นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “บาส สุรเดช” นักแสดงหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่โด่งดังมาจากซีรีส์วายสุดฮอตอย่าง “เดือนเกี้ยวเดือน” ถ้าใครที่ติดตามหนุ่มคนนี้มาตั้งแต่ช่วงแคสติ้ง อาจจะทราบข่าวคราวเรื่องที่มีแอนตี้แฟนโจมตีหนุ่มบาส ว่าไม่เหมาะสมกับบทบาทตามนิยาย ถึงวันนี้หนุ่มบาส ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เห็นได้จากกลุ่มแฟนๆที่มารวมตัวกันห้างแทบแตกทุกครั้งที่หนุ่มบาสปรากฏตัว วันนี้ทาง Starupdate ได้มีบทสัมภาษณ์หนุ่มบาสว่าสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้อย่างไร
Q. ถ้าวันนึงไม่มีคนที่คอยซัพพอร์ตเรา ไม่มีแฟนคลับกลุ่มนี้ที่คอยตามเรา เราเคยคิดมั้ยว่าเราจะเป็นยังไง
Bas: เคยคิดครับ ว่ายังไงสักวันก็ต้องมี เพราะว่ามันเป็นวัฎจักร มีคนเคยบอกผมว่ามันเป็นวัฏจักร แต่ ผมก็ยังไม่เชื่อผมว่าครอบครัวผมหน่ะ แน่นพอสมควรอยู่ แต่ถ้าไม่มีผมคงอยู่ในวงการนี้แบบไม่ได้แฮปปี้เท่านี้
Q: แล้วเรารู้มั๊ยว่าแบบมีแอนตี้แฟนที่ไม่ชอบเราตั้งแต่ช่วงคัดตัว เรามีวิธีรับมือกับคนกลุ่มนี้ยังไง
Bas: ก็พอรู้บ้างครับ แต่ว่าเอาจริงแล้วผมไม่ค่อยเล่นโซเชี่ยลเท่าไหร่ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องพวกนี้ แต่บางทีก็เล่นบ้างแต่ก็ไม่อะไร ผมก็ไม่สนใจผมโฟกัสเรื่องงาน ผมไมได้อยากรู้เรื่องอะไรแบบนั้นครับเพราะว่าผมอยากทำงาน ก็คือหลักๆ คือครอบครัวครับผมไม่ใช่เรื่องแบบนั้น
Q: มันคือเหตุผลที่ทำให้เราไม่ค่อยเข้าโซเชี่ยลมั๊ย
Bas: ไม่ครับ ผมไม่ค่อยเล่นโซเชี่ยลอยู่แล้ว (เล่นเกมส์มากกว่า?) เล่นเกมส์บ้างหรือหาอะไรดูครับ
Q: เริ่มแรกเราเป็นดาราที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไหร่ จนตอนนี้เราโด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ เราเคยคิดหรือเปล่าว่าเราจะมาถึงขนาดนี้
Bas: ก็ตอนนี้ ยังไม่ได้ถือว่าดังครับเพราะว่าผมว่ามันพึ่งเป็นก้าวแรก คนไม่รู้จักเรามีอีก คนรู้จักเราบนโลกนี้มีแค่ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์เลยมั้ง เอาแค่ในเอเชียยังไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์เลยก็ยังคงเป็นนักแสดงคนนึงที่พึ่งเดินมาก้าวแรกครับ
Q: เวลาที่ไปออกงานแล้วมีดาราหรือผู้จัดงานเขาเอ็นดูเรา รู้สึกยังไงบ้าง
