ประกาศผลหนังสั้น กิจกรรมสร้างสรรค์รับวันแม่ ชวนชมหนังสั้นกว่า 120 เรื่อง ภายใต้คอนเซปต์ “มนุษย์แม่” ผู้หญิงที่รักเราจนเกิน…..วันสุดท้าย

12/08/2017

แชร์ข่าวนี้

เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้วันแม่ในปีนี้ มีความหมายมากกว่าการให้เพียงดอกมะลิ! บริษัท เรสเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเรื่องเก้าอี้นวด เพื่อสุขภาพ ได้จัดงาน ประกาศผลรางวัลการประกวดภาพยนตร์สั้น “มนุษย์แม่” วัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณของแม่ เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไป ร่วมส่งผลงานเข้าประกวด ถ่ายทอดความรักของแม่ที่มีต่อลูกทุกคนบนโลก ปรากฏได้รับความสนใจมีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมจำนวนมากเป็นประวัติการณ์กว่า 120 ทีม แต่ละทีม สามารถสื่อความหมายความสัมพันธ์ของลูกกับแม่ หลายรูปแบบ หลายอารมณ์ ทั้ง สุข เศร้า ทุกข์ อบอุ่น ซึ้ง ดราม่า ตลก ฯลฯ การตัดสินใช้เกณฑ์มาตรฐาน ประกอบด้วย แนวคิด, การเล่าเรื่อง, การถ่ายทำ, ตัวแสดง ฯลฯ ผ่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ คุณกวาง– กมลชนก เขมะโยธิน, คุณแมว- จิระศักดิ์ ปานพุ่ม, คุณเบนซ์- ธนชาติ ศิริภัทราชัย, คุณแต้- สันติ แต้พานิช คุณมั้งค์- ชัยลดล โชควัฒนา ฯลฯ

คุณพิกุลทอง คัมภิรานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เรสเตอร์ (ประเทศไทย)จำกัด เผยถึงที่มาของโครงการจัดประกวดภาพยนตร์สั้น “มนุษย์แม่” การที่เราคิดโครงการประกวดหนังสั้น “มนุษย์แม่” นี้ขึ้นเพราะอยากให้ทุกๆ คนได้คิดถึงแม่มากกว่าการให้เพียงดอกมะลิ ซึ่งในความจริงแล้วแม่ของเราทำอะไรให้เราเยอะมากกว่าที่เราคิด ฉะนั้นเมื่อเกิดการประกวดทำหนังสั้นเกี่ยวกับแม่ขึ้น ก็เหมือนเป็นโจทย์หนึ่งให้ทุกคนได้กลับไปคิดว่าแม่ได้ทำอะไรมาบ้าง เช่น แม่ทำกับข้าวอร่อยๆ แม่เป็นแม่บ้านที่ดี ดุด่าสอนเรา หรือแม่เสียไปแล้วยังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณแม่ ตรงจุดนี้นี่แหละที่ทำให้ทุกคนได้คิดถึง เราจึงมองว่าการประกวดหนังสั้นครั้งนี้เป็นเหมือนเวทีหนึ่งที่ให้ทุกคนได้มีโอกาสแสดงไอเดียใหม่ๆ ซึ่งมีหลายทีมตีความมนุษย์แม่ในแบบที่แปลกออกไปหรือมีความใกล้เคียงกับชีวิตจริงที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเข้าถึงได้ เราได้เชิญผู้ที่มีประสบการณ์ในแวดวงโปรดักชั่น แวดวงภาพยนตร์มาร่วมเป็นกรรมการตัดสินในรอบแรก ต้องยอมรับว่าเป็นการทำงานหนักของกรรมการที่ต้องคัดเลือก จาก 120 กว่าทีม เหลือเพียง 10 ทีม มันค่อนข้างยากเพราะแต่ละทีมก็โดดเด่นต่างกันไป ซึ่งต้องบอกว่าไม่ง่ายกว่าจะตกผลึกจนเหลือแค่ 10 ทีม”

