปกีดกันนรินทร์กับปอแก้ว ทันทีที่เริ่มสังเกตเห็นว่าทั้งคู่แอบมีใจให้กัน เมื่อวันหมั้นมาถึงสายป่านจำใจที่มาร่วมงาน โดยมีณภัทรยืนข้างๆ และเข้ามาพูดคุยกับเธอ ณภัทรเองก็ต้องพยายามเก็บความรู้สึกเจ็บปวดไว้ภายในเมื่อเขากำลังจะเสียคนที่รักไป

หลังจากงานเสร็จสิ้นสายป่านพยายามเอาเรื่องมาปั่นหัวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างณภัทรกับปณิดา จนภูดิสดื่มหนักและขาดสติใช้กำลังอย่างไม่รู้ตัวกับสายป่าน ทางปณิดาที่เข้ามาเห็นถึงกับช็อก กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดกับภาพที่อยู่ตรงหน้า เธออาละวาดและทำร้ายตัวเองอยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า จนเธอได้รับการบำบัดให้ดีขึ้น บุคลิกเธอก็ดูเปลี่ยนไป ดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้สีหน้าอันเรียบเฉยที่ไม่อาจคาดเดาได้เลย

ความเกลียดชังในใจที่ก่อตัวจนกลายเป็นความริษยาจะสามารถคลี่คลายได้หรือไม่ ติดตามชมความเข้มข้นและบทสรุปในละคร “นารีริษยา” ทุกคืนวันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 19.35-20.35 น.และคืนวันศุกร์ เวลา 19.15-20.15 น. ทางทีวีดิจิตอลช่อง 28 เริ่มออกอากาศวันแรกวันที่ 23 มิถุนายน 2559