Bas: ก็ดีใจครับผมเพราะว่าก็มันเป็นโอกาสที่หายากที่ว่าผู้ใหญ่ในวงการหรือใครก็ตามมาเอ็นดูเราหรือแม้กระทั่งพี่ๆ แม่ๆ แฟนคลับก็ตามมาเอ็นดูเรามันก็เป็นเรื่องยากที่ตอนแรกจะมี แต่ตอนนี้พอได้มีก็รู้สึกดีใจ มันเป็นอะไรที่ดีสำหรับผมมากเพราะว่า การที่จะอยู่ที่นี่ได้ก็ต้องมีคนเอ็นดูหรือคอยซัพพอร์ตครับ
Q: แล้วถ้าวันนึงเราไม่ได้ทำงานในวงการแล้ว เราคิดมั๊ยว่าอนาคตอยากทำอะไร
Bas: ผมไม่เคยคิดเลย ผมยังพูดกับพี่โอ๋อยู่เลยว่า ถ้ามีโอกาสถ้ามันมีโอกาสจริงๆ ผมก็อยากจะอยู่จนถึงผมหงอก ผมคิดว่าต้องมีสักคนนึงที่ยังอยู่กับเราจนถึงวันนั้น
Q: เพื่อนสนิทที่สุดในวงการทีรู้สึกสนิทที่สุดแบบเวลาเรามีเรื่องเครียด มีเรื่องไม่สบายใจแล้วเราสามารถคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง
Bas: ถ่ายไปเลยครับตรงนั้น (น้องชี้ไปที่พี่คิม) พี่คิมก็ให้คำแนะนำได้ในหลายๆ อย่างเป็นพี่ที่ดีของผมใช่ ไม่ต้องพูดอะไรมากมองตาก็รู้ใจ พี่ชายอะ
Q: เมื่อเร็วๆ นี้ไปเที่ยวกับเพื่อนมาที่สิงคโปร์ถือว่าเป็นการชาร์ทแบตมั๊ยที่ทำงานหนักมาทั้งปี
Bas: ผมต้องบอกอย่างนี้ดีกว่าว่าตอนแรกอะ อยากจะหยุดสักอาทิตย์นึงมาก อยากหยุดมากแต่พอได้หยุดนะ โอโห อยากจะกลับมาทำงาน (ทำไมอะ?) มันรู้สึกขาดอะไรไปเหมือนแบบเราทำงานมาทั้งปีแล้วแบบอยากจะทำอีกแล้วพอได้หยุดมันรู้สึกขาดรู้สึกเหมือนไม่มีอะไร เราก็เลยอยากทำงานดีกว่าช่าย ก็ยังทักพี่โอ๋บอกว่า “พี่โอ๋ครับ เนี่ยผมอยากทำงานมากเลยผมรู้สึกแปลกที่แบบตื่นมาแล้วไม่มีงานให้ทำ” ผมยังทักพี่โอ๋แบบนี้อยู่เลย พี่โอ๋ก็บอกว่า พักผ่อนไปลูก เดี๋ยวกลับมาทำงานต่อ
Q: มีหลายคนที่เปลี่ยนจากเคยแอนตี้เรา แล้วตอนนี้มาเป็นแฟนคลับเราคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาเปลี่ยนจากไม่ชอบเรามาเป็นรักเรา
Bas: ผมก็ไม่รู้ใจคนเหมือนกันนะว่าเขาคิดอะไรแต่ว่ารู้แค่ว่าตอนนี้เขารักเราเอ็นดูเราคือคนที่รักผม ผมก็รักทุกคนครับก็ไม่คิดอะไรมากครับผม
Q: แล้วเวลาเครียดหรือไม่สบายใจเรามักจะทำอะไร แบบคนอื่นเขาจะออกไปเที่ยวแต่เราไม่สามารถออกไปได้
