เหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นความสูญเสียพระผู้เป็นหลักใจของประชาชนไทยทั้งผอง ก่อให้เกิดความตระหนกเสียขวัญและโศกเศร้าเหลือที่จะประมาณ แม้วันเวลาล่วงเลยไปหลายเดือนแล้ว ความอาลัยระลึกถึงพระองค์ท่านยังคงมีอยู่มิเสื่อมคลาย จะพอบรรเทาได้บ้างที่ได้รับพระบรมราชานุญาตพระราชทานโอกาสให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้เข้ากราบถวายสักการะหน้าพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง
หากแต่เมื่อมีกำหนดการถวายพระเพลิงพระบรมศพ หัวใจของพสกนิกรก็เหมือนกับถูกกระชากออกไปอีกครั้ง และครั้งนี้ จำนวนประชากรที่จงรักภักดีและรักเทิดทูนพระองค์มีมากมายเหลือคณานับ เป็นไปได้ยากยิ่งที่จะรวมคนไทยทั้งประเทศไปอยู่ในที่ประดิษฐานพระบรมศพเพื่อถวายพระเพลิง ส่งเสด็จพ่อหลวงของปวงชนเป็นครั้งสุดท้าย
เหตุนี้ ชมรมธุลีไท ภายใต้การนำของพระธีระพันธุ์ ธีรโพธิ หรือพระอาจารย์กวง จึงดำริจัดโครงการ หลับตาถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนส่วนหนึ่งได้รวมใจเป็นหนึ่ง ทำสิ่งที่เป็นกุศลในวาระแห่งการส่งเสด็จฯ เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการทำพิธีมนุษยาภิเษกแผ่นดินมงคล ร่วมกันน้อมจิตสงบนิ่ง เพื่อถวายกุศลแห่งความสงบและน้อมนำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
โครงการหลับตาถวายเป็นพระราชกุศลฯ นี้ พระอาจารย์กวงเกิดแรงบันดาลใจจากการที่ได้เห็นนักแต่งเพลง ศิลปินนักร้อง นักดนตรี ทำผลงานเพลงเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มาตั้งแต่ครั้งยังคงพระชนม์ชีพ จึงเกิดความคิดที่จะนำบทเพลงเทิดพระเกียรติและถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ต่างๆ เหล่านั้น มาบรรเลงและขับร้องในงานที่จะจัดขึ้นในวันคล้ายวันสวรรคต และในช่วงท้ายของกิจกรรม จะให้ผู้เข้าร่วมในงานหลับตาสงบนิ่งเป็นเวลา ๙ นาที มีการบรรเลง Spiritual Music เพื่อนำจิตของทุกคนให้ดิ่งลึกสู่ความสงบในสมาธิ เพื่อถวายกุศลแห่งความสงบนี้แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ
และการนี้ พระอาจารย์กวงตั้งใจบำเพ็ญวิริยะบารมีด้วยการอาสาที่จะออกเดินบิณฑบาตไปตามหัวเมืองต่างๆ จากกรุงเทพฯ ไปจนถึงเชียงใหม่ เพื่อบอกกล่าวและบรรยายถึงแนวทางการวางจิตเตรียมใจ สำหรับปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ เมื่อวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพมาถึง
ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พระธีระพันธุ์ ธีรโพธิ(พระอาจารย์กวง)เริ่มออกเดิน หลังจากปลงธรรมสังเวช ณ พระบรมมหาราชวัง ในเวลา ๖.๐๐ น. และเมื่อเดินมาถึง หอประชุม มหาวิทยาลัยรังสิตเวลา ๑๓.๐๐ น. ได้รับเกียรติจาก คุณ ปราไพ ปราสาททองโอสถ เป็นประธานดำเนินงานหลับตาถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ร่วมด้วย ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตกล่าวต้อนรับ พระธีระพันธุ์ ธีรโพธิ(พระอาจารย์กวง)บรรยายหัวข้อการวางจิตรักษาความสงบเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ , ไชยาและแอน มิตรชัยขับร้องบทเพลง “พระผู้บรรลุกาล ร่วมด้วย กรวิชญ์ ลอไพบูลย์ ขับร้องเพลง”ลูกจะขอทำต่อให้พ่อเอง” เนื้อร้องโดยพระธีระพันธุ์ ธีรโพธิ(พระอาจารย์กวง) ทำนองโดย อ.หง่าว บุญรัตน์ ศิริรัตนพันธ ในครั้งนี้ มีนักศึกษาและคณาจารย์กว่า600คนร่วมหลับตาถวายเป็นพระราชกุศลโดยมีกำหนดเดินทางต่อจนถึงเชียงใหม่ในวันที่๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐
และในวันศุกร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันครบรอบปีแห่งการสวรรคต ณ สวนยกจิต สบายกาย ตั้งอยู่ เลขที่ ๘๔ หมู่ ๖ ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จะมี พิธีมนุษยาภิเษกแผ่นดินมงคล หลับตาถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีการขับร้องและบรรเลงบทเพลงเทิดพระเกียรติ โดยผู้ร่วมโครงการและประชาชนผู้แสดงความจำนงที่จะร่วมร้องเพลง และมี ไฮไลต์ที่บทเพลง ดั่งทองทาบทาทั่วทั้งแผ่นดิน ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงแนว spiritual music ในช่วงท้ายแล้วเชิญชวนผู้ร่วมงานทุกคน หลับตา สงบนิ่งเป็นเวลา ๙ นาที ทำจิตให้สงบ ปล่อยวาง และน้อมจิตเพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
ทั้งนี้ได้จัดทำเหรียญที่ระลึกแผ่นดินมงคล ที่ประกอบขึ้นจากเนื้อดินทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งถูกเก็บกลับมาเมื่อครั้งพระอาจารย์กวงและชมรมธุลีไทจัดงาน นิทรรศการศิลปะยาตรา ภาพพระภูมิฟ้าน้อมโน้มโลมดิน นำภาพวาดพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จัดแสดงเป็นนิทรรศการเคลื่อนที่ไปทุกจังหวัด
พิธีมนุษยาภิเษกแผ่นดินมงคล เป็นการตั้งปณิธานอธิษฐานจิตด้วยพลังแห่งมนุษย์ ซึ่งจะเกิดขึ้นในระหว่างการสงบนิ่ง ตั้งจิตเป็นสมาธิ ๙ นาทีในช่วงท้าย มีบทเพลงบรรเลง ดั่งทองทาบทาทั่วทั้งแผ่นดิน โดยนำเหรียญ “แผ่นดินมงคล” จัดวางบนโตกยักษ์ เพื่อรับพลังจากจิตอันเป็นกุศลอันเกิดจากการสงบนิ่งเป็นสมาธิของพสกนิกรที่มาร่วมในงาน
เมื่อเสร็จ “พิธีมนุษยาภิเษก” ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านจะเดินออกมารับ “แผ่นดินมงคล” คนละหนึ่งเหรียญ เพื่อเป็นที่ระลึก เป็นเครื่องเตือนให้ระลึกถึงบุญคุณของแผ่นดินไทย และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงปกป้องคุ้มครองเอกราชของแผ่นดินเพื่อให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าใช้ชีวิตอย่างร่มเย็นเป็นสุข
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์