ประเดิมปีแรกของการดำเนินกิจการแบบฉายเดี่ยวส่งคาราวานหนัง 19 เรื่องเข้าฉายในประเทศไทย ในปี 2560 และสามารถกวาดรายได้ บ๊อกซ์ ออฟฟิศ ไปทั้งสิ้นรวม 805 ล้านบาท ลบสถิติรายได้ ปี2012 ซึ่งทำไว้ที่ 773 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ โซนี่ พิคเจอรส์ สตูดิโอ ในรอบ 20 ปี ที่เข้า มาดำเนินธุรกิจในฐานะค่ายภาพยนตร์ในประเทศไทย
ทั้งน้ี SPIDER-MAN : HOMECOMING ( สไปเดอร์แมน : โฮมคัมมิ่ง ) กลายเป็นหนังธงชัยฟอร์มยักษ์ของ ค่ายโซนี่ที่กวาดรายได้ไปแบบถล่มทลายกว่า 270 ล้านบาททั่วประเทศ ทุบสถิติรายได้ของหนังสไปเดอร์แมนทุกภาคที่เคยมีมา และข้ึนแท่นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลของค่ายโซนี่พิคเจอร์สโดยลบสถิติ รายได้237ล้านบาทของหนังฟอร์มยักษ์“2012”ที่เข้าฉายเมื่อปี2009อีกด้วย ส่วนภาพยนตร์แอ็คชั่น แฟนตาซี เรื่อง JUMANJI : WELCOME TO THE JUNGLE (จูแมนจี้ เกมดูดโลก..บุกป่ามหัศจรรย์) ซึ่ง เปิดฉายธันวาคม2560ที่ผ่านมาเป็นอีกหน่ึงซูเปอร์ไฮไลทข์องค่ายโซนี่เมื่อปีที่แล้ว โดยสามารถกวาดรายได้บ๊อกซ์ออฟฟิศทั่วประเทศทะลุหลัก165ล้านบาทไปเรียบร้อย
นอกจากน้ี SPIDER-MAN : HOMECOMING และ JUMANJI : WELCOME TO THE JUNGLE ยัง กลายเป็นหนัง 2 เรื่องของค่ายโซนี่ที่สามารถทำเงินติดตารางหนังทำเงินบ๊อกซ์ออฟฟิศ *สูงสุด5อันดับแรก ของไทยในปี2560อีกด้วย* บ๊อกซ์ออฟฟิศกรุงเทพฯและเชียงใหม่
นอกจากน้ีสไปเดอร์แมน โฮมคัมมิ่งและ จูแมนจี้เกมดูดโลก บุกป่ามหัศจรรย์ ซึ่งเป็นซูเปอร์ไฮไลท์ของค่าย เมื่อปีที่แล้ว ยังมีหนังอีก5-6 เรื่อง ซึ่งมีส่วนในการผลักดันยอดบ๊อกซ์ ออฟฟิศของค่ายในปี 2560 ไม่ว่าจะ เป็น RESIDENTEVIL :THEFINALCHAPTER (อวสานผีชีวะ) LIFE (สายพันธุ์มฤตยู) SMURFS : THE LOST VILLAGE (สเมิร์ฟ..หมู่บ้านที่สาบสญู ) DARK TOWER (หอคอยทมิฬ) BABY DRIVER (จี้เบบี้ปล้น) และ BLADE RUNNER 2049 (เบลด รันเนอร์ 2049)
นายรชต ธีระบุตร กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ โซนี่ พิค เจอรส์ เอ็นเตอรเ์ทนเมนต์(ประเทศไทย) กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจของโซนี่พิคเจอร์สประเทศไทยเป็นอย่างย่ิงหลังจากที่ทางสำนักงานใหญ่ ได้จัดตั้งบริษัท จัดจำหน่ายภาพยนตร์เป็นของตนเองเป็นเอกเทศ ใน 3 ประเทศในแถบเอเซียตะวันออกเฉียง ใต้ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วและเราสามารถสร้างสถิติรายได้บ๊อกซ์ออฟฟิศตลอดกาลของค่ายขึ้นใหม่ภายในปีแรกของการดำเนินกิจการ”
