จัดเต็มความปัง! สมชื่อผู้นำ 5G ที่แท้ทรู เมื่อกลุ่มทรู เปิดให้คนไทยสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน 5G บนสภาพแวดล้อมจริงอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของไทย ในงาน “True 5G Digital Thailand, The 1^st Showcase powered by TrueMove H” เนรมิตทรู แบรนดิ้ง ช้อป ไอคอนสยาม เป็นโลกแห่งอนาคตสุดล้ำ ขนทัพสุดยอดนวัตกรรม 5G ที่ตั้งใจรังสรรค์มาเปิดให้ทดลองใช้งานจริง เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้เทคโนโลยี 5G ที่จะเข้ามาปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานของอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงได้เห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการสาธิตการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัย อาทิ ระบบเมืองและการขนส่งอัจฉริยะด้วยโดรน, 3D AR เชื่อมการทำงานแบบรีโมตจากระยะไกล, หุ่นยนต์อัจฉริยะเพื่อการทำงานในภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์ เป็นต้น เชิญชวนคนไทย นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนบุคคลที่สนใจร่วมทดลองและสัมผัสกับ 5G สุดว้าวเพื่อก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน เปิดให้เข้าชมฟรี! วันนี้ – 31 มกราคม 2562 ที่ทรู แบรนดิ้งช้อป ไอคอนสยาม

งานนี้เรียกได้ว่าว้าวถึงขีดสุด เพราะทรูได้ปรับโฉม ชั้น 3 และ 4 ของ ทรู แบรนดิ้ง ช้อป ไอคอนสยามให้เป็นโลกดิจิทัลสุดล้ำ จัดเต็มนวัตกรรม 5G ให้คนไทยได้สัมผัสอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยไฮไลต์ของงานอยู่ที่การจำลองเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตมาไว้ในงานแบบไม่มีกั๊ก ตอบโจทย์ทุกความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ด้านความบันเทิง กีฬา ระบบเมืองและการขนส่งยุคอนาคต รวมถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ต่างๆ เพื่อให้คนไทยได้เห็นภาพการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ภายในงานยังได้เหล่าศิลปินดาราชื่อดัง อาทิ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ / วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา / BNK48 / ศิลปินจาก AF และ The Voice พิสูจน์ความล้ำของสุดยอดนวัตกรรม 5G ด้วยตัวเอง

ภายในงาน “True 5G Digital Thailand, The 1^st Showcase powered by TrueMove H” ประกอบไปด้วยการสาธิตการใช้นวัตกรรม 5G สุดล้ำเพื่อมอบประสบการณ์ 5G แบบเต็มรูปแบบให้คนไทยได้สัมผัสในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายถึง 10 จุด ได้แก่

1. 5G Speed Test, The New Experience

สิ่งแรกที่หลายคนอาจตั้งคำถามเมื่อพูดถึง 5G คือ 5G เป็นอย่างไร เร็วแรงแค่ไหน ทรูมูฟ เอช จึงได้ทดสอบความเร็วในการส่งสัญญาณของ 5G ให้เห็นกันแบบจะจะเป็นครั้งแรกของไทย กับความเร็วที่สูงสุดถึง 18 Gbps หรือเร็วกว่า 4G ถึง 20 เท่าเลยทีเดียว ทั้งยังเปิดโอกาสให้ได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การใช้ 5G ในการใช้งานจริง อาทิ วิดีโอ 8K Full HD, กล้อง 8K VR 360 การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน และการปล่อยสัญญาณ Hot Spot ในที่ที่มีคนมากๆ เช่น คอนเสิร์ต เป็นต้น

2. Dancing Robot

เอ็นจอยกับความบันเทิงและสเต็ปการเต้นสุดเป๊ะของเหล่าหุ่นยนต์ Multi-axis ผ่านการสาธิตการสื่อสารข้อมูลด้วยความหน่วงต่ำ (low latency) บนเครือข่าย 5G โดยหุ่นยนต์ตัวแรกจะถูกควบคุมท่าเต้นและจังหวะการเต้นผ่านระบบควบคุม ก่อนจะส่งต่อคำสั่งไปยังหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ทำให้ออกลีลาการเต้นได้อย่างพร้อมเพรียง ซึ่งในอนาคตอาจจะได้เห็นเจ้าหุ่นยนต์นี้ไปออกสเต็ปโชว์ตัวในงานต่างๆ เพื่อสร้างสีสันและความบันเทิงอย่างแน่นอน

3. Virtual Driving

สายซิ่งไม่ควรพลาด! เพราะนวัตกรรมนี้จะสาธิตถึงการสื่อสารบนเครือข่าย 5G ที่มีค่าความหน่วงต่ำในการขับรถยนต์จำลอง โดยจะเห็นได้ชัดว่ารถยนต์จะตอบสนองต่อการควบคุมได้ในทันทีโดยปราศจากความหน่วง มอบประสบการณ์ความเร็ว แรง และมันส์สมจริง

