หลังกระแสตอบรับแบบเกินคาดจากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ จนกลายเป็นภาพยนตร์ขวัญใจคนอเมริกันที่ปลุกทั้งประเทศให้ตาสว่างกับความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนจนไม่น่าเชื่อว่านี่ภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในอเมริกา “Blindspotting ที่นี่…ประเทศไหน ” เล่าเรื่องราวของ “คอลลิน” (ดาวีด ดิกส์)  หนุ่มผิวสีเลือดร้อนที่ต้องทำตัวดีเพื่อให้ผ่านทัณฑ์บนช่วงสามวันสุดท้ายไปให้ได้ โดยมีกฏเหล็กอยู่ 1 ข้อที่ว่า ห้ามคิดต่างหือทะเลาะกับตำรวจโดยเด็ดขาด  ฟากเพื่อนซี้จอมแสบอย่าง “ไมลส์” (ราฟาเอล คาซาล) ก็มักจะชอบพาความวายป่วงเข้ามาในชีวิตเขา  ทั้งคู่ทำงานเป็นพนักงานขนย้ายแล้วในคืนสุดท้ายก่อนที่ทัณฑ์บนจะหมดลง “คอลลิน” ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ ที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

ทั้งตลก ทั้งมีชีวิตชีวา และทั้งเจ็บปวด Blindspotting เป็นหนังที่สำคัญที่สุดของซัมเมอร์นี้” – ออสตินครอนิเคิล

“แค่เปิดเรื่องมา คุณก็รู้สึกได้แล้วว่า มันคือหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของปีนี้” – ซานฟรานซิสโก ครอนิเคิล

“บันเทิงมาก ในขณะเดียวกันก็ปล่อยหมัดฮุกเป็นระยะๆจนเล่นเอาจุก” – ไทม์ส แม็กกาซีน

“หนังเริ่มต้นด้วยอารมณ์ขันสุดเหวี่ยง ก่อนจะค่อยๆพาเราดำดิ่งลงเรื่อยๆ ยอดเยี่ยมที่สุด” – วอชิงตันโพสต์

“เพลงแร็พและมุกตลก ถูกนำมาใช้เล่าประเด็นสังคมได้เปี่ยมชั้นเชิง” – เดนนิส ชวาร์ตส์

“คุณจะต้องเดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกทึ่ง” – เดอะเพลย์ลิสต์

“ผสมความตลกโปกฮา เข้ากับความเศร้าชวนหัวใจสลายได้อย่างลงตัว” – เอนเตอร์เทนเมนต์วีคลี่ย์

“มีประเด็นที่หนักอึ้งและจริงจัง แต่เล่าด้วยลีลาที่เป็นธรรมชาติ และชาญฉลาด” – เจมส์ เบอราร์ดิเนลลี

“Blindspotting เป็นหนังตลกคู่หูที่ดี ในสไตล์ที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักบนจอภาพยนตร์” – คัลเจอร์วัลเจอร์ 

“สดใหม่ ตลก ระทึก บอกได้คำเดียวว่ารักหนังเรื่องนี้” – มูวี่ฟรีค.คอม