คุณรชต กล่าวเสริมอีก ว่า “นอกจากสไปเดอร์แมน และ จูแมนจี้ที่เป็นหนังธงชัยของเราเมื่อปีที่แล้ว ผมถือว่าหนังทุกเรื่องในคาราวานบันเทิงที่บริษัทเราตัดสินใจนำออกฉายมีส่วนในความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของเราด้วยนับตั้งแต่หนังเปิดศักราชอย่างTHEARRIVALหนังไซไฟเล็กๆที่เก็บไปได้เกือบ40ล้านบาทหรือหนังปัจฉิมบทของRESIDENTEVILที่ทำเงินไป120ล้านบาทLIFE ที่ถึงจะไม่เปรี้ยงดังคาดด้วยดารานำ แต่ไทยเราก็ทำเงินอยู่ในแถวหน้าของภูมิภาค THE DARK TOWER เก็บไปถึง 35 ล้านบาท แม้หนังจะมี ความท้าทายเพราะเป็นแนวคาวบอยไซไฟที่ได้ดาราผิวหมึกนำแสดงส่วนรายได้30ล้านสำหรับ BABY DRIVERหนังแอ็คชั่นดราม่าวัยรุ่นสุดแนวที่ไม่มีดาราแถวหน้าผมก็ถือว่าน่าพอใจและBLADERUNNER 2049 กับรายได้เฉียดหลัก 50 ล้านแม้จะผิดเป้าไปพอสมควร แต่ผมก็ถือว่าเราประสบความสาเร็จด้านการตลาดมากกับหนังแนว CULTCLASSIC เรื่องน้ีที่คนดูอาจต้องปีนบันไดดูนอกเหนือจากหนังเมนสตรีม ที่กล่าวข้างต้นยังมีคาราวานที่เป็นหนังคณภาพนอกกระแสที่ค่ายโซนี่เราตัดสินใจนำเข้ามาฉายให้กับคอหนัง ชาวไทยและได้รับการตอบรับที่ดีไม่ว่าจะเป็น T2:TRAINSPOTTINGT2,20THCENTURYWOMEN, PROFESSOR MARSTON & THE WONDER WOMAN ไปจนถึง CALL ME BY YOUR NAME ซึ่งเป็นกล่มุของหนังทางเลือกที่เรามีอยู่ในไลน์โดยผ่านโซนี่พิคเจอรส์คลาสสิคหรือไทรสตาร์พิคเจอร์ส โดยเราจับมือกับโรงภาพยนตร์HOUSERCAจัดฉายภาพยนตร์คุณภาพเหล่าน้ีภายใต้แคมเปญชื่อ SONY@HOUSE อีกด้วย”
“ผมต้องชื่นชมและขอบคุณทีมงานทกุคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจแบบเกินร้อยขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิด เป็นความสำเร็จอันย่ิงใหญ่ของเราเหนืออื่นใดประวัติศาสตร์ของค่ายโซนี่ในครั้งน้ีจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหาก ไม่ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนอย่างดีย่ิงเสมอมาจากพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ ตัวแทนจำหน่ายสายหนังต่างจังหวัดตลอดจนเพื่อนๆสื่อมวลชนทุดท่านซึ่งผมและทีมงานต้องขอขอบคุณ จากใจจริงมา ณ โอกาสน้ี” คุณรชต กล่าวในตอนท้าย
