แนะนำอันธพาลหน้าใหม่
“สวัสดีครับ บิ๊ก กฤษฎา สุภาพพร้อม รับบทเป็น เปี๊ยก ในเรื่องอันธพาล”
ก้าวสู่วงการอันธพาลได้อย่างไร
“เริ่มจากทราบมาว่ามีโครงการเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ เพื่อมาแสดงเป็นอันธพาลรุ่นใหม่ และตอนนั้นบทที่เขาต้องการก็คือบทของ เปี๊ยก กับธง ครับ ในบทของธง จะเป็นคาแร็คเตอร์ที่ค่อนข้างแรงๆไปหน่อย ส่วนเปี๊ยกคาแร็คเตอร์จะเบาๆลงมาก็เลยตัดสินใจลองดูกับบทนี้ คิดว่าเราเองน่าจะเหมาะ และคล้ายกับเปี๊ยกครับ ซึ่งวันที่ไปแคสติ้งก็แสดงตามบทโดยจะเป็นบทสนทนายืนคุยกับธง เป็นการต่อบทกันด้วยครับ วันนั้นมีพี่โขม ก้องเกียรติกับ พี่อุ๋ย นนทรีย์ ที่เขาก็มาดูแคสติ้งด้วย”
พอทราบว่าถูกคัดเลือกเป็นอันธพาลหน้าใหม่ รู้สึกอย่างไรบ้าง
“ดีใจมากครับแค่ได้เวิร์คช็อปเราก็ดีใจแล้วมีโอกาสได้เจอคนใหม่ๆมีเพื่อนใหม่ ทำให้ได้รู้จักกับพี่ คริน ซึ่งตอนนั้นก็จะสนิทกับพี่ครินค่อนข้างมากเหมือนเราถูกชะตากัน เป็นรุ่นพี่ที่สนิทกันเลยครับ”
ก่อนหน้านี้เคยมีผลงานทางโฆษณามาด้วยใช่ไหม
“ตอนอยู่ม.5 เคยถ่ายโฆษณาครับ MK สุกี้ เป็นผู้ชายที่ตะโกนใส่เพื่อนผู้หญิง แว่น…เธอมาสายอีกแล้วนะ แล้วก็โฆษณาประมาณ 2 ชิ้นครับ จากนั้นหยุดไปเพราะว่าไปทำฟันใส่เหล็กดัดฟัน ตอนที่มาแคสติ้งอันธพาลผมก็ยังใส่เหล็กอยู่นะตอนนั้น ยังคิดเลยว่าไม่ได้แน่ๆแต่พอเราได้คัดเลือกทีมงานก็ถามว่าเอาเหล็กออกได้ไหม ก็ปรึกษาคุณหมอแล้วก็ถอดออกได้ครับ”
มีโอกาสเรียนการแสดงกับ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล รู้สึกอย่างไรบ้าง
“มีไปเรียนกับหม่อมน้อยด้วยกัน 3 คนครับ ผม พี่คริน และน้องตรี โดยหม่อมน้อยจะสอนและเน้นเรื่องสมาธิมากกว่า มีนั่งสมาธิ เรียนรู้ตัวเอง โดยวิธีศึกษาร่างกายตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากครับ ได้มีโอกาสเรียนการแสดงกับหม่อมน้อยซึ่งท่านเป็นระดับอาจารย์ ลูกศิษย์ของท่านแต่ละคนเก่งๆ ทั้งนั้นเลยครับ”
เตรียมตัวและความพร้อมเพื่อรับหน้าที่อันธพาลอย่างไร
“ตอนได้บทมาก็นั่งอ่านบท ศึกษาว่าคาแร็คเตอร์ของเปี๊ยกเป็นอย่างไร เตรียมพร้อมร่างกาย โดยการออกกำลังกาย เพราะมีพี่ๆเตือนมาว่าถ่ายหนังเหนื่อยนะ ผมก็โอเคเดี๋ยวผมออกกำลังกายเยอะๆ เลย ช่วงนั้นตื่นเต้นด้วยที่ได้ทำอะไรใหม่ๆจึงมีกำลังใจและแรงกระตุ้นที่ให้เราต้องมั่นออกกำลังกายครับ”
บทบาทและคาแร็คเตอร์ของ “เปี๊ยก” เป็นอย่างไร