ผลงานชนะเลิศได้แก่ทีม Suppose that live everyday like it’s your last. โดย นายณฐนณ คูสกุล,นายวงสกุล เผ่าภูรี เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์แม่และลูกผู้ชายผู้เอาแต่ใจคู่หนึ่งที่แต่ละปีจะกลับมาหาแม่ แต่การมาครั้งนี้ลูกชายได้ยินข่าวว่าแม่จะขายบ้าน บ้านที่ครั้งหนึ่งเคยมีแต่ความอบอุ่น ความสุข แต่ตอนนี้ไร้ซึ่งสิ่งต่างๆ นั้นไปแล้ว ทำให้ผู้เป็นแม่หันหน้าเข้าวัดปฏิบัติธรรมอยากจะปลงทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำให้ลูกชายเกิดความไม่พอใจพูดตัดพ้อต่อว่า แต่ด้วยความเป็นแม่เธอก็พร้อมรับฟังเหตุผลและให้อภัยในสิ่งต่างๆ ที่ลูกทำไม่ดีเสมอ จุดเด่นคือการเล่าเรื่องผ่านงาน เทศกาล ความเชื่อ อย่างงาน บุญข้าวปะดับดิน หรือ บุญข้าวสารท ซึ่งทางภาคอีสานความเชื่อว่าในหนึ่งปีมีประตูนรกสวรรค์จะเปิดให้คนที่ตายไปแล้ว ได้กลับบ้านพบญาติพี่น้อง ในหนังสั้น หักมุม ให้ลูกตายแต่ทว่าอะไรที่ยังอยู่ นั่นความรักของแม่ยังอยู่ หนังอยากสะท้อนว่าเมื่อเรามีชีวิตควรทำดี อย่าให้แม่ต้องทำบุญส่งไปตอนที่เราไม่อยู่”

รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ สิบแปด ทีมนักศึกษา ม.รังสิต นายธวินท์ ไชยแดง, นิติพงษ์ การดี ฯลฯ เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ทันกับยุคปัจจุบัน ซึ่งหลายครั้งที่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้ง หนังเล่าเรื่องของมด เด็กดริงค์ในร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่ต้องมาถูกมัธ เด็กหนุ่มรุ่นพี่มาฉลองวันเกิดในร้านเหล้าที่เธอทำงานอยู่ และล่วงรู้ความลับบางอย่างของเธอ ซึ่งเธอก็มีเหตุผลมากมายที่อยากจะบอกกับเขา หนังเล่าถึงสัญชาตญาณและความรับผิดชอบ จะเป็นอะไรมาก็ตามแต่เมื่อต้องมาเป็นแม่แล้ว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ผู้หญิงคนหนึ่งอาจต้องปรับเปลี่ยนทุกอย่าง

ชมเชย 1 ได้แก่ The wall ทีมนายณภัทร อนุวงศ์จริญ เล่าเรื่องสถาบันครอบครัวขึ้นชื่อว่าสำคัญที่สุด เป็นสถานที่คอยสนับสนุนลูกๆ ทุกอย่าง คุณแม่ท่านหนึ่งคอยเฝ้าสังเกตการณ์ลูกของนาง วันแล้ววันเล่ากับการแอบมาซ้อมมวยไทย แต่ทว่าคุณแม่คอยกีดกันไม่ให้ลูกไปเตะต่อย เพราะมันไร้อนาคต ในความเป็นจริงแม่ย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกเสมอ แต่หนังก็ได้สะท้อนว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแม่นั้น อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูกเสมอไป สำคัญว่าควรเข้าใจกัน

ชมเชย 2 ได้แก่ You’re the only one here ทีมนักศึกษา ม.กรุงเทพ นายรวิพูล หงส์งาม, ณัฐมา ทองภิรมย์ ฯลฯ เล่าเรื่องความโหดร้ายที่เราต่างเห็นผ่านโซเชี่ยล ถ้าวันหนึ่งเกิดขึ้นในครอบครัว ใครล่ะจะเป็นผู้ที่อยู่ข้างเราจริงๆ แม้ว่าเราเป็นฝ่ายผิด เป็นนาทีที่ยากลำบากเมื่อผู้เป็นแม่ได้ล่วงรู้ว่าลูกของตัวเองเพิ่งจะไปฆ่าคนมา ในห้วงของความโกรธและความกดดัน ยังมีความรักและความถูกต้อง เธอจะตัดสินใจอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ หนังบีบคั้นหัวใจให้ได้รู้ถึงความเจ็บปวดของแต่ละฝ่าย และแม้ว่าลูกเป็นคนผิด ต้องเผชิญชะตากรรม แต่มีคนที่ช้ำยิ่งกว่าซึ่งก็คือมนุษย์แม่ สถานะที่ต้องมีความทุกข์ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

รางวัล Popular Vote ได้แก่ ในสายตา ทีมนักเรียนจากบดินทรเดชา เรื่องราวของเด็กวัยม.ปลาย คนหนึ่งชื่อว่า “แฮม” แฮมเป็นเด็กกิจกรรมตัวยงชอบทำกิจกรรม แต่ด้วยความที่แฮมเป็นตุ๊ดทำให้เพื่อนล้อและแซวเสมอ ภายในครอบครัวที่บ้านของแฮม แฮมอยู่กับแม่แค่ 2 คนแม่ลูก แต่แม่ของแฮมก็เหมือนแม่คนอื่นทั่วไปที่มักจะขี้บ่น ในทุกๆ เรื่องแฮมต้องแอบทำบางสิ่งบางอย่างที่แสดงออกให้เห็นว่าตัวเองนั้นเบี่ยงเบนทางเพศ เช่น การแต่งหน้า หรือการพูดคุยกับเพื่อนๆ แต่แท้จริงแล้วในสายตาของแม่นั้นรู้มาตลอดว่าแฮมเป็นอย่างไร แม่ยอมรับได้ และเซอร์ไพรส์ท้ายสุดถึงแม้ว่าแม่จะไม่ใช่แม้แท้ๆ ก็ตาม ไม่มีอะไรที่มนุษย์แม่รับไม่ได้เพราะลูกก็คือลูก

ด้านคณะกรรมการ อาทิ คุณกวาง– กมลชนก เขมะโยธิน, คุณแมว- จิระศักดิ์ ปานพุ่ม, คุณเบนซ์- ธนชาติ ศิริภัทราชัย, คุณแต้- สันติ แต้พานิช คุณมั้งค์- ชัยลดล โชควัฒนา ฯลฯ เผยจุดเด่นของหนังสั้นบนเวทีนี้ คือการบอกเล่าถึงพระคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้นจึงถ่ายทอดออกมาอย่างซาบซึ้งตามสไตล์ของแต่ละทีม สิ่งที่ได้รับจากการชมพร้อมตัดสินหนังสั้นชุดนี้ นอกจากเทคนิคใหม่ๆ การเล่าเรื่องในมุมมองที่แตกต่างแล้ว ยังประทับใจกับแนวคิด การคืนกำไรเพื่อสังคม เพราะสุดท้ายประเทศเราจะโตได้ก็ขึ้นอยู่กับเด็กที่จะโตมาในอนาคต ตอนนี้เราทุกคนพยายามปลูกฝังเรื่องแย่ๆ ใส่เด็ก เด็กก็จะโตมาเป็นต้นไม้แย่ๆ ที่ไม่ออกดอกออกผล แต่ถ้าเราปลูกฝังสิ่งดีๆ เช่น ความกตัญญูตั้งแต่เด็ก หรือไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์อะไรก็ได้ที่เป็นเรื่องที่ดีประเทศเราก็จะพัฒนา แต่ถ้าเอาแต่ประโคมข่าวร้าย สิ่งไม่ดีก็จะไปปลูกฝังหัวสมองของเด็กๆ ซึ่งเห็นในโซเชี่ยลที่ผู้ใหญ่ดูนั่นแหละ พอโตขึ้นมาก็กลายเป็นคนที่มีแต่เรื่องแย่ๆ อยู่ในหัว แล้วประเทศเราจะพัฒนาได้อย่างไร จึงคิดว่าอะไรที่มันดีก็ช่วยๆ กันทำเพื่อให้ได้ต่อยอดความดีให้ขยายไปในวงกว้าง สร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคมแก่คนไทย