คุณดุจดาว พรหโมบล ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า “สำหนับโซนี่ พิคเจอรส์ นับว่าเป็นสตูดิโอที่มีภาพยนตร์หลากหลายรูปแบบและครบรสในส่วนของการทำการตลาดของภาพยนตร์แต่ละ เรื่องนั้นจึงแตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอรม์ยักษ์ระดับเมกะบล๊อกบัสเตอร์อย่างSPIDER- MAN:HOMECOMING(สไปเดอร์แมน:โฮมคัมมิ่ง)หรือภาพยนตร์ระดับกลางไปจนถึงภาพยนตร์ที่เข้าฉายเฉพาะจุด ดิฉันเชื่อว่าภาพยนตร์ในนทุกๆฟอรม์นั่นแผนกลยุทธ์ทางการตลาดมีผลกับคนดูและยอดรายได้
บ๊อกซ์ออฟฟิศทั้งสิ้น ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ถ้าเราวางแผนได้ดีเราอาจได้ขยายฐานกลุ่มคนดูเพิ่มขึ้น ส่วนภาพยนตร์ระดับฟอร์มเล็กกลางหรือหนังทางเลือกถ้าเราวางแผนได้ดีเราอาจทำให้คนดูสนใจและอยาก ลองเลือกที่จะมาดูหนังของเรา ถึงแม้ว่าในปัจจุบันน้ี คนดูสามารถเสพความบันเทิงได้หลากหลายรูปแบบและ หลายช่องทางแต่การซื้อตั๋วดูภาพยนตร์สักเรื่องยังคงเป็นความบันเทิงที่ไม่ได้มีราคาสูงมากนักเมื่อเทียบกับความบันเทิงรูปแบบอื่นส่วนตัวแล้วดิฉันเชื่อว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นฟอร์มเล็กหรือฟอร์มใหญ่ แผนการตลาดมีผลต่อรายได้บ๊อกซ์ออฟฟิศเสมอเราต้องสื่อสารให้คนที่ชอบดูหนังมาดูหนังและคนที่ไม่ชอบดูหนังให้อยากมาดูหนังค่ะ”
สำหรับศักราช 2018 น้ี โซนี่ พิคเจอร์ส ประเดิมปีด้วยความสะพรึงกับภาพยนตร์สยองขวัญภาคต่อเรื่อง INSIDIOUS: THE LAST KEY (วิญญาณตามติด: กุญแจผีบอก) ต่อจากน้ันโคลัมเบีย พิคเจอร์ส และโซนี่ แอนิเมชั่น จะเตรียมเปิดตัวพระเอกคนใหม่ PETER RABBIT ซึ่งเป็นภาพยนตร์ไลฟ์ แอ๊คชั่นผสมซีจีไอแอนิเมชั่น ซึ่งจะลงโรงต้อนรับปิดเทอมใหญ่และช่วงวันหยุดยาว 6 เมษายน ไปจนถึงสงกรานต์ ส่วนในครึ่งปีหลัง ทางค่ายโซนี่เตรียมคาราวานภาพยนตร์หลากรสอย่างน้อย 7 เรื่อง เร่ิมจาก ภาพยนตร์แอนิเมชั่นภาคต่อ HOTEL TRANSYLVANIA 3: MONSTER’S VACATION ในวันท่ี 23 สิงหาคม เดนเซล วอชิงตันจะ กลับมาเป็นนักฆ่าจับเวลาบู๊ระห่ำใน THE EQUALIZER 2 ในวันท่ี 6 กันยายน ตามมาด้วยภาพยนตร์แอ๊คชั่นผจญภัยที่หลายคนรอคอย ALPHA (ผจญแดนนรกทมิฬ 20,000 ปี ) ในวันท่ี 20 กันยายน ปิดเทอมตุลาคม โคลัมเบีย พิคเจอร์ส และมาร์เวล สตูดิโอ จับมือเข็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง VENOM (เวน่อม) ลงโรงในวันท่ี 11 ตุลาคม แจ็คแบล็คจะกลับมารับบท “สไตน์” ในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่อง GOOSEBUMPS: HORRORLAND (คืนอัศจรรย์ขนหัวลุกภาค 2) ช่วงปลายพฤศจิกายน และส่งท้ายปีด้วย ภาพยนตร์ทริลเลอร์ภาคต่อเรื่อง THE GIRL IN THE SPIDER’S WEB ในวันท่ี 5 ธันวาคม
บันทึกภาพ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์