4. City Model + Connected Drone

ปัจจุบันโดรนส่วนใหญ่มักถูกใช้ในเชิงสันทนาการหรืองานอดิเรก เช่น การถ่ายภาพ แต่แท้จริงแล้ว โดรนสามารถนำมาใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การตรวจสอบโครงสร้างอาคารสูง การตรวจ สภาพทางการเกษตร เป็นต้น ซึ่งการสาธิตนี้จะได้พบกับเมืองต้นแบบอัจฉริยะในโลกอนาคตที่เชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกันและนำโดรนเข้ามาช่วยสอดส่องความปลอดภัย เพื่อแสดงให้เห็นว่าการใช้โดรนสามารถเอื้อประโยชน์และอำนวยความสะดวกในชีวิตมนุษย์ได้อีกหลายด้าน อาทิ การสอดส่องความปลอดภัย การปราบปรามอาชญากรรม การใช้เป็นระบบขนส่งอัจฉริยะ หรือแม้แต่การใช้เพื่อสำรวจสถานที่ในขณะเกิดภัยพิบัติ

5. Remote Operation with 5G (Excavator)

การนำ 5G HF (High Frequency หรือ ความถี่สูง) มาใช้งาน โดยเปรียบเทียบให้เห็นภาพการทำงานของรถตักดินจำลองผ่านตัวควบคุม (Joystick) ระหว่างการเชื่อมต่อบนเครือข่าย LTG และ 5G ในการสั่งงานจากระยะไกลให้เห็นกันแบบชัดๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ รถตักดินจำลองที่เชื่อมต่อกับ 5G ตอบสนองต่อการควบคุมได้อย่างรวดเร็วและเรียลไทม์ อันเป็นผลมาจากการทำงานบน low latency หรือการมีค่าความหน่วงต่ำนั่นเอง ในอนาคต เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้อย่างหลากหลาย อาทิ การประยุกต์ใช้กับรถยนต์ไร้คนขับ ในสภาพแวดล้อมที่มีอันตราย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตได้ เป็นต้น

6. 3D Augmented Reality Collaboration

ปัจจุบันหลายองค์กรต่างกำลังมองหาเทคโนโลยีส่งเสริมการศึกษาและการฝึกอบรมที่จะเชื่อมคนให้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันมากขึ้น โดยไม่จำเป็นที่จะต้องพบปะกันแบบตัวต่อตัว ซึ่ง AR ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ การสาธิตนี้จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการทำงานของ 3D AR บน 5G ที่ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ ในสถานการณ์จำลองระหว่างคู่สนทนาที่กำลังทำงานร่วมกัน และพบว่าด้วยการเชื่อมต่อของ 5G สามารถช่วยให้ทำงานร่วมกันจากระยะไกลได้แบบอินเทอร์แอคทีฟและให้ความรู้สึกเสมือนสัมผัสได้จริง ในอนาคตเทคโนโลยีนี้อาจต่อยอดการนำ 5G ไปใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในหลากหลายแวดวง ไม่ใช่แค่เพียงเชิงธุรกิจ การศึกษา แต่อาจรวมถึงวงการแพทย์ที่สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากหลายมุมโลกได้แบบเรียลไทม์ เป็นต้น

7. Robot Arm Soccer Goal Keeper

เอาใจสายสปอร์ตให้ได้ยืดเส้นยืดสายพร้อมทดสอบประสิทธิภาพของ 5G ผ่านการเตะฟุตบอลชิงตำแหน่งดาวซัลโว พิชิตประตูของผู้รักษาประตูมือจักรกล แสดงให้เห็นถึงความเร็วในการตอบสนองต่อ 5G ในการควบคุมการทำงานระบบ AI ที่ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าจะยิงฟุตบอลอีกกี่ลูกก็เซฟได้ทันท่วงทีด้วยความเร็วแรงของ 5G นั่นเอง

8. Rock-Paper-Scissor with Robot Arm

เพลิดเพลินไปกับการเป่ายิ้งฉุบแบบไม่ธรรมดากับหุ่นยนต์มือกลที่ควบคุมการทำงานด้วย 5G และ Machine Learning ที่เรียนรู้ท่าทางต่างๆ ของคน ด้วยประสิทธิภาพความเร็วแรงของ 5G ที่จะทำให้เจ้าหุ่นยนต์มือกลสามารถโต้ตอบกับคนได้อย่างทันท่วงที เรียกได้ว่าไม่ยอมแพ้เลยทีเดียว

9. 360 VDO Live Streaming

พิสูจน์ความแรงของ 5G ด้วยการใช้งาน 360 Live VR Streaming สาธิตการชมวิดีโอที่ให้ประสบการณ์เสมือนจริงแบบไม่มีสะดุดผ่านเครือข่าย 5G โดยข้อมูลภาพจะถูกบันทึกจากกล้อง 6 ตัวและประมวลผลส่งภาพกลับมาผ่านเครือข่าย 5G ด้วยความเร็วสูงและค่าความหน่วงต่ำ ทำให้ผู้ใช้ที่สวมแว่นตา VR สามารถมองรอบข้าง 360 องศาได้อย่างเรียบลื่น ไม่มีสะดุด เสมือนอยู่ในสถานที่จริง หมดปัญหาเวียนหัวจากภาพที่สะดุด หน่วง และไม่ต่อเนื่องไปได้เลย

10. Future Factories

ในอนาคตแห่งการก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 อาจกล่าวได้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตหรือโรงงานต่างๆ จะต้องใช้ 5G หุ่นยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่อุตสาหกรรมของตนเอง การเชื่อมต่อ 5G จึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองโดยภาคอุตสาหกรรม เพื่อลดความเสี่ยงต่อและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ 5G จะมีบทบาทสำคัญในการเก็บรวบรวมข้อมูล แล้วนำข้อมูลนั้นๆ มาวิเคราะห์และสั่งการหุ่นยนต์ที่อยู่ในสายการผลิตผ่านระบบคลาวด์ การควบคุมการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อนำเข้ามาสู่สายการผลิตจริง โดยจะต้องมีค่าความหน่วง (latency) ที่ต่ำกว่า 1 ms การสาธิตนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการควบคุมแขนกลของหุ่นยนต์ที่สามารถควบคุมผ่านการขยับมือของผู้ควบคุมบนโครงข่าย 5G

“ตี๋ วิวิศน์ บวรกีรติขจร” หรือ “ตี๋ เอเอฟ” หนึ่งในเหล่าศิลปินที่ได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ 5G สุดล้ำกล่าวถึงความรู้สึกว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นและทึ่งมากที่ได้มาสัมผัสถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน จาก 4G ไปสู่ 5G ทั้งได้เห็นว่านวัตกรรมเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อชีวิตมนุษย์ สังคม และพัฒนาโลกในอนาคตได้อย่างไรบ้าง สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ การนำ 5G มาใช้กับ 3D AR ในการประชุมระหว่างคนสองคนในเชิงการแพทย์ ซึ่งผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าภาพที่เคยเห็นจากในภาพยนตร์เหล่านี้อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในอนาคตได้ แต่ตอนนี้มันกำลังจะเป็นจริงได้ด้วยเทคโนโลยี 5G นอกจากนี้ยังมีการสาธิตอื่นๆ ที่ผมประทับใจอีกมากมาย ผมขอบอกเลยว่าทุกคนต้องได้มาสัมผัสนวัตกรรมเหล่านี้ด้วยตัวเองจริงๆ ครับ”

ด้านหนุ่ม “แม็กซ์ อภิสร สุขวัฒนาศัย” แชมป์จากเวที AF12 เผยถึงความประทับใจและความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมทดสอบประสิทธิภาพของ 5G จากทรู ว่า “ผมดีใจที่วันนี้ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองว่าเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะเข้ามา สามารถเอื้อประโยชน์ในชีวิตมนุษย์ได้อย่างหลากหลายอย่างไรบ้าง ยิ่งเมื่อผมได้เห็นกับตาว่า 5G สามารถอำนวยความสะดวกให้มนุษย์เราสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น เรียลไทม์ บนค่าความหน่วงที่ต่ำ ทำให้ผมเชื่อว่าในอนาคต 5G จะช่วยพลิกโฉมการทำงานของเราได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน แม้กระทั่งในวงการบันเทิงเอง ผมอาจจะสามารถทำเพลงร่วมกับศิลปินจากอีกทวีปได้โดยไม่ต้องเดินทางและสื่อสารเข้าใจตรงกันผ่านเทคโนโลยีนี้ได้”

ปิดท้ายด้วยหนุ่ม “โบ๊ท สิริโรจน์ ปริญญานันท์” ผู้ประกาศข่าวหนุ่มนักล่าฝันจากเวที AF ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมทดสอบ 5G สุดล้ำว่า “รู้สึกตื่นตาตื่นใจมากครับที่ได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ของ 5G อย่างเต็มรูปแบบในงานนี้ ทำให้ผมได้เห็นว่า 5G จะเปลี่ยนวิถีชีวิตและอำนวยความสะดวกในชีวิตเราได้มากขึ้นจากเดิมอีกขนาดไหน เช่น การใช้โดรน ที่ผมเคยเข้าใจว่าเราคงใช้ในการถ่ายภาพสวยๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อมี 5G ผมถึงได้เห็นว่าเราสามารถใช้เทคโนโลยีโดรนในการสอดส่องความปลอดภัย การช่วยเหลือ หรือแม้กระทั่งสำหรับระบบโลจิสติกส์ก็อาจจะพลิกบทบาทการขนส่งสินค้าในอนาคตได้เลยครับ หากใครอยากมาเปิดโลกเทคโนโลยีที่ใหม่และล้ำหน้ากว่าที่ใด ก็สามารถมาสัมผัสได้ด้วยตัวเองที่ในงานนี้ครับ”

ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองครั้งสำคัญที่คนไทยทั้งประเทศจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ 5G ของจริงจากทรูมูฟ เอช ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ร่วมทดสอบและเปิดโลกยุค 5G ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่ ทรู แบรนดิ้ง ช้อป ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2562