“เปี๊ยกเป็นเด็กผู้ชายที่ชอบวาดรูป แล้วก็โตมาในโรงหนัง ถูกเลี้ยงมาแบบกินนอนในโรงหนัง มีเพื่อนสนิทชื่อ ธง ที่มีนิสัยแตกต่างกัน แต่ว่าก็อยู่ด้วยกันได้ และโตมาในโรงหนังด้วยกัน เปี๊ยกเป็นคนใจเย็น ตามใจเพื่อนมาก เพื่อนชวนไปไหนก็ไปเพราะมีกันอยู่ 2 คน ธงกับเปี๊ยกมีไอดอลคนเดียวกันนั่นก็คือ แดงและจ๊อด แก๊งอันธพาลรุ่นใหญ่ที่ใครๆก็นับถือและเกรงขาม เป็นที่รู้จักกันทั่ว ในความรู้สึกของธงกับเปี๊ยกจะคิดว่าเท่มาก และเมื่อโตขึ้นก็อยากกลายเป็นแบบไอดอลของตัวเอง แล้วก็เป็นคนที่รักใครแล้วรักจริงครับ”
เรื่องย่อ อันธพาล
“เปี๊ยกกับธง เติบโตมาด้วยกันในโรงหนังและมีไอดอลคนเดียวกันคือ จ๊อด กับ แดง ซึ่งก็ฝันว่าสักวันเราจะโตเป็นอันธพาลแบบพวกพี่เขา จนเมื่อวันนึงจากชีวิตเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป ได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในแก๊งอันธพาลของแดง และจ๊อด เริ่มจากลูกกระจ๊อก ค่อยๆเติบโตมาเป็นหัวหน้า จนเมื่อมีความขัดแย้งในด้านมุมมองของความคิดระหว่างอันธพาลรุ่นเก่า กับอันธพาลรุ่นใหม่ ธงกับเปี๊ยกจะใช้ชีวิตอย่างไร ความเป็นตัวตนของพวกเขาจะสามารถอยู่รอดบนเส้นทางที่ถูกเรียกว่า อันธพาลได้หรือไม่ ต้องติดตามครับ”
เปี๊ยก มีความเหมือนหรือแตกต่างจากตัวจริงของบิ๊ก ไหม
“เปี๊ยกกับบิ๊กจะคล้ายกันเลย คือเป็นคนใจเย็นไม่คิดอะไร นิสัยตามใจเพื่อนเนี่ย…ใช่เลยใช่มาก เปี๊ยกจะมีนิสัยใจเย็น อะไรก็ได้ตามใจเพื่อน ผมก็เป็นแบบนั้นเลยครับ ถ้าเรื่องลักษณะนิสัยคือตัวเราเลย แต่ถ้าจะต่างก็เรื่องลุคที่ต้องทำทุกอย่างให้ดูย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีครับ สมัยรุ่นคุณพ่อ คุณปู่ ซึ่งผมก็มีไปแอบถามจากพวกเขาแหละครับว่าสมัยก่อนเขาเป็นกันยังไง แล้วตอนที่เรียนแอ็คติ้งกับครูเงาะ ก็มีการรีเสิร์ทเกี่ยวกับยุคนั้น เพื่อนำมาประกอบให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นครับ แม้กระทั่งเรื่องภาษา การพูดจา บุคลิกภาพ เหล่านักเลงต้องทำตัวอย่างไรครับ”
ประทับใจการแสดงในฉากไหนมากที่สุด
” ฉากประทับใจคือ ฉากหั่นหอม มันเหมือนเกิดการขัดแย้งกันระหว่างซีนด้วยครับ ตั้งแต่เข้าฉากมาทั้งเรื่อง ฉากนี้จะเป็นฉากที่เป็นตัวเองที่สุดเลยครับ(หัวเราะ) คือเปี๊ยกกับธงถูกส่งมาทำงานในบ่อน แต่ด้วยความที่เป็นเด็กเลยถูกให้ไปอยู่ในครัว และถูกใช้งานให้หั่นหัวหอม มันเป็นภาระกิจที่กระจอกมากๆ แต่ว่าเปี๊ยกกับธงเนี่ย หั่นหอมไปก็คุยถึงเรื่องอนาคตกัน สักวันนะจะต้องเป็นใหญ่จะต้องเป็นหัวหน้ามีแก๊งของตัวเอง ฟุ้งไปเรื่อย แต่เราทั้งคู่กำลังหั่นหอมกันอยู่ ผมเลยรู้สึกว่ามันเป็นฉากที่ขัดแย้งกันมากเลยประทับใจครับ”
แล้วอย่างฉากแอ็คชั่นล่ะ สนุก มันส์ หรือว่าทั้งเหนื่อยและยาก
“ตอนแรกผมคิดว่าไม่น่าจะยาก แต่จริงๆแล้วยากมาก จังหวะครับ จังหวะต้องดี ต้องแม่นยำ เราจะต้องตั้งใจและมีสมาธิอย่างมากนะ เพราะหากเราพลาดคนเดียว แต่ทุกคนก็ต้องเริ่มใหม่หมดเลยครับ ไม่ใช่แค่นักแสดง ทีมงานด้วยที่ต้องเติมกระสุนใหม่ ทำเอฟเฟคกันใหม่ กดดันนิดหน่อยครับ แต่ถ้ายากเนี่ยผมจะมีฉากดราม่าด้วยครับ ซึ่งเราก็ต้องใช้จินตนาการมากเหมือนกันนะ ดราม่าเรื่องเพื่อน เรื่องคนรักค่อนข้างต้องสื่ออารมณ์ออกมาให้ได้ เราต้องรู้สึกจากข้างในจริงๆด้วยครับ ก็สำหรับฉากดราม่าเนี่ยเล่นเอาผมปวดหัวทั้งวันเลยครับ กลับบ้านไปต้องนี่ต้องกินยาเลย”
ได้ร่วมงานกับนักแสดงชายคุณภาพทั้ง “เต๋า สมชาย” และ “น้อย วงพรู” รู้สึกอย่างไรบ้าง
” ตื่นเต้นมากครับ วันแรกมาต้องเข้าฉากกับพี่น้อย คือเราเห็นพี่น้อยอยู่แต่บนเวทีเราไม่เคยร่วมงานด้วยกัน คือผมก็ชอบพี่น้อยด้วย พี่เต๋าเราก็ชอบและชื่นชมเขา ไม่คิดว่าวันนึงเราจะได้มาร่วมงานกัน รู้สึกกดดันนิดหน่อยแรกๆ แต่หลังๆได้คุยกับกับพวกพี่ๆ พวกเขาเป็นคนน่ารักครับ ก็เริ่มผ่อนคลาย พอได้คุยมากขึ้นการทำงานมันก็ง่ายขึ้นครับ ก็ดีใจที่ร่วมงานกับพี่ๆเขาครับ”
ทั้งพี่เต๋า และพี่น้อย แนะนำเทคนิคการแสดงอย่างไรบ้าง
“ผมก็ชอบคุยชอบถามพวกพี่เข้าทั้ง 2 คนนะ แต่กับพี่น้อยผมจะเข้าฉากด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ พี่น้อยก็จะแนะนำว่าแสดงตามความรู้สึก ก็ได้คำแนะนำเยอะจากพวกพี่เขาครับ และก็อยากจะเป็นนักแสดงมืออาชีพเหมือนพี่เต๋า พี่น้อย คือผมเนี่ยต้องบอกก่อนว่าเกือบทุกคิวโดนพี่โขม ผู้กำกับว่าตลอด แต่จริงๆแล้วเขาพยายามกระตุ้นครับ”
ร่วมงานกับพี่โขม ผู้กำกับ เป็นอย่างไรบ้าง
“ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยินชื่อพี่โขม เคยดูหนังเรื่องลองชอง, ไชยา ผมชอบ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าก้องเกียรติ โขมศิริเป็นคนกำกับ พอได้มาร่วมงานกันรู้สึกดีใจที่ทำงานกับพี่โขม ประทับใจอะไรหลายๆอย่างของพี่โขม เขาเป็นคนเอ็นดูน้องๆ โดยเฉพาะผมกับนักแสดงใหม่อีก 2 คน คือเขาจะแนะนำตลอดว่าอย่างนี้นะ อย่างนี้นะ อย่างที่บอกโดนพี่โขมว่าเกือบทุกคิว แต่ดีใจนะครับที่พี่โขมเขาเตือนเรา ถ้าพี่โขมไม่เตือนนี่สิน่าคิดนะครับ(หัวเราะ) ผมเองก็พยายามทำเต็มที่ตามที่พี่โขมบอกและต้องการ ยิ่งเราได้เห็นฝีมือการแสดงของพวกรุ่นพี่พวกเขาแสดงดีกันทุกคน ผมก็ยิ่งอยากจะพัฒนาฝีมือตัวเองมากขึ้นครับ”
การร่วมงานกับ “คริน” ในเรื่องเป็นเพื่อนสนิทกันเลย แล้วนอกเรื่องทั้งคู่สนิทกันขนาดไหน
” ดีใจมากที่ได้รู้จักกับพี่ชายคนนี้ ผมก็ไม่คิดว่าผมจะได้สนิทกับเขาได้มากขนาดนี้มันเหมือนกับพี่น้องกันจริงๆ นอกจากจะอยู่ในกอง เวลาไปข้างนอกไม่ได้เจอกันนาน ก็มีนัดไปทานข้าวกันครับ ก็ดีใจที่ได้รู้จักพี่คริน เขาดูแลเหมือนผมเป็นน้องชายของเขาคนนึงเลย ประทับใจมากเลยครับ นอกจากพี่ครินก็มีน้องตรีครับ พวกเรา 3 คนก็จะสนิทกัน กับน้องตรีนี่ต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กกันด้วยในเรื่อง ก็เขินนะแต่ต้องรู้สึกว่าเฮ้ย!เราชอบผู้หญิงคนนี้ แอบปรึกษาครูเบล(แอ็คติ้งโค้ช) ต้องทำยังไงดี เราก็ต้องรู้สึกว่าชอบเขาจริงๆการแสดงก็จะออกมาดีครับ”
“อันธพาล” ในความหมายของบิ๊กคืออะไร
“อันธพาลจะแตกต่างกับนักเลงในความคิดผมตั้งแต่เด็กนะครับ คือ อันธพาลมันเหมือนเป็นคนชอบหาเรื่องชาวบ้าน แต่นักเลงจะแมนกว่า ผมว่านักเลงดูดีกว่าอันธพาล อันธพาลจะชอบท้าตียกพวกตี แต่ถ้านักเลงจะแบบใจใจมากกว่าครับ”
สมมุติว่าอยู่ในวงการอันธพาล จะเลือกเป็นอันธพาลแบบไหน
“ถ้าเลือกได้ขอเป็นอันธพาลแบบพี่จ๊อดดีกว่าครับ หล่อเหลือเกิน หล่อทุกซีน โอ้ย!อยากเล่นเป็น จ๊อดบ้าง(หัวเราะ) เท่ครับ แล้วยิ่งเป็นพี่น้อยมารับบทยิ่งรู้สึกว่าเหมาะกับเขามากเป็นคนใจดี แต่ก็ไม่ยอมใครไม่กลัวใครแล้วให้โอกาสคนตลอด เป็นนักเลงที่น่านับถือคนนึงครับ”
ความน่าสนใจของ อันธพาล
“ในแง่ความเป็นเพื่อน ความเป็นพี่เป็นน้องเสมือนคนในครอบครัว มีความรักและการเคารพให้กันตั้งแต่รุ่นเด็กสุดจนรุ่นผู้ใหญ่อาวุโสสุด มีความชัดเจนมากในเรื่องนี้ ผมว่าเรื่องความเคารพมันสำคัญมากนะครับ ยิ่งเราเคารพเขามากเท่าไหร่ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีครับ หรือแม้แต่เรื่องเพื่อนที่สนิทกัน เติบโตมาด้วยกันจนเมื่อต้องทะเลาะกัน หรือมีจุดที่ต้องแตกหักกันอย่างรุนแรง ผมเชื่อว่าคนที่มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แง่คิดกลับไปอย่างแน่นอน”
ฝากผลงาน
“ฝากผลงานด้วยนะครับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของบิ๊กเลย อันธพาลเป็นผลงานกำกับของพี่โขม ผมเชื่อว่าพี่โขมทำภาพยนตร์ออกมาได้ดีแน่นอน และมีนักแสดงมืออาชีพ อย่างพี่น้อย พี่เต๋า พี่แฟรงค์ หรือนักแสดงท่านอื่นๆอย่าง น้าสืบ ยกให้เป็นอาจารย์เลยทีเดียวครับ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ มาดูหนังไทยกันเยอะๆ”
บันทึกภาพ: สหมงคลฟิล์ม