Bas: ผมก็เล่นเกมส์หรือไม่ก็เปิดทวิตดู ทั้งๆที่เล่นก็จะไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ กดอะไรก็ไม่รู้ผม ในทวิตก็เป็นบ้างไม่เป็นบ้าง บางทีก็เห็นกำลังใจจากพี่ๆ แม่ๆ ก็เพลินครับ มันรู้สึกว่ามีคนให้ความสนใจกับตรงนี้ที่เราทำ ทั้งๆ ที่เราไม่คิดว่า เอ๊ะเราก็ทำแบบนี้ไม่คิดว่าคนสนใจแต่ก็มี เราก็มานั่งดูเรื่อยๆบางครั้ง แต่ส่วนมากก็จะดูละคร ซิทคอม ก็อะไรประมาณนั้น แล้วก็เล่นเกมส์ (เป็นการฝึกอะไรไปด้วยหรือป่าว) ใช่ครับ ก็ดูว่ารุ่นใหญ่ๆ เล่นกันยังไง พริ้วมาก แต่ว่าอยู่คนเดียวมันก็ไม่ทำให้เรารู้ มันก็กลายเป็นดูเอาสนุกแทนแต่ก็ได้ข้อคิดหลายๆ อย่างจากพี่ๆ รุ่นใหญ่ที่เราดู
Q: มีไอดอลในการแสดงไหม ใครก็ได้ ในประเทศหรือต่างประเทศ
Bas: เอาประเทศไทยดีกว่า ถ้าเป็นผู้ชายก็เป็น มาริโอ้ เมาเร่อ แล้วกันครับเพราะว่าทั้งหล่อ เก่ง ชอบหน้าคมอะไรงี้ หล่อมาก ถ้าเป็นผู้หญิงก็เป็นพี่อั้มครับผม เพราะว่าเป็นซุปตาร์ของเมืองไทย
Q:ล่าสุดไปถ่ายรูปกับพี่อั้มมาเป็นยังไงบ้าง
Bas: อ๋อ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสอะไรอย่างนั้นนะครับเพราะว่าใครจะมาเจอพี่อั้มง่ายๆ ก็ไม่มีครับ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีครั้งนึงในชีวิตที่ได้เจอพี่อั้ม แล้วก็พี่เขาเป็นกันเอง เป็นกันเองมากๆ จนแบบตอนแรกเราคิดว่าพี่เขาอาจจะนิ่งๆ นะคงไม่มาคุยอะไรกับเด็กอย่างเราอะเป็นใครก็ไม่รู้ แต่เค้าก็เอ็นดู ก็คุยด้วยบางทีก้คุยนิดๆ หน่อยๆ คือแค่นี้ผมก็คิดว่าเค้าเป็นพี่ที่นิสัยดีแล้วก็สวย สวยจริงๆ น่ารัก (ปลื้มมากเลยไหม?) ใช่ครับ
Q: แล้วอย่างมาริโอ้เคยเจอตัวจริงมั๊ย
Bas: เคยเจอแต่ว่าไม่เคยได้คุยครับผม แต่ถ้าเป็นไปได้อยากจะร่วมงานกับทั้ง 2 คนนี้เลยก็เค้าเป็นรุ่นท็อปในวงการทั้งสองคนคือแบบป็อปปูล่าร์มากในไทยนี่คือแบบสุดยอด
Q:เคยมีเหตุการณ์ที่เคยเจอแฟนคลับแปลกๆ มั๊ย เช่นวิ่งมาประชิดตัวหรือให้ของอะไรแปลกๆ ต่างประเทศในประเทศก็ได้
Bas: อืม ก็ไม่มี ผมว่าทุกคนก็ปกติ
Q: ฝากอะไรถึงแฟนๆ
Bas: ก็ยังไงก็ฝากติดตามผลงาน way back home , SB5 ที่ทำร่วมกับ LOVEiS เป็น 3 เวอร์ชั่น ไทย จีน อังกฤษ, แล้วก็ Solarboys Project เป็นโฟโต้บุ๊คส์ให้ทุกคนเก็บสะสมรูปที่หลายลุคค์หลายสไตล์ของพวกเรา, แล้วก็จะมีเพลงคนที่ใช่ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรก็ใช่อยู่ดีเป็นเพลงเดี่ยวของผม , แล้วก็จะมีละครที่จีนที่ถ่ายไปแล้วกับพี่บี้ แล้วก็ปีหน้าจะเป็นพระเอกที่จีนแล้วครับ
บันทึกภาพ: STARUPDATE.COM