ข้อมูล Japanese Girl Never Die >>

แชร์ข่าวนี้

กำหนดฉาย : 9 มีนาคม  2017

Haruko Azumi is Missing

            ฮารุโกะ อาซุมิ เป็นพนักงานออฟฟิศสาวโสดวัย 27 ปี วันหนึ่งเธอหายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ การหายไปของคนธรรมดาหนึ่งกลับกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา เมื่อมีวัยรุ่นคึกคะนองกลุ่มหนึ่ง พ่นสีใบประกาศคนหายของ ฮารูโกะ ไปทั่วเมือง ก่อให้เกิดเรื่องราววุ่นๆ ตามมาอีกมากมาย

ว่าแต่สุดท้ายแล้ว ฮารูโกะ อาซูมิ หายไปไหน และทำไมเธอจึงหายไป นี่เป็นคำถามที่ต้องไปหาคำตอบเอาเองใน Japanese Girls Never Die

JAPANESE-GIRLS (5)

ระดมพลทีมงานหญิงๆ ในหนังเพื่อผู้หญิงสุดแซ่บ

Japanese Girls Never Die สร้างจากนิยายขายดีของนักเขียน มาริโกะ ยามาอูจิ ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2013 หากสังเกตดีๆ จะพบว่าทีมงานตัวหลักในหนังเรื่องนี้ต่างก็เป็นผู้หญิงแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะ ยามาอูจิ เอง, คนเขียนบท มิซากิ เซโตยาม่า รวมไปถึงโปรดิวเซอร์ โยโกะ เอดามิ ผู้อยู่เบื้องหลังหนังวัยรุ่นเรื่องเยี่ยม The Kirishima Thing และที่ขาดไม่ได้นั่นคือ 2 นำแสดงนำประจำเรื่อง ยู อาโออิ และ มิทซูกิ ทาคาฮาตะ

JAPANESE-GIRLS (3)

กำกับโดยดาวรุ่งฝีมือจัดจ้าน

แม้ Japanese Girls Never Die จะรายล้อมไปด้วยทีมงานผู้หญิงคุณภาพ แต่เจ้าของตำแหน่งผู้กำกับนั้นคือชายหนุ่มวัย 31 หมาดๆ นามว่า ไดโกะ มัทสึอิ ผู้กำกับ มือเขียนบท และนักแสดงดาวรุ่งไฟแรงของญี่ปุ่น โดยแนวหนังที่เขาช่ำชองมากๆ คือแนวเยาวชน หรือ Young Adult หนังสีสันหวานแหวว ผลงานเรื่องเด่นของเขาอย่าง Wonderful World End นำแสดงโดย ไอ ฮาชิโมโต้ ได้รับเลือกให้ไปฉายที่เทศกาลหนังชื่อดังทั่วโลก อาทิ Berlin International Film Festival ครั้งที่ 65 และ  San Francisco International Film Festival ครั้งที่ 58 เป็นต้น

JAPANESE-GIRLS (1)

3 ช่วงวัยที่กระทบต่อกัน

สำหรับใน Japanese Girls Never Die ไดโกะ มัทสึอิ ยังไม่ทิ้งลาย ยังเล่าเรื่องของวัยรุ่นแซ่บๆ ตามแบบที่เขาถนัดเช่นเคย แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ เขาจะเล่าเรื่องราวของคนในช่วงวัย 20 ปีและ 40 กว่าๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย โดยทุกชีวิต ทุกช่วงวัยในหนังต่างมีได้รับผลกระทบจากการกระทำอันบ้าบิ่นของแต่ละคนอย่างไม่รู้ตัว

Timeline อันน่าฉงนของเรื่องราวสุดชุลมุน

ด้วยความที่ Japanese Girls Never Die เล่าเรื่องของตัวละครหลายช่วงอายุวัย และหลายช่วงเวลา ผู้กำกับ ไดโกะ มัทสึอิ จึงตัดสินใจว่าจะเล่าหนังเรื่องนี้โดยตัดสลับเส้นเรื่องของตัวละครแต่ละตัว เหตุผลหลักที่ผู้กำกับไดโกเลือกแบบนี้เพราะเขาอยากสร้างความฉงนงุนงงให้กับตัวหนัง แตกต่างจากในนิยายต้นฉบับของ มาริโกะ ยามาอูจิ ที่ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง “ผมอยากสร้างหนังที่ไม่เคยมีใครสร้างมาก่อน ผมอยากวาดภาพของญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันให้คนดูได้เห็น และผมก็หวังว่าผมจะทำออกมาได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ครับ”

JAPANESE-GIRLS (4)

ผลงานที่ไม่ควรพลาดของนักแสดงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ยู อาโออิ

หากใครเป็นแฟนหนัง/ซีรี่ส์ญี่ปุ่นตัวยง น่าจะจำชื่อและหน้าของนักแสดงสาวหน้าหวานและมากความสามารถอย่าง ยู อาโออิ ได้ดีจากหนังเรื่องเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น Hula Girls, One Million Yen and the Nigamushi Woman และ Hana and Alice (ทั้งเวอร์ชั่นคนแสดงและแอนิเมชั่น) รวมไปถึงซีรี่ส์น้ำดีอย่าง Osen และ Dr.Rintaro

Japanese Girls Never Die ยังเป็นหนังเรื่องแรกในรอบหลายปีที่ อาโออิ รับบทนำอย่างเต็มตัว หลังจากแอบไปแสดงบทสมทบจอมขโมยซีนมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Rurouni Kenshin, What A Wonderful Family! และ Patisserie Coin de rue เป็นต้น

JAPANESE-GIRLS (3)

เพราะเธอคือยอดฝีมือหน้าสวย

สาเหตุที่ ไดโกะ มัทสึอิ เลือก ยู อาโออิ ซึ่งมีอายุเท่ากันกับเขามารับบทนำใน Japanese Girls Never Die เป็นเพราะว่าหลังจากเคยเจอเธอมาหลายครั้ง เขาหลงเสน่ห์ชอบใบหน้าของเธออย่างมาก เขาคิดว่ามันคงจะดูดีไม่น้อยเวลาได้เห็นหน้าของเธออยู่บนประกาศคนหาย

ไม่เพียงแค่ชื่นชมใบหน้าของเธอ มัทสึอิ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ยู อาโออิ เป็นนักแสดงที่มีความสามารถในตัวสูง การได้ร่วมงานกับนักแสดงระดับเธอย่อมเป็นสิ่งที่นักทำหนังทุกคนต้องการ

ที่มา:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บันทึกภาพ:  ฝ่ายประชาสัมพันธ์
นำเสนอโดย www.starupdate.com หากนำข่าวไปใช้กรุณาอ้างอิงถึง www.starupdate.com ด้วย
แชร์ข